คารมะ-โยกะ
โศลก 26
นะ บุดดฺิ-เบฺดัม จะนะเยด
อกยานาม คารมะ-สังกินามฺ
โจชะเยท สารวะ-คารมาณิ
วิดวาน ยุคทะฮ สะมาชะรันฺ
นะฺ - ไม่, บุดดฺิฺ - เบฺดัมฺ - ความยุ่งของปัญญา, จะนะเยทฺ - เขาอาจเป็นต้นเหตุ, อะกยานามฺ - ของคนโง่, คารมะ-สังกินามฺ - ผู้ที่ยึดติดในผลของงาน, โจชะเยทฺ - เขาควรจะประสาน, สารวะฺ - ทั้งหมด, คารมาณิฺ - งาน, วิดวานฺ - ผู้รู้, ยุคทะฮฺ - ปฎิบัติ, สะมาชะรันฺ - ฝึกฝน
คำแปลฺ
เพื่อไม่เป็นการรบกวนจิตใจของผู้อยู่ในอวิชชาที่ยึดติดต่อผลของงานในหน้าที่ที่กำหนดไว้ ผู้รู้ไม่ควรแนะนำให้พวกเขาหยุดทำงาน แต่ให้ทำงานในสปิริตแห่งการเสียสละ ควรแนะนำให้พวกเขาปฎิบัติกิจกรรมต่าง ๆ (เพื่อค่อย ๆ พัฒนามาสู่คริชณะจิตสำนึก)
คำอธิบายฺ
เวไดช ชะ สารไวร อฮัม เอวะ เวดยะฮฺ นี่คือจุดหมายปลายทางของพิธีกรรมทั้งหลายในคัมภีร์พระเวท พิธีกรรมทั้งหมด การปฎิบัติบูชาทั้งหมด และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในคัมภีร์พระเวทรวมทั้งคำแนะนำทั้งหมดเพื่อกิจกรรมทางวัตถุ ทั้งหมดนี้เพื่อให้เข้าใจคริชณะผู้ทรงเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต แต่เนื่องจากพันธวิญญาณไม่รู้อะไรมากไปกว่าการสนองประสาทสัมผัส จึงศึกษาคัมภีร์พระเวทด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสนองประสาทสัมผัส จากการปฎิบัติกิจกรรมเพื่อผลประโยชน์และสนองประสาทสัมผัสที่ประมาณไว้โดยพิธีกรรมทางพระเวท เราจะค่อย ๆ พัฒนามาสู่คริชณะจิตสำนึก ดังนั้นดวงวิญญาณผู้รู้แจ้งในคริชณะจิตสำนึกไม่ควรรบกวนผู้อื่นในกิจกรรมหรือความเข้าใจของพวกเขา แต่ควรปฎิบัติด้วยการแสดงให้เห็นว่าผลของงานทั้งหมดสามารถอุทิศเพื่อรับใช้คริชณะได้อย่างไร บุคคลผู้รู้ในคริชณะจิตสำนึกอาจปฎิบัติในวิธีที่จะทำให้บุคคลผู้อยู่ในอวิชชาซึ่งทำงานเพื่อสนองประสาทสัมผัสได้เรียนรู้ว่าควรทำงานและปฎิบัติตนอย่างไร ถึงแม้ว่าผู้ที่อยู่ในอวิชชาไม่ควรถูกรบกวนในกิจกรรมของเขา แต่บุคคลผู้พัฒนาคริชณะจิตสำนึกแม้เพียงเล็กน้อยอาจปฎิบัติตนรับใช้องค์ภควานโดยตรงได้ โดยไม่ต้องรอสูตรต่าง ๆ จากคัมภีร์พระเวท สำหรับผู้โชคดีเช่นนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฎิบัติตามพิธีกรรมทางพระเวท เพราะจากการปฎิบัติคริชณะจิตสำนึกโดยตรง เราสามารถได้รับผลพวงทั้งหมดที่อาจจะได้รับจากการปฎิบัติตามหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้