ธรรมชาติทิพย์และ
ธรรมชาติมาร
โศลก 11-12
ชินทาม อพะริเมยาม ชะ
พระละยานทาม อุพาชริทาฮฺ
คาโมพะโบฺกะ-พะระมา
เอทาวัด อิทิ นิชชิทาฮฺ
อาชา-พาชะ-ชะไทร บัดดฺาฮ
คามะ-โครดฺะ-พะรายะณาฮฺ
อีฮันเท คามะ-โบฺการทัฺม
อันยาเยนารทฺะ-สันชะยานฺ
ชินทามฺ - ความกลัวและความวิตกกังวล, อพะริเมยามฺ - วัดไม่ได้, ชะฺ - และ, พระละยะฺ - อันทาม-ถึงจุดแห่งความตาย, อุพาชริทาฮฺ - เป็นที่พึ่ง, คามะ-อุพะโบฺกะฺ - การสนองประสาทสัมผัส, พะระมาฮฺ - เป้าหมายสูงสุดแห่งชีวิต, เอทาวัทฺ - ดังนั้น, อิทิฺ - เช่นนี้, นิชชิ ทาฮฺ - มีความแน่ใจ, อาชาฺ - พาชะฺ - ปฏิบัติในเครือข่ายแห่งความหวัง, ชะไทฮฺ - เป็นร้อยๆ, บัดดฺาฮฺ - ถูกพันธนาการ, คามะฺ - ราคะ, โครดฺะฺ - และความโกรธ, พะรายะณาฮฺ - สถิตในความคิดนั้นเสมอ, อีฮันเทฺ - พวกเขาปรารถนา, คามะฺ - ราคะ, โบฺกะฺ - สนองประสาทสัมผัส, อารทัฺมฺ - เพื่อจุดมุ่งหมาย, อันยาเยนะฺ - ผิดกฎหมาย, อารทฺะฺ - แห่งความร่ำรวย, สันชะยานฺ - สะสม
คำแปลฺ
พวกมารเชื่อว่าการสนองประสาทสัมผัสเป็นความจำเป็นพื้นฐานแห่งความศิวิไลของมนุษย์ ดังนั้นจึงมีความวิตกกังวลที่วัดไม่ได้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ถูกพันธนาการอยู่ในเครือข่ายแห่งความต้องการเป็นร้อย ๆ พัน ๆ ซึมซาบอยู่กับราคะและความโกรธ พวกมารสะสมเงินด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายเพื่อสนองประสาทสัมผัส
คำอธิบายฺ
พวกมารยอมรับว่าการรื่นรมย์ทางประสาทสัมผัสเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดแห่งชีวิตและจะรักษาแนวคิดนี้จนกว่าจะตาย โดยไม่เชื่อในชีวิตหลังจากตายไปแล้ว และไม่เชื่อว่าต้องไปอยู่ในร่างที่แตกต่างกันตามกรรม (คารมะ) หรือตามกิจกรรมที่ตนได้กระทำในโลกนี้ แผนการสำหรับชีวิตไม่เคยหมด พวกนี้วางแผนแล้วแผนเล่าซึ่งไม่มีวันจบสิ้น เรามีประสบการณ์โดยตรงกับบุคคลที่มีแนวคิดมารเช่นนี้ ซึ่งแม้ถึงเวลาตายยังถามหาแพทย์ให้ช่วยต่อชีวิตอีกสี่ปี เพราะว่าแผนของตนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ คนโง่เช่นนี้ไม่รู้ว่าแพทย์ไม่สามารถต่ออายุให้แม้แต่วินาทีเดียว เมื่อคำสั่งมาถึงจะไม่มีการพิจารณาถึงความต้องการของมนุษย์ กฎแห่งธรรมชาติไม่อนุญาตแม้แต่วินาทีเดียวนอกเหนือไปจากที่เขาได้ถูกกำหนดไว้ให้รื่นรมย์
คนมารผู้ไม่มีความศรัทธาในองค์ภควานหรืออภิวิญญาณภายในใจตนเองทำบาปทุกอย่างเพื่อสนองประสาทสัมผัสของตน โดยไม่รู้ว่ามีพยานนั่งอยู่ภายในหัวใจอภิวิญญาณทรงดูกิจกรรมของปัจเจกวิญญาณ ดังที่ได้กล่าวไว้ใน อุพะนิชัดฺ ว่ามีนกสองตัวเกาะอยู่บนต้นไม้ต้นเดียวกัน นกตัวหนึ่งปฏิบัติการและได้รับความสุขหรือความทุกข์จากผลไม้ของต้นและนกอีกตัวหนึ่งทรงเป็นพยาน แต่คนมารไม่มีความรู้ในคัมภีร์พระเวทและไม่มีความศรัทธา ดังนั้น จึงรู้สึกเป็นอิสระที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสนองประสาทสัมผัส ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร