ภควัต-คีตา ฉบับเดิม

บทที่ สิบสอง

การอุทิศตนเสียสละรับใช้

โศลก 5

คเลโช ่ดิฺคะทะรัส เทชาม
อัพยัคทาสัคทะ-เชทะสามฺ

อัพยัคทา ฮิ กะทิร ดุฮคัฺม
เดฮะวัดบฺิร อวาพยะเทฺ

คเลชะฮฺ  -  ปัญหา, อดิฺคะ-ทะระฮฺ  -  มาก, เทชามฺ  -  ของพวกเขา, อัพยัคทะฺ  -  ต่อสิ่งที่ไม่ปรากฏ, อาสัคทะฺ  -  ยึดติด, เชทะสามฺ  -  จิตใจของพวกเขา, อัพยัคทาฺ  -  ต่อสิ่งที่ไม่ปรากฏ, ฮิฺ  -  แน่นอน, กะทิฮฺ  -  ก้าวหน้า, ดํุคัฺมฺ  -  ด้วยปัญหา, เดฮะ-วัดบิฺฮฺ  -  โดยร่างกาย, อวาพยะ เทฺ  -  บรรลุ

คำแปลฺ

สำหรับพวกที่จิตใจยึดติดอยู่กับลักษณะที่ไร้รูปลักษณ์อันไม่ปรากฏขององค์ภควาน  ความเจริญก้าวหน้านั้นมีปัญหามาก  การทำความเจริญก้าวหน้าในนิกายนี้ยากเสมอสำหรับผู้ที่อยู่ในร่างกาย

คำอธิบายฺ

กลุ่มนักทิพย์นิยมผู้ปฏิบัติตามวิถีทางที่มองไม่เห็น  ไม่เป็นที่ปรากฏ  ลักษณะไร้รูปลักษณ์ขององค์ภควานเรียกว่า  กยานะ-โยกีฺ  และบุคคลผู้อยู่ในคริชณะจิตสำนึกโดยสมบูรณ์ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อองค์ภควานเรียกว่า  บัฺคธิ-โยกีฺ  บัดนี้ข้อแตกต่างระหว่าง  กยานะ-โยกะฺ  และ  บัคธิ-โยกะฺ  ได้อธิบายอย่างชัดเจน  วิธีการของ  กยานะ-โยกะฺ  ถึงแม้ว่าในที่สุดจะนำมาถึงเป้าหมายเดียวกัน  แต่มีปัญหามาก  ขณะที่วิถีทางของ  บัฺคธิ-โยกะฺ  วิธีการรับใช้บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยตรงง่ายกว่าและเป็นธรรมชาติสำหรับวิญญาณที่อยู่ในร่างกาย  ปัจเจกวิญญาณอยู่ภายในร่างกายตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์  จึงเป็นสิ่งยากมากที่จะให้เข้าใจเพียงแค่ทฤษฎีว่าตัวเขาไม่ใช่ร่างกายดังนั้น  บัฺคธิ-โยกีฺ  ยอมรับพระปฏิมาของคริชณะ  เป็นที่สักการบูชา  เพราะมีแนวความคิดทางร่างกายบางอย่างตั้งมั่นอยู่ในจิตใจซึ่งนำมาปฏิบัติได้  แน่นอนว่าการบูชาบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าในรูปลักษณ์ของพระองค์ภายในวัด  มิใช่เป็นการบูชารูปปั้น  มีหลักฐานในวรรณกรรมพระเวทว่าการบูชาอาจเป็น  สะกุณะฺ  องค์ภควานผู้ครอบครอง  และ  นิรกุณะฺ  องค์ภควานในลักษณะไม่ครอบครอง  การบูชาพระปฏิมาในวัดเป็นการบูชา  สะกุณะฺ  เพราะว่าองค์ภควานมีลักษณะทางวัตถุเป็นผู้แทน  แต่รูปลักษณ์ขององค์ภควานถึงแม้ว่ามีลักษณะทางวัตถุเป็นผู้แทน  เช่น  หิน  ไม้  หรือภาพวาดสีน้ำมัน  อันที่จริงไม่ใช่วัตถุ  นั่นคือธรรมชาติอันสมบูรณ์บริบูรณ์ขององค์ภควาน

ตัวอย่างง่าย  ๆ  ให้ไว้  ณ  ที่นี้  คือเราอาจพบตู้ไปรษณีย์ริมถนน  หากเราหย่อนซองจดหมายลงไปในตู้ไปรษณีย์เหล่านั้น  โดยธรรมชาติจดหมายจะไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ยากลำบาก  แต่หากเป็นตู้เก่าหรือตู้ไปรษณีย์ปลอมที่เราอาจพบซึ่งกรมไปรษณีย์ไม่รับรอง  การส่งจดหมายนี้จะไม่ประสบผลสำเร็จ  ในทำนองเดียวกันองค์ภควานทรงมีผู้แทนที่รับรองได้ในรูปลักษณ์พระปฏิมาเรียกว่า  อารชา-วิกระฮะ,  อารชา-วิกระฮะฺ  นี้เป็นอวตารขององค์ภควาน  พระองค์จะทรงรับบริการรับใช้ผ่านรูปลักษณ์นั้น  องค์ภควานผู้ทรงเดชมีพลังทั้งหมด  ฉะนั้น  อวตารในรูป  อารชา-วิกระ-  ฮะฺ  ทรงสามารถรับการรับใช้ของสาวกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่มนุษย์ในชีวิตที่อยู่ในสภาวะ

ดังนั้น  สำหรับสาวกจะไม่มีความยากลำบากในการเข้าถึงองค์ภควานโดยตรงและรวดเร็ว  แต่สำหรับพวกที่ปฏิบัติตามวิธีที่ไร้รูปลักษณ์เพื่อความรู้แจ้งทิพย์  วิถีทางนั้นยาก  เพราะต้องทำความเข้าใจกับผู้แทนที่ไม่ปรากฏของพระองค์ผ่านทางวรรณกรรมพระเวท  เช่น  อุพะนิชัดฺ  และต้องเรียนภาษา  ต้องเข้าใจความรู้สึกที่มองไม่เห็น  และต้องรู้แจ้งถึงวิธีกรรมทั้งหลายเหล่านี้  ซึ่งไม่ใช่ของง่ายสำหรับมนุษย์ธรรมดา  บุคคลในคริชณะจิตสำนึกปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้  จากการชี้นำของพระอาจารย์ทิพย์ผู้ที่เชื่อถือได้  ถวายความเคารพต่อพระปฏิมาสม่ำเสมอ  สดับฟังพระบารมีขององค์ภควานและรับประทานอาหารส่วนที่เหลือหลังจากถวายให้พระองค์แล้ว  เพียงแต่ทำสิ่งเหล่านี้  ผู้นี้สามารถรู้แจ้งถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยง่ายดาย  พวกไม่เชื่อในรูปลักษณ์รับเอาวิธีปฏิบัติที่มีปัญหาด้วยความเสี่ยงที่จะไม่รู้แจ้งถึงสัจธรรมในบั้นปลายโดยไม่ต้องสงสัย  แต่ผู้ที่เชื่อในรูปลักษณ์โดยปราศจากความเสี่ยง  ปัญหา  หรือ  ความยากลำบาก  เข้าถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยตรง  มีข้อความในทำนองเดียวกันนี้ปรากฏใน  ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ  ว่า  หากผู้ใดในที่สุดต้องศิโรราบต่อบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า  (วิธีการศิโรราบนี้เรียกว่าบัฺคธิฺ)  แต่ไปรับเอาความยากลำบากในการเข้าใจว่าอะไรคือ  บระฮมันฺ  และอะไร  ไม่ใชฺ่บระฮมันฺ  และได้ใช้เวลาของตนตลอดชีวิตปฏิบัติเช่นนี้ผลที่ได้ก็มีแต่ปัญหา  ฉะนั้น  จึงแนะนำไว้  ณ  ที่นี้ว่า  เราไม่ควรรับเอาวิถีทางเพื่อการรู้แจ้งแห่งตนที่เป็นปัญหา  เพราะว่าผลขั้นสุดท้ายจะไม่แน่นอน

สิ่งมีชีวิตเป็นปัจเจกวิญญาณชั่วกัลปวสาน  หากปรารถนาจะกลืนเข้าไปในส่วนทิพย์  เขาอาจบรรลุถึงความรู้แจ้งแง่มุมของความเป็นอมตะและความรู้ในธรรมชาติเดิมแท้ของตน  แต่ส่วนที่เป็นความปลื้มปีติสุขจะไม่สามารถรู้แจ้ง  ด้วยพระกรุณาธิคุณของสาวกบางรูปทำให้นักทิพย์นิยมผู้มีความรู้สูงในวิธีของ  กยานะ-โยกะฺ  นี้อาจมาถึงจุดแห่ง  บัฺคธิ-โยกะฺ  หรือการอุทิศตนเสียสละรับใช้  เมื่อถึงเวลานั้นการฝึกปฏิบัติตามลัทธิไร้รูปลักษณ์เป็นเวลายาวนานจะกลายมาเป็นปัญหาเพราะไม่สามารถยกเลิกความคิดนั้นได้  ดังนั้น  วิญญาณผู้อยู่ในร่างจะมีความยากลำบากกับสิ่งที่ไม่ปรากฏ  ทั้งในขณะที่ปฏิบัติและในขณะที่รู้แจ้ง  ทุกดวงวิญญาณมีเสรีภาพบางส่วน  และควรรู้อย่างแน่ชัดว่า  ความรู้แจ้งที่ไม่เป็นที่ปรากฏนี้  ฝืนต่อธรรมชาติของตนเองซึ่งเป็นทิพย์และมีความปลื้มปีติสุข  จึงไม่ควรปฏิบัติตามวิธีนี้  สำหรับทุก  ๆ  ปัจเจกชีวิต  วิธีแห่งคริชณะจิตสำนึกจะนำมาซึ่งการปฏิบัติอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างสมบูรณ์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดหากละเลยการอุทิศตนเสียสละรับใช้นี้จะเป็นอันตรายในการกลับไปสู่ลัทธิที่ไม่เชื่อในองค์ภควาน  ดังนั้น  วิธีที่มุ่งความตั้งใจไปยังสิ่งที่ไม่เป็นที่ปรากฏ  ไม่สามารถมองเห็นได้  อยู่เหนือการเข้าถึงของประสาทสัมผัส  ได้แสดงไว้ในโศลกนี้ว่า  ไม่ควรได้รับการส่งเสริมไม่ว่าในเวลาใด  โดยเฉพาะในยุคนี้  ซึ่งองค์ชรีคริชณะทรงไม่แนะนำ