ภควัต-คีตา ฉบับเดิม

บทที่ สิบแปด

บทสรุปความสมบูรณ์
แห่งการเสียสละ

โศลก 66

สารวะ-ดฺารมาน พะริยัจยะ
มาม เอคัม ชะระณัม วระจะฺ

อฮัม ทวาม สารวะ-พาเพบฺโย
โมคชะยิชยามิ มา ชุชะฮฺ

สารวะ-ดฺารมานฺ  -  ศาสนาทั้งหลาย, พะริทยัจยะฺ  -  ยกเลิก, มามฺ  -  แด่ข้า, เอคัมฺ  -  เท่านั้น, ชะระณัมฺ  -  เพื่อศิโรราบ, วระจะฺ  -  ไป, อฮัมฺ  -  ข้า, ทวามฺ  -  เธอ, สารวะฺ  -  ทั้งหมด, พาเพบฺ- ยะฮฺ  -  จากผลบาป, โมคชะยิชยามิฺ  -  จะส่ง, มาฺ  -  ไม่, ชุชะฮฺ  -  วิตก

คำแปลฺ

ยกเลิกศาสนาทั้งหมด  และเพียงแต่ศิโรราบต่อข้า  ข้าจะส่งเธอให้ออกจากผลบาปทั้งปวง  จงอย่ากลัว

คำอธิบายฺ

องค์ภควานทรงอธิบายความรู้ต่าง  ๆ  และวิธีต่าง  ๆ  ของศาสนา  เช่น  ความรู้ของ  บระฮมันฺ  สูงสุด  ความรู้ของอภิวิญญาณ  ความรู้ระดับชีวิตและวรรณะต่าง  ๆ  ทางสังคม  ความรู้ชีวิตสละโลก  ความรู้แห่งการไม่ยึดติด  การควบคุมประสาทสัมผัสและจิตใจ  การทำสมาธิ  ฯลฯ  พระองค์ทรงอธิบายหลายวิธีเกี่ยวกับศาสนาต่าง  ๆ  บัดนี้  ในการสรุป  ภควัต-คีตาฺ  พระองค์ตรัสว่า  อารจุนะควรยกเลิกวิธีต่าง  ๆ  ทั้งหมดที่ได้ทรงอธิบายมาแล้ว  เพียงแต่ศิโรราบต่อคริชณะ  การศิโรราบนี้จะช่วยให้ออกจากผลบาปทั้งปวง  เพราะว่าองค์ภควานทรงให้สัญญาด้วยพระองค์เองว่าจะปกป้องอารจุนะ

ในบทที่เจ็ด  กล่าวไว้ว่าบุคคลผู้เป็นอิสระจากผลบาปทั้งหมดเท่านั้นจึงสามารถปฏิบัติบูชาองค์ชรีคริชณะได้  ดังนั้น  เราอาจคิดว่านอกจากจะเป็นอิสระจากผลบาปทั้งหมด  มิฉะนั้น  เราจะไม่สามารถปฏิบัติวิธีการศิโรราบ  สำหรับข้อสงสัยนี้ได้กล่าวไว้  ณ  ที่นี้ว่า  แม้หากเราไม่เป็นอิสระจากผลบาปทั้งหมด  เพียงด้วยวิธีการศิโรราบต่อชรีคริชณะ  เราก็จะเป็นอิสระโดยปริยาย  ไม่มีความจำเป็นต้องพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้ตนเองเป็นอิสระจากผลบาป  เราควรยอมรับคริชณะโดยไม่มีข้อสงสัยว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือสูงสุดของมวลชีวิต  ด้วยความศรัทธาและความรัก  เราจึงควรศิโรราบต่อพระองค์

วิธีแห่งการศิโรราบต่อคริชณะ  ได้อธิบายไว้ใน  ฮะริ-บัฺคธิ-วิลาสะฺ  (11.676  )

อนุคูลยัสยะ สังคัลพะฮ
พราทิคูลยัสยะ วารจะนัมฺ

รัคชิชยะทีทิ วิชวาโส
โกพทริทเว วะระนัม ทะทฺาฺ

อาทมะ-นิคเชพะ-คารพัณเย
ชัด-วิดฺา ชะระณากะทิฮฺ

ตามวิธีการอุทิศตนเสียสละเราเพียงแต่ยอมรับหลักธรรมทางศาสนา  เช่นนี้  จะนำมาสู่การอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อองค์ภควานในที่สุด  เราอาจปฏิบัติอาชีพการงานโดยเฉพาะตามสถานภาพชีวิตในสังคม  แต่ถ้าหากปฏิบัติตามหน้าที่แล้วมาไม่ถึงจุดแห่งคริชณะจิตสำนึก  กิจกรรมของเราทั้งหมดจะไร้ประโยชน์  สิ่งใดที่ไม่นำมาให้ถึงระดับสมบูรณ์แห่งคริชณะจิตสำนึกควรหลีกเลี่ยง  เราควรมั่นใจว่าในทุก  ๆ  สถานการณ์ว่าคริชณะจะทรงปกป้องเราจากความยากลำบากทั้งปวง  ไม่จำเป็นต้องคิดว่าควรดำรงรักษาร่างกายและดวงวิญญาณให้อยู่ด้วยกันอย่างไร  คริชณะจะทรงดูแลเอง  ควรคิดเสมอว่าตนเองช่วยไม่ได้  และควรพิจารณาว่าคริชณะทรงเป็นพื้นฐานแห่งความเจริญก้าวหน้าในชีวิตของเราเท่านั้น  ทันทีที่ปฏิบัติอย่างจริงจังในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อองค์ภควานในคริชณะจิตสำนึกที่สมบูรณ์  เราจะเป็นอิสระจากมลทินทั้งปวงแห่งธรรมชาติวัตถุทันที  มีวิธีทางศาสนาต่าง  ๆ  และวิธีการที่ทำให้บริสุทธิ์ด้วยการพัฒนาความรู้  การทำสมาธิในระบบโยคะอิทธิฤทธิ์  ฯลฯ  แต่ผู้ที่ศิโรราบต่อคริชณะไม่ต้องปฏิบัติตามวิธีการมากมายการศิโรราบอย่างง่าย  ๆ  ต่อคริชณะจะช่วยให้เราไม่ต้องสูญเสียเวลาไปโดยไม่จำเป็นเราสามารถทำความเจริญก้าวหน้าทั้งหมดโดยทันที  และเป็นอิสระจากผลบาปทั้งปวง

เราควรชื่นชอบกับรูปลักษณ์อันสง่างามของคริชณะ  พระนามของพระองค์คือคริชณะ  เนื่องจากพระองค์ทรงมีเสน่ห์สูงสุดทั้งหมด  ผู้ที่ชื่นชอบกับภาพลักษณ์ของคริชณะที่มีความสง่างาม  มีพลังอำนาจทั้งหมด  และมีพระเดชทั้งหมดเป็นผู้ที่โชคดี  มีนักทิพย์นิยมต่าง  ๆ  บ้างชื่นชอบกับ  บระฮมันฺ  อันไร้รูปลักษณ์  บ้างชื่นชอบกับลักษณะของอภิวิญญาณ  ฯลฯ  แต่ผู้ที่ชื่นชอบกับลักษณะส่วนพระองค์ของบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า  และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด  ผู้ที่ชื่นชอบกับองค์ภควานในรูปลักษณ์ของคริชณะเป็นนักทิพย์นิยมที่สมบูรณ์ที่สุด  อีกนัยหนึ่ง  การอุทิศตนเสียสละต่อคริชณะในจิตสำนึกที่สมบูรณ์เป็นส่วนลับที่สุดของความรู้  และนี่คือเนื้อหาสาระของ  ภควัต-คีตาฺ  ทั้งหมด  คารมะ-โยกีฺ  หรือนักปราชญ์ช่างสังเกต  โยคีหรือผู้มีฤทธิ์  และสาวก  ทั้งหมดเรียกว่านักทิพย์นิยม  แต่ผู้เป็นสาวกที่บริสุทธิ์ดีที่สุด  คำที่ใช้โดยเฉพาะ  ณ  ที่นี้คือ  มา  ชุชะฮฺ  “จงอย่ากลัว  จงอย่าลังเล  จงอย่าวิตก”  มีความสำคัญมาก  เราอาจสับสนว่าจะสามารถยกเลิกรูปแบบของศาสนาต่าง  ๆ  ทั้งหมดและเพียงแต่ศิโรราบต่อคริชณะได้อย่างไร  แต่ความวิตกกังวลเช่นนี้ไร้ประโยชน์