ดฺยานะ-โยกะ
โศลก 40
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ
พารทฺะ ไนเวฮะ นามุทระ
วินาชัส ทัสยะ วิดยะเทฺ
นะ ฮิ คัลยาณะ-คริท คัชชิด
ดุรกะทิม ทาทะ กัชชฺะทิฺ
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ - บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัส, พารทฺะฺ - โอ้ โอรสพระนางพริทฺา, นะ เอวะฺ - ไม่เคยเป็นเช่นนั้น, อิฮะฺ - ในโลกวัตถุนี้, นะฺ - ไม่เคย, อมุทระฺ - ในชาติหน้า, วินาชะฮฺ - ทำลาย, ทัสยะฺ - ของเขา, วิดยะเทฺ - เป็นอยู่, นะฺ - ไม่เคย, ฮิฺ - แน่นอน, คัลยาณะ-คริทฺ - ผู้ปฏิบัติกิจกรรมอันเป็นมงคล, คัชชิทฺ - ผู้ใด, ดุรกะทิมฺ - ตกต่ำลง, ทาทะฺ - สหายข้า, กัชชฺะทิฺ - ไป
คำแปลฺ
องค์ภควานตรัสว่า โอ้ โอรสพระนางพริทฺา นักทิพย์นิยมผู้ปฏิบัติกิจกรรมอันเป็นมงคลจะไม่พบกับความหายนะ ไม่ว่าในโลกนี้หรือในโลกทิพย์ โอ้ สหายข้า คนทำดีจะไม่มีวันถูกความชั่วครอบงำ
คำอธิบายฺ
ใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ (1.5.17 ) ชรี นาระดะ มุนิ กล่าวสอน วิยาสะเดวะ ดังต่อไปนี้
ทยัคทวา สวะ-ดฺารมัม ชะระณามบุจัม ฮะเรร
บฺะจันน อพัคโว ่ทฺะ พะเทท ทะโท ยะดิฺ
ยะทระ ควะ วาบฺะดรัม อบํูด อมุชยะ คิม
โค วารทฺะ อาพโท ่บฺะจะทาม สะวะ ดฺารมะทะฮฺ
“หากผู้ใดยกเลิกความมุ่งหวังทางวัตถุทั้งปวงและรับเอาองค์ภควานเป็นที่พึ่งอย่างสมบูรณ์ จะไม่สูญเสียหรือตกต่ำลงไม่ว่าในทางใด อีกด้านหนึ่ง ผู้ไม่ใช่สาวกอาจปฏิบัติหน้าที่ในสายอาชีพของตนอย่างสมบูรณ์ แต่จะไม่ได้รับประโยชน์อันใดเลย” สำหรับความมุ่งหวังทางวัตถุมีกิจกรรมมากมายทั้งตามพระคัมภีร์และตามประเพณี นักทิพย์นิยมควรยกเลิกกิจกรรมทางวัตถุทั้งมวลเพื่อความเจริญก้าวหน้าแห่งชีวิตทิพย์หรือคริชณะจิตสำนึก เขาอาจเถียงว่าคริชณะจิตสำนึกบรรลุถึงความสมบูรณ์สูงสุดได้หากปฏิบัติอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าหากว่าไม่บรรลุถึงระดับสมบูรณ์นี้จะสูญเสียทั้งทางวัตถุและทางจิตวิญญาณ ได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ว่าเขาต้องรับทุกข์จากผลกรรมที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ ฉะนั้น ผู้ที่ไม่ปฏิบัติกิจกรรมทิพย์อย่างเหมาะสมจะได้รับผลกรรมเหล่านี้ บฺากะวะธัมฺ ได้ยืนยันว่า นักทิพย์นิยมผู้ไม่ประสบผลสำเร็จไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล ถึงแม้อาจได้รับผลกรรมที่ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างสมบูรณ์ก็ไม่สูญเสียอะไรเพราะคริชณะจิตสำนึกเป็นสิริมงคลจะไม่มีวันถูกลืม และผู้ได้ปฏิบัติเช่นนี้จะปฏิบัติต่อไปแม้หากเขาเกิดมาต่ำต้อยในชาติหน้า อีกด้านหนึ่ง หากบุคคลปฏิบัติตามหน้าที่ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด แต่ไม่มีคริชณะจิตสำนึกจะไม่ได้รับผลอันเป็นมงคล
คำอธิบายเข้าใจได้ดังต่อไปนี้ มนุษยชาติอาจแบ่งออกได้เป็นสองพวก คือพวกมีกฎเกณฑ์และพวกที่ไม่มีกฎเกณฑ์ พวกที่เพียงแต่ปฏิบัติตนเพื่อสนองประสาทสัมผัสเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานโดยปราศจากความรู้ของชาติหน้า หรือความหลุดพ้นแห่งดวงวิญญาณเป็นพวกที่ไม่กฎเกณฑ์ พวกที่ปฏิบัติตามหลักธรรมแห่งหน้าที่ที่กำหนดไว้ในพระคัมภีร์เป็นพวกที่มีกฎเกณฑ์ พวกไม่มีกฎเกณฑ์ทั้งศิวิไลและไม่ศิวิไล มีการศึกษาและด้อยการศึกษา แข็งแรงและอ่อนแอ ทั้งหมดเต็มไปด้วยนิสัยสัตว์เดรัจฉาน กิจกรรมของพวกนี้ไม่เคยเป็นมงคล เพราะขณะที่เพลิดเพลินกับนิสัยเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานในการกิน นอน ป้องกันตัว และเพศสัมพันธ์ พวกเขาจะยังคงมีความเป็นอยู่ทางวัตถุชั่วกัลปวสานซึ่งมีแต่ความทุกข์ อีกด้านหนึ่ง พวกมีกฎเกณฑ์ตามคำสั่งสอนของพระคัมภีร์จะค่อย ๆ เจริญขึ้นมาสู่คริชณะจิตสำนึก ชีวิตจะเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน
พวกที่ปฏิบัติตามวิธีอันเป็นมงคลแบ่งได้เป็นสามกลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระคัมภีร์และได้รับความสุขจากความมั่งคั่งทางวัตถุ (2)กลุ่มที่พยายามค้นหาเสรีภาพสูงสุดจากความเป็นอยู่ทางวัตถุ และ (3) กลุ่มที่เป็นสาวกในคริชณะจิตสำนึก กลุ่มที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระคัมภีร์เพื่อความสุขทางวัตถุอาจแบ่งต่อไปอีกได้เป็นสองกลุ่มย่อย คือกลุ่มที่ทำงานเพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุ และกลุ่มที่ไม่ปรารถนาผลทางวัตถุเพื่อสนองประสาทสัมผัส พวกที่ปรารถนาผลทางวัตถุเพื่อสนองประสาทสัมผัสอาจพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นจนกระทั่งไปถึงดาวเคราะห์ที่สูงกว่า แต่ถึงกระนั้น เนื่องจากมิได้เป็นอิสระจากความเป็นอยู่ทางวัตถุเพื่อสนองประสาทสัมผัส อาจพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นจนกระทั่งไปถึงดาวเคราะห์ที่สูงกว่า ถึงกระนั้นเนื่องจากมิได้เป็นอิสระจากความเป็นอยู่ทางวัตถุ จึงไม่ได้ปฏิบัติตามวิถีทางอันเป็นมงคลอย่างแท้จริง กิจกรรมอันเป็นมงคลคือกิจกรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นเท่านั้นกิจกรรมใด ๆ ที่ไม่มุ่งไปที่ความรู้แจ้งแห่งตนหรือความหลุดพ้นจากแนวคิดชีวิตทางวัตถุในที่สุดจะไม่เป็นมงคลเลย กิจกรรมในคริชณะจิตสำนึกเป็นกิจกรรมเดียวที่เป็นมงคลและผู้ใดอาสายอมรับความไม่สะดวกสบายทางร่างกายทั้งมวลเพื่อความเจริญก้าวหน้าบนวิถีแห่งคริชณะจิตสำนึกสามารถเรียกได้ว่าเป็นนักทิพย์นิยมที่สมบูรณ์ภายใต้ความสมถะอย่างเคร่งครัด เพราะระบบโยคะแปดระดับจะนำมาสู่ความรู้แจ้งแห่งคริชณะจิตสำนึกในที่สุด การฝึกปฏิบัติเช่นนี้เป็นมงคลเช่นกัน ผู้ใดที่พยายามอย่างดีที่สุดในเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องกลัวตกลงต่ำ