ภควัต-คีตา ฉบับเดิม

บทที่ สอง

บทสรุป ภควัต-คีตา

โศลก 56

ดุฮเคฺชุ อนุดวิกนะ-มะนาฮฺ
สุเคฺชุ วิกะทะ-สพริฮะฮฺ
วีทะ-รากะ-บฺะยะ-โครดฺะฮ
สทิทะ-ดีฺร มุนิร อุชยะเทฺ

ดุฮเคฺชฺุ  -  ในความทุกข์สามคำรบ, อนุดวิกนะ-มะนาฮฺ  -  ไม่มีความวุ่นวายภายในใจ, สุเคฺชฺุ  -  ในความสุข, วิกระทะ-สพริฮะฮฺ  -  ไม่มีความสนใจ, วีทะฺ  -  เป็นอิสระจาก, รากะฺ  -  ความยึดติด, บฺะยะฺ  -  ความกลัว, โครดฺะฮฺ  -  และความโกรธ, สทิทะ-ดีฮฺ  -  ผู้ที่มีจิตใจมั่นคง, มุนิฮฺ  -  นักปราชญ์, อุชยะเทฺ  -  เรียกว่า

คำแปลฺ

ผู้ที่จิตใจไม่ถูกรบกวนแม้ท่ามกลางความทุกข์สามคำรบ  หรือมีความปีติเมื่อได้รับความสุข  และเป็นอิสระจากความยึดติด  ความกลัว  และความโกรธ  ได้ชื่อว่าเป็นนักปราชญ์ผู้มีจิตใจมั่นคง

คำอธิบายฺ

คำว่า  มุนิฺ  หมายถึงผู้ที่สามารถรบกวนจิตใจตนเองด้วยวิธีต่าง  ๆ  จากการคาดคะเนทางจิตโดยไม่มีข้อสรุปอย่างแท้จริง  กล่าวไว้ว่า  มุนิฺ  ทุกรูปมีมุมมองที่แตกต่างกันหากไม่มีมุมมองที่ต่างจาก  มุนิฺ  อื่นจะเรียกว่าเป็น  มุนิฺ  ไม่ได้  ตามคำนิยาม  นาสาพ  ริชิร  ยัสยะ  มะทัม  นะ  บินนัม  (มะฮาบฺาระทะ,  วะนะ-พารวะฺ  313.117)  แต่  สทิทะ-ดีร  มุนิฺ  ที่องค์ภควานตรัส  ณ  ที่นี้  แตกต่างจาก  มุนิฺ  ทั่วไป  สทิทะ-ดีร  มุนิฺ  อยู่ใน  คริชณะจิตสำนึกเสมอเพราะได้เสร็จสิ้นจากภารกิจการคาดคะเนสร้างสรรค์ทั้งปวง  ท่านได้ชื่อว่า  พระชาน-  ทะ-นิฮเชชะ-มะโน-ระทฺานทะระ  (สโททระ-รัทนะฺ  43)  หรือผู้ที่ข้ามพ้นระดับแห่งการคาดคะเนทางจิตใจ  และได้ผลสรุปว่า  องค์ชรีคริชณะหรือวาสุเดวะคือทุกสิ่งทุกอย่าง(วาสุเดวะฮ  สารวัม  อิทิ  สะ  มะฮาทมา  สุ-ดุรละบฺะฮ)ฺ  ท่านได้ชื่อว่า  มุนิฺ  ผู้มีจิตใจมั่นคงผู้ที่มีคริชณะจิตสำนึกอย่างสมบูรณ์เช่นนี้จะไม่ถูกรบกวนจากการรุกรานของความทุกข์สามคำรบ  เพราะท่านน้อมรับความทุกข์ทั้งหมดว่าเป็นพระเมตตาขององค์ภควาน  และคิดว่าตนเองควรได้รับทุกข์ทรมานมากกว่านี้อันเนื่องมาจากกรรมเก่า  และยังเห็นอีกว่าด้วยพระกรุณาธิคุณขององค์ภควานที่ทำให้ความทุกข์ได้รับการลดโทษจนถึงขีดต่ำสุดลักษณะเดียวกัน  เมื่อได้รับความสุขท่านจะส่งมอบให้แด่องค์ภควานและคิดว่าตนเองไม่ควรค่ากับความสุขนี้  สำนึกว่าด้วยพระกรุณาธิคุณขององค์ภควานเท่านั้นท่านจึงได้มาอยู่ในสภาวะที่สะดวกสบายเช่นนี้  และทำให้สามารถปฏิบัติรับใช้พระองค์ได้ดียิ่งขึ้น  สำหรับการรับใช้องค์ภควานท่านจะมีความกล้าหาญและตื่นตัวเสมอ  โดยไม่มีอิทธิพลของการยึดติดหรือการไม่ยึดติดใด  ๆ  มาครอบงำ  การยึดติดหมายถึงยอมรับเอาบางสิ่งเพื่อสนองประสาทสัมผัสและการไม่ยึดติดคือปราศจากการยึดติดกับการสนองประสาทสัมผัสเช่นนี้  แต่ผู้ที่ตั้งมั่นในคริชณะจิตสำนึกจะไม่มีทั้งการยึดติดและการไม่ยึดติดเพราะท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการรับใช้องค์ภควานเท่านั้น  ดังนั้น  จึงไม่มีความโกรธเลยแม้ว่าความพยายามจะไม่ประสบผลสำเร็จ  บุคคลในคริชณะจิตสำนึกจะมีความมั่นใจอยู่เสมอไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว