บทสรุป ภควัต-คีตา
โศลก 69
ยา นิชา สารวะ-บํูทานาม
ทัสยาม จาการทิ สัมยะมีฺ
ยัสยาม จากระทิ บํูทานิ
สา นิชา พัชยะโท มุเนฮฺ
ยาฺ - อะไร, นิชาฺ - เป็นเวลากลางคืน, สารวะฺ - ทั้งหมด, บํูทานามฺ - ของสิ่งมีชีวิต, ทัสยามฺ - ในนั้น, จาการทิฺ - จะตื่น, สัมยะมีฺ - การควบคุมตนเอง, ยัสยามฺ - ในที่ซึ่ง, จากระทิฺ - ตื่นอยู่, บํูทานิฺ - สิ่งมีชีวิตทั้งหมด, สาฺ - นั้นเป็น, นิชาฺ - กลางคืน, พัสยะทะฮฺ - สำหรับผู้ใคร่ครวญ, มุเนฮฺ -นักปราชญ์
คำแปลฺ
เวลากลางคืนของมวลชีวิตเป็นเวลาตื่นของผู้ควบคุมตนเองได้ และเวลาตื่นของมวลชีวิตจะเป็นเวลากลางคืนของนักปราชญ์ผู้พิจารณาใคร่ครวญตนเอง
คำอธิบายฺ
มีผู้มีปัญญาอยู่สองประเภท ประเภทที่หนึ่งมีปัญญาในกิจกรรมทางวัตถุเพื่อสนองประสาทสัมผัส และอีกประเภทหนึ่งเป็นผู้พิจารณาใคร่ครวญตนเองและเป็นผู้ตื่นในการฝึกฝนเพื่อความรู้แจ้งแห่งตน เวลาปฏิบัติธรรมของนักปราชญ์ผู้พิจารณาใคร่ครวญตนเองหรือผู้มีความสุขุมรอบคอบ จะเป็นเวลากลางคืนของผู้ที่ซึมซาบอยู่ในวัตถุ นักวัตถุนิยมจะคงนอนในเวลากลางคืนเช่นนี้เนื่องมาจากอวิชชาในความรู้แจ้งแห่งตน นักปราชญ์ผู้พิจารณาใคร่ครวญตนเองจะตื่น “ในเวลากลางคืน” ของนักวัตถุนิยมนักปราชญ์มีความรู้สึกปลื้มปีติสุขทิพย์ในการพัฒนาวัฒนธรรมแห่งดวงวิญญาณทีละน้อย ขณะที่นักวัตถุนิยมนอนหลับต่อความรู้แจ้งแห่งตน ฝันถึงความสุขทางประสาทสัมผัสต่าง ๆ นานา มีความรู้สึกสุขบ้างและทุกข์บ้างในขณะที่หลับอยู่ ผู้ที่พิจารณาใคร่ครวญตนเองจะไม่ใยดีกับความสุขหรือความทุกข์ทางวัตถุ ท่านมุ่งหน้าต่อไปกับกิจกรรมเพื่อความรู้แจ้งแห่งตนโดยไม่หวั่นไหวต่อผลกรรมทางวัตถุ