คารมะ-โยกะ
โศลก 6
คารเมนดริยาณิ สัมยัมยะ
ยะ อาสเท มะนะสา สมะรันฺ
อินดริยารทฺาน วิมูดฺาทมา
มิทฺยาชาระฮ สะ อุชยะเทฺ
คารมะฺ - อินดริยาณิฺ - อวัยวะประสาทสัมผัสสำหรับทำงานทั้งห้า, สัมยัมยะฺ - ควบคุม, ยะฮฺ - ผู้ใดซึ่ง, อาสเทฺ - ยังคง, มะนะสาฺ - โดยจิตใจ, สมะรันฺ - คิดถึง, อินดริยะ-อารทฺานฺ - รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส, วิมูดฺะฺ - ความโง่, อาทมาฺ - ดวงวิญญาณ, มิทฺยา-อาชาระฮฺ - ผู้เสแสร้ง, สะฮฺ - เขา, อุชยะเทฺ - เรียกว่า
คำแปลฺ
ผู้ที่เหนี่ยวรั้งการทำงานของประสาทสัมผัส แต่ว่าจิตใจยังจดจ่ออยู่ที่ รูป รส กลิ่นเสียง และ สัมผัส แน่นอนว่าเขาเป็นผู้หลอกตัวเอง และได้ชื่อว่าเป็นผู้เสแสร้ง
คำอธิบายฺ
มีผู้เสแสร้งมากมายที่ปฎิเสธการทำงานในคริชะจิตสำนึกแต่จะแสดงท่าว่าเป็นนักปฎิบัติสมาธิ ในขณะที่ความเป็นจริงภายในจิตใจของเขาจดจ่ออยู่ที่ความสุขทางประสาทสัมผัส บางครั้งผู้เสแสร้งเช่นนี้อาจคุยปรัชญาอย่างลม ๆ แล้ง ๆ เพื่อชักชวนศิษย์ผู้สับสนไปในทางที่ผิด ตามโศลกนี้ บุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้ฉ้อโกงอย่างมหันต์สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมเพื่อความสุขทางประสาทสัมผัส หากว่าเขาปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในระดับสังคมที่ตนเองอยู่ก็จะสามารถค่อย ๆ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่บริสุทธิ์ขึ้น แต่ถ้าเขาอวดตนว่าเป็นโยคีในขณะที่ความเป็นจริงแล้วเขากำลังแสวงหาอายตนะภายนอกเพื่อสนองประสาทสัมผัส จะต้องถูกเรียกว่าเป็นผู้ฉ้อโกงอย่างมหันต์แม้บางครั้งเขาอาจพูดคุยเกี่ยวกับปรัชญา แต่วิชาความรู้ของเขานั้นไร้คุณค่าเพราะว่าผลแห่งวิชาความรู้ของคนบาปเช่นนี้ได้ถูกพลังงานแห่งความหลงขององค์ภควานยึดเอาไปเสียแล้ว จิตใจของผู้เสแสร้งเช่นนี้จะไม่มีความบริสุทธิ์ ดังนั้น การแสดงออกว่าตนเองเป็นโยคีนักทำสมาธิจะไม่มีคุณค่าอันใดเลย