การอุทิศตนเสียสละรับใช้
โศลก 5
คเลโช ่ดิฺคะทะรัส เทชาม
อัพยัคทาสัคทะ-เชทะสามฺ
อัพยัคทา ฮิ กะทิร ดุฮคัฺม
เดฮะวัดบฺิร อวาพยะเทฺ
คเลชะฮฺ - ปัญหา, อดิฺคะ-ทะระฮฺ - มาก, เทชามฺ - ของพวกเขา, อัพยัคทะฺ - ต่อสิ่งที่ไม่ปรากฏ, อาสัคทะฺ - ยึดติด, เชทะสามฺ - จิตใจของพวกเขา, อัพยัคทาฺ - ต่อสิ่งที่ไม่ปรากฏ, ฮิฺ - แน่นอน, กะทิฮฺ - ก้าวหน้า, ดํุคัฺมฺ - ด้วยปัญหา, เดฮะ-วัดบิฺฮฺ - โดยร่างกาย, อวาพยะ เทฺ - บรรลุ
คำแปลฺ
สำหรับพวกที่จิตใจยึดติดอยู่กับลักษณะที่ไร้รูปลักษณ์อันไม่ปรากฏขององค์ภควาน ความเจริญก้าวหน้านั้นมีปัญหามาก การทำความเจริญก้าวหน้าในนิกายนี้ยากเสมอสำหรับผู้ที่อยู่ในร่างกาย
คำอธิบายฺ
กลุ่มนักทิพย์นิยมผู้ปฏิบัติตามวิถีทางที่มองไม่เห็น ไม่เป็นที่ปรากฏ ลักษณะไร้รูปลักษณ์ขององค์ภควานเรียกว่า กยานะ-โยกีฺ และบุคคลผู้อยู่ในคริชณะจิตสำนึกโดยสมบูรณ์ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อองค์ภควานเรียกว่า บัฺคธิ-โยกีฺ บัดนี้ข้อแตกต่างระหว่าง กยานะ-โยกะฺ และ บัคธิ-โยกะฺ ได้อธิบายอย่างชัดเจน วิธีการของ กยานะ-โยกะฺ ถึงแม้ว่าในที่สุดจะนำมาถึงเป้าหมายเดียวกัน แต่มีปัญหามาก ขณะที่วิถีทางของ บัฺคธิ-โยกะฺ วิธีการรับใช้บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยตรงง่ายกว่าและเป็นธรรมชาติสำหรับวิญญาณที่อยู่ในร่างกาย ปัจเจกวิญญาณอยู่ภายในร่างกายตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ จึงเป็นสิ่งยากมากที่จะให้เข้าใจเพียงแค่ทฤษฎีว่าตัวเขาไม่ใช่ร่างกายดังนั้น บัฺคธิ-โยกีฺ ยอมรับพระปฏิมาของคริชณะ เป็นที่สักการบูชา เพราะมีแนวความคิดทางร่างกายบางอย่างตั้งมั่นอยู่ในจิตใจซึ่งนำมาปฏิบัติได้ แน่นอนว่าการบูชาบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าในรูปลักษณ์ของพระองค์ภายในวัด มิใช่เป็นการบูชารูปปั้น มีหลักฐานในวรรณกรรมพระเวทว่าการบูชาอาจเป็น สะกุณะฺ องค์ภควานผู้ครอบครอง และ นิรกุณะฺ องค์ภควานในลักษณะไม่ครอบครอง การบูชาพระปฏิมาในวัดเป็นการบูชา สะกุณะฺ เพราะว่าองค์ภควานมีลักษณะทางวัตถุเป็นผู้แทน แต่รูปลักษณ์ขององค์ภควานถึงแม้ว่ามีลักษณะทางวัตถุเป็นผู้แทน เช่น หิน ไม้ หรือภาพวาดสีน้ำมัน อันที่จริงไม่ใช่วัตถุ นั่นคือธรรมชาติอันสมบูรณ์บริบูรณ์ขององค์ภควาน
ตัวอย่างง่าย ๆ ให้ไว้ ณ ที่นี้ คือเราอาจพบตู้ไปรษณีย์ริมถนน หากเราหย่อนซองจดหมายลงไปในตู้ไปรษณีย์เหล่านั้น โดยธรรมชาติจดหมายจะไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ยากลำบาก แต่หากเป็นตู้เก่าหรือตู้ไปรษณีย์ปลอมที่เราอาจพบซึ่งกรมไปรษณีย์ไม่รับรอง การส่งจดหมายนี้จะไม่ประสบผลสำเร็จ ในทำนองเดียวกันองค์ภควานทรงมีผู้แทนที่รับรองได้ในรูปลักษณ์พระปฏิมาเรียกว่า อารชา-วิกระฮะ, อารชา-วิกระฮะฺ นี้เป็นอวตารขององค์ภควาน พระองค์จะทรงรับบริการรับใช้ผ่านรูปลักษณ์นั้น องค์ภควานผู้ทรงเดชมีพลังทั้งหมด ฉะนั้น อวตารในรูป อารชา-วิกระ- ฮะฺ ทรงสามารถรับการรับใช้ของสาวกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่มนุษย์ในชีวิตที่อยู่ในสภาวะ
ดังนั้น สำหรับสาวกจะไม่มีความยากลำบากในการเข้าถึงองค์ภควานโดยตรงและรวดเร็ว แต่สำหรับพวกที่ปฏิบัติตามวิธีที่ไร้รูปลักษณ์เพื่อความรู้แจ้งทิพย์ วิถีทางนั้นยาก เพราะต้องทำความเข้าใจกับผู้แทนที่ไม่ปรากฏของพระองค์ผ่านทางวรรณกรรมพระเวท เช่น อุพะนิชัดฺ และต้องเรียนภาษา ต้องเข้าใจความรู้สึกที่มองไม่เห็น และต้องรู้แจ้งถึงวิธีกรรมทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งไม่ใช่ของง่ายสำหรับมนุษย์ธรรมดา บุคคลในคริชณะจิตสำนึกปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ จากการชี้นำของพระอาจารย์ทิพย์ผู้ที่เชื่อถือได้ ถวายความเคารพต่อพระปฏิมาสม่ำเสมอ สดับฟังพระบารมีขององค์ภควานและรับประทานอาหารส่วนที่เหลือหลังจากถวายให้พระองค์แล้ว เพียงแต่ทำสิ่งเหล่านี้ ผู้นี้สามารถรู้แจ้งถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยง่ายดาย พวกไม่เชื่อในรูปลักษณ์รับเอาวิธีปฏิบัติที่มีปัญหาด้วยความเสี่ยงที่จะไม่รู้แจ้งถึงสัจธรรมในบั้นปลายโดยไม่ต้องสงสัย แต่ผู้ที่เชื่อในรูปลักษณ์โดยปราศจากความเสี่ยง ปัญหา หรือ ความยากลำบาก เข้าถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยตรง มีข้อความในทำนองเดียวกันนี้ปรากฏใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ ว่า หากผู้ใดในที่สุดต้องศิโรราบต่อบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า (วิธีการศิโรราบนี้เรียกว่าบัฺคธิฺ) แต่ไปรับเอาความยากลำบากในการเข้าใจว่าอะไรคือ บระฮมันฺ และอะไร ไม่ใชฺ่บระฮมันฺ และได้ใช้เวลาของตนตลอดชีวิตปฏิบัติเช่นนี้ผลที่ได้ก็มีแต่ปัญหา ฉะนั้น จึงแนะนำไว้ ณ ที่นี้ว่า เราไม่ควรรับเอาวิถีทางเพื่อการรู้แจ้งแห่งตนที่เป็นปัญหา เพราะว่าผลขั้นสุดท้ายจะไม่แน่นอน
สิ่งมีชีวิตเป็นปัจเจกวิญญาณชั่วกัลปวสาน หากปรารถนาจะกลืนเข้าไปในส่วนทิพย์ เขาอาจบรรลุถึงความรู้แจ้งแง่มุมของความเป็นอมตะและความรู้ในธรรมชาติเดิมแท้ของตน แต่ส่วนที่เป็นความปลื้มปีติสุขจะไม่สามารถรู้แจ้ง ด้วยพระกรุณาธิคุณของสาวกบางรูปทำให้นักทิพย์นิยมผู้มีความรู้สูงในวิธีของ กยานะ-โยกะฺ นี้อาจมาถึงจุดแห่ง บัฺคธิ-โยกะฺ หรือการอุทิศตนเสียสละรับใช้ เมื่อถึงเวลานั้นการฝึกปฏิบัติตามลัทธิไร้รูปลักษณ์เป็นเวลายาวนานจะกลายมาเป็นปัญหาเพราะไม่สามารถยกเลิกความคิดนั้นได้ ดังนั้น วิญญาณผู้อยู่ในร่างจะมีความยากลำบากกับสิ่งที่ไม่ปรากฏ ทั้งในขณะที่ปฏิบัติและในขณะที่รู้แจ้ง ทุกดวงวิญญาณมีเสรีภาพบางส่วน และควรรู้อย่างแน่ชัดว่า ความรู้แจ้งที่ไม่เป็นที่ปรากฏนี้ ฝืนต่อธรรมชาติของตนเองซึ่งเป็นทิพย์และมีความปลื้มปีติสุข จึงไม่ควรปฏิบัติตามวิธีนี้ สำหรับทุก ๆ ปัจเจกชีวิต วิธีแห่งคริชณะจิตสำนึกจะนำมาซึ่งการปฏิบัติอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างสมบูรณ์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดหากละเลยการอุทิศตนเสียสละรับใช้นี้จะเป็นอันตรายในการกลับไปสู่ลัทธิที่ไม่เชื่อในองค์ภควาน ดังนั้น วิธีที่มุ่งความตั้งใจไปยังสิ่งที่ไม่เป็นที่ปรากฏ ไม่สามารถมองเห็นได้ อยู่เหนือการเข้าถึงของประสาทสัมผัส ได้แสดงไว้ในโศลกนี้ว่า ไม่ควรได้รับการส่งเสริมไม่ว่าในเวลาใด โดยเฉพาะในยุคนี้ ซึ่งองค์ชรีคริชณะทรงไม่แนะนำ