พระยาณะ-คาเลฺ - ขณะตาย, มะนะสา-ด้วยจิตใจ, อชะเลนะฺ - ปราศจากการเบี่ยงเบน, บัฺคธยาฺ - อุทิศตนเสียสละอย่างสมบูรณ์, ยุคทะฮฺ - ปฏิบัติ, โยกะฺ - บะเลนะฺ - ด้วยพลังแห่งอิทธิฤทธิ์โยคะ, ชะฺ - เช่นกัน, เอวะฺ - แน่นอน, บฺรุโวฮฺ - คิ้วทั้งสองข้าง, มัดฺเยฺ - ระหว่าง, พราณัมฺ - ลมปราณชีวิต, อาเวชยะฺ - ตั้งมั่น, สัมยัคฺ - สมบูรณ์, สะฮฺ - เขา, ทัมฺ - นั้น, พะรัมฺ - ทิยพ์, พุรุชัมฺ - องค์ภควาน, อะไพทิฺ - บรรลุ, ดิพยัมฺ - ในอาณาจักรทิพย์
โศลกนี้ ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าในขณะกำลังตาย จิตใจต้องตั้งมั่นในการอุทิศตนเสียสละต่อบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า สำหรับพวกที่ฝึกปฏิบัติโยคะ ได้แนะนำไว้ว่าให้กำหนดพลังแห่งชีวิตให้มาอยู่ระหว่างคิ้วทั้งสอง (ที่ อากยา-ชัคระฺ) การปฏิบัติ ชัด-ชัคระ-โยกะฺ เกี่ยวเนื่องกับการทำสมาธิที่ ชัคระฺ ทั้งหกซึ่งเกริ่นไว้ ณ ที่นี้สาวกผู้บริสุทธิ์มิได้ฝึกปฏิบัติโยคะเช่นนี้ แต่เพราะว่าปฏิบัติในคริชณะจิตสำนึกอยู่เสมอขณะกำลังตาย ด้วยพระกรุณาธิคุณของคริชณะทำให้สามารถระลึกถึงองค์ภควานได้ดังจะอธิบายในโศลกสิบสี่
การใช้คำว่า โยกะ-บะเลนะฺ มีความสำคัญในโศลกนี้ เพราะปราศจากการปฏิบัติโยคะ ไม่ว่าจะเป็น ชัท-ชัคระ-โยกะฺ หรือ ภักดี-โยคะฺ เราจะไม่สามารถมาถึงระดับทิพย์นี้ในขณะที่กำลังตาย ขณะตายไม่มีใครสามารถระลึกถึงองค์ภควานขึ้นมาได้ในทันที เราจึงต้องฝึกปฏิบัติระบบโยคะบางอย่าง โดยเฉพาะระบบ ภักดี-โยคะฺเนื่องจากจิตใจของเราขณะกำลังตายจะสับสนมาก เราจึงควรฝึกปฏิบัติวิถีทิพย์ผ่านระบบโยคะในระหว่างที่เรายังมีชีวิตอยู่