สามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ
โศลก 2
อิดัม กยานัม อุพาชริทยะ
มะมะ สาดฺารมยัม อากะทาฮฺ
สารเก ่พิ โนพะจายันเท
พระละเย นะ วิยะทัฺนทิ ชะฺ
อิดัมฺ - นี้, กยานัมฺ - ความรู้, อุพาชริทยะฺ - มาพึ่ง, มะมะฺ - ของข้า, สารดฺารมยัมฺ - ธรรมชาติเดียวกัน, อากะทาฮฺ - บรรลุ, สารเก อพิฺ - แม้ในการสร้าง, นะฺ - ไม่เคย, อุพะจายันเทฺ - เกิด, พระละเยฺ - ในการทำลาย, นะฺ - ไม่, วิยะทัฺนทิฺ - วุ่นวายใจ, ชะฺ - เช่นกัน
คำแปลฺ
เมื่อมาตั้งมั่นในความรู้นี้ เขาสามารถบรรลุถึงธรรมชาติทิพย์เหมือนกับตัวข้า เมื่อสถิตเช่นนี้ เขาจะไม่เกิดเมื่อถึงเวลาสร้างและจะไม่วุ่นวายใจเมื่อถึงเวลาทำลาย
คำอธิบายฺ
หลังจากได้ความรู้ทิพย์อันสมบูรณ์ เราจะได้รับคุณลักษณะเดียวกันกับองค์ภควาน และมาเป็นผู้ที่มีอิสระจากการเกิดและการตายซ้ำซาก อย่างไรก็ดี เราไม่สูญเสียบุคลิกลักษณะของตนเองในฐานะที่เป็นปัจเจกวิญญาณ เข้าใจจากวรรณกรรมพระเวทว่า ดวงวิญญาณผู้หลุดพ้นที่มาถึงดาวเคราะห์ทิพย์ในท้องฟ้าทิพย์หมายจะมาพึ่งพระบาทรูปดอกบัวขององค์ภควาน และปฏิบัติรับใช้พระองค์ด้วยความรักทิพย์เสมอฉะนั้น แม้หลังจากหลุดพ้นแล้ว สาวกจะไม่สูญเสียปัจเจกบุคลิกลักษณะของตนเอง
โดยทั่วไปในโลกวัตถุ ความรู้ใด ๆ ที่เราได้รับจะแปดเปื้อนไปด้วยมลทินจากสามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ ความรู้ที่ไม่เปื้อนมลทินจากสารระดับแห่งธรรมชาติเรียกว่าความรู้ทิพย์ ทันทีที่สถิตในความรู้ทิพย์เราได้อยู่ในระดับเดียวกันกับองค์ภควาน พวกที่ไม่มีความรู้แห่งท้องฟ้าทิพย์เชื่อว่าหลังจากได้รับอิสรภาพจากกิจกรรมทางวัตถุในรูปลักษณ์ทางวัตถุ บุคลิกลักษณะทิพย์นี้จะกลายมาเป็นผู้ที่ไร้รูปลักษณ์ ไม่มีความหลากหลาย อย่างไรก็ดี ในโลกทิพย์มีความหลากหลายเหมือนกับโลกวัตถุเช่นเดียวกัน พวกที่อยู่ในอวิชชาเช่นนี้คิดว่าความเป็นอยู่ทิพย์ตรงกันข้ามกับความหลากหลายทางวัตถุแต่อันที่จริงในท้องฟ้าทิพย์ เรามีรูปทิพย์ มีกิจกรรมทิพย์ และมีสถานภาพทิพย์ซึ่งเรียกว่าชีวิตแห่งการอุทิศตนเสียสละ ในบรรยากาศนั้นกล่าวไว้ว่าไม่มีมลทินแปดเปื้อน ณ ที่นั้นเราเสมอภาคกับองค์ภควานในคุณภาพ เมื่อได้รับความรู้เช่นนี้เราต้องพัฒนาคุณสมบัติทิพย์ทั้งหมด ดังนั้น ผู้ที่พัฒนาคุณสมบัติทิพย์จะไม่ได้รับผลกระทบจากการสร้างหรือการทำลายของโลกวัตถุ