สามระดับแห่งธรรมชาติวัตถุ
โศลก 8
ทะมัส ทุ อกยานะ-จัม วิดดิฺ
โมฮะนัม สารวะ-เดฮินามฺ
พระมาดาลัสยะ-นิดราบิฺส
ทัน นิบัดฮนาทิ บฺาระทะฺ
ทะมะฮฺ - ระดับอวิชชา, ทฺุ - แต่, อกยานะ-จัมฺ - ผลิตจากอวิชชา, วิดดิฺฺ - รู้, โมฮะนัมฺ - ความหลง, สารวะ-เดฮินามฺ - ของสิ่งมีชีวิตในร่างทั้งหมด, พระมาดะฺ - ด้วยความบ้าคลั่ง, อสัส ยะฺ - เกียจคร้าน, นิดราบิฺฮฺ - และนอน, ทัทฺ - นั้น, นิบัดฮนาทิฺ - พันธนาการ, บฺาระทะฺ - โอ้โอรสแห่งบฺาระทะ
คำแปลฺ
โอ้ โอรสแห่งบฺาระทะ จงรู้ว่าระดับแห่งความมืดเกิดจากอวิชชาเป็นความหลงของมวลชีวิตที่อยู่ในร่าง ผลของระดับนี้คือ ความบ้าคลั่ง ความเกียจคร้าน และการนอน ซึ่งผูกมัดพันธวิญญาณ
คำอธิบายฺ
โศลกนี้ได้ใช้คำว่า ทฺุ โดยเฉพาะและสำคัญมาก เช่นนี้หมายความว่า ระดับอวิชชามีคุณสมบัติของวิญญาณในร่างที่แปลก ระดับอวิชชาตรงกันข้ามกับระดับความดี จากการพัฒนาความรู้ทำให้ผู้อยู่ในระดับความดีสามารถเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ในระดับอวิชชาตรงกันข้าม เพราะทุกคนที่อยู่ภายใต้มนต์ขลังของระดับอวิชชากลายเป็นบ้า คนบ้าไม่สามารถเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แทนที่จะเจริญก้าวหน้า กลับทำตัวให้ตกต่ำลง คำนิยามของระดับอวิชชาได้กล่าวไว้ในวรรณกรรมพระเวทว่า วัสทุ-ยาทฺาทมยะ- กยานาวะระคัม วิพารยะยะ-กยานะ-จะนะคัม ทะมะฮฺ ภายใต้มนต์สะกดแห่งอวิชชาทำให้ไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดตามความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น ทุกคนเห็นว่าคุณปู่คุณตาได้ตายไปแล้ว ดังนั้น ตัวเราเองจะต้องตายเช่นกัน มนุษย์ต้องตาย ลูกหลานที่เราให้กำเนิดก็จะต้องตายเช่นเดียวกัน ดังนั้น ความตายเป็นสิ่งที่แน่นอน ถึงกระนั้นผู้คนก็ยังสะสมเงินทองอย่างบ้าคลั่ง และทำงานหนักมากทั้งวันทั้งคืนโดยไม่สนใจกับดวงวิญญาณอมตะ นี่คือความบ้าคลั่ง และในความบ้าคลั่ง จะไม่เต็มใจที่จะเจริญก้าวหน้าในความเข้าใจวิถีทิพย์ บุคคลเหล่านี้เกียจคร้านมาก เมื่อได้รับเชิญให้ไปคบหาสมาคมเพื่อความเข้าใจวิถีทิพย์ จะไม่ค่อยสนใจ พวกนี้จะไม่ตื่นตัวเหมือนพวกที่ถูกระดับตัณหาควบคุม ดังนั้น อีกอาการหนึ่งของคนที่อยู่ในระดับอวิชชาคือ นอนเกินความจำเป็น นอนหกชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว แต่บุคคลในระดับอวิชชานอนอย่างน้อยวันละสิบหรือสิบสองชั่วโมง บุคคลเช่นนี้จะดูเศร้าสลดเสมอ มึนเมาอยู่กับสิ่งเสพติดและการนอน เหล่านี้คือลักษณะอาการของบุคคลที่อยู่ในสภาวะระดับอวิชชา