เยฺ - พวกที่, ทฺุ - แต่, อัคชะรัมฺ - ซึ่งอยู่เหนือความเข้าใจของประสาทสัมผัส, อนิรเดชยัมฺ - ไม่มีที่สิ้นสุด, อัพยัคทัมฺ - ไม่ปรากฏ, พารยุพาสะเทฺ - ปฏิบัติการบูชาอย่างสมบูรณ์, สาร วะทระ-กัมฺ - แผ่กระจายไปทั่ว, อชินทยัมฺ - ไม่สามารถเห็นได้, ชะฺ - เช่นกัน, คูทะ-สทัฺมฺ - ไม่เปลี่ยนแปลง, อชะลัมฺ - ไม่เคลื่อนที่, ดฺรุวัมฺ - ตั้งมั่น, สันนิยัมยะฺ - ควบคุม, อินดริยะ- กรามัมฺ - ประสาทสัมผัสทั้งหมด, สารวะทระฺ - ทุกหนทุกแห่ง, สะมะ-บุดดฺะยะฮฺ - ปฏิบัติเสมอภาค, เทฺ - พวกเขา, พราพนุวันทิฺ - บรรลุ, มามฺ - ข้า, เอวะฺ - แน่นอน, สารวะ-บํูทะ- ฮิเทฺ - เพื่อประโยชน์สุขของมวลชีวิต, ระทาฮฺ - ปฏิบัติ
แต่พวกที่บูชาอย่างจริงจังกับสิ่งที่ไม่ปรากฏ ซึ่งอยู่เหนือความเข้าใจของประสาทสัมผัส แผ่กระจายไปทั่ว ไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มั่นคง และไม่เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นแนวคิดอันไร้รูปลักษณ์แห่งสัจธรรม ด้วยการควบคุมประสาทสัมผัส และปฏิบัติเสมอภาคกับทุก ๆ คน บุคคลเช่นนี้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของมวลชีวิต ในที่สุดจะบรรลุถึงข้า
พวกที่ไม่บูชาองค์ภควานคริชณะโดยตรง แต่พยายามบรรลุถึงเป้าหมายเดียวกันด้วยวิถีทางอ้อม ในที่สุดจะบรรลุถึงเป้าหมายเช่นเดียวกันคือชรีคริชณะ “หลังจากหลายต่อหลายชาติ มนุษย์ผู้มีปัญญาจะแสวงหาที่พึ่งในข้า รู้แจ้งว่าวาสุเดวะคือทุกสิ่งทุกอย่าง“ เมื่อบุคคลมีความรู้อย่างสมบูรณ์หลังจากหลายต่อหลายชาติจะศิโรราบต่อองค์ชรีคริชณะ หากเข้าหาองค์ภควานด้วยวิธีที่กล่าวไว้ในโศลกนี้เขาต้องควบคุมประสาทสัมผัส รับใช้ทุก ๆ คนและปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของมวลชีวิต สรุปแล้วว่าต้องเข้าพบคริชณะ มิฉะนั้น จะไม่รู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ ส่วนใหญ่จะปฏิบัติบำเพ็ญเพียรกันอย่างมากก่อนที่จะศิโรราบต่อพระองค์โดยสมบูรณ์
เพื่อสำเหนียกถึงองค์อภิวิญญาณภายในปัจเจกวิญญาณ เขาต้องหยุดกิจกรรมทางประสาทสัมผัสเช่น การเห็น การสดับฟัง การลิ้มรส การทำงาน ฯลฯ จากนั้นจึงมาถึงจุดที่เข้าใจว่า อภิวิญญาณทรงปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง เมื่อรู้แจ้งเช่นนี้เขาจะไม่อิจฉาชีวิตใด จะเห็นมนุษย์และสัตว์เท่าเทียมกันเพราะเห็นแต่ดวงวิญญาณเท่านั้นมิใช่สิ่งปกคลุมภายนอก สำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไปวิธีแห่งการรู้แจ้งที่ไร้รูปลักษณ์เช่นนี้ยากลำบากมาก