ความรู้ที่ลับสุดยอด
โศลก 3
อัชรัดดะดฺานาฮ พุระชา
ดฺารมัสยาสยะ พะรันทะพะฺ
อัพราพยะ มาม นิวารทันเท
มริทยุ-สัมสาระ-วารทมะนิฺ
อัชรัดดะดฺานาฮฺ - พวกที่ไม่มีศรัทธา, พุรุชาฮฺ - บุคคลเหล่านี้, ดฺารมัสยะฺ - ไปสู่วิธีแห่งศาสนา, อัสยะฺ - นี้, พะรันทะพะฺ - โอ้ ผู้สังหารศัตรู, อัพราพยะฺ - ไม่ได้รับ, มามฺ - ข้า, นิวารทันเทฺ - กลับมา, มริทยฺุ - ของความตาย, สัมสาระฺ - ในความเป็นอยู่ทางวัตถุ, วารทมะนิฺ - บนวิธีทาง
คำแปลฺ
พวกที่ไม่ศรัทธาในการอุทิศตนเสียสละรับใช้นี้ ไม่สามารถบรรลุถึงข้า โอ้ ผู้กำราบศัตรู ดังนั้น พวกเขาจะกลับมาอยู่บนหนทางแห่งการเกิดและการตายในโลกวัตถุนี้อีก
คำอธิบายฺ
ผู้ไม่ศรัทธาจะไม่สามารถประสบผลสำเร็จกับวิธีการอุทิศตนเสียสละรับใช้นี้ นี่คือคำอธิบายของโศลกนี้ ความศรัทธาเกิดขึ้นจากการมาคบหาสมาคมกับสาวก คนอับโชคแม้หลังจากสดับฟังตามหลักฐานต่าง ๆ จากบุคลิกภาพผู้ยิ่งใหญ่ในวรรณกรรมพระเวท ก็ยังไม่มีความศรัทธาในองค์ภควาน ยังลังเลใจ และไม่สามารถตั้งจิตมั่นอยู่ในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อพระองค์ ดังนั้น ความศรัทธาเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดเพื่อเจริญก้าวหน้าในคริชณะจิตสำนึก ใน เชธันญะ-ชะริทามริทะฺ ได้กล่าวไว้ว่า ความศรัทธาคือความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ว่า จากการรับใช้องค์ภควานชรีคริชณะ เราสามารถบรรลุถึงความสมบูรณ์ทั้งหลายทั้งปวง เช่นนี้เรียกว่าความศรัทธาที่แท้จริง ดังที่ได้กล่าวไว้ใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ (4.31.14)
ยะทฺา ทะโรร มูละ-นิเชชะเนนะ
ทริพยันทิ ทัท-สคันดฺะ-บํูโจพะชาคาฮฺ
พราโณพะฮาราช ชะ ยะเทฺนดริยาณาม
ทะไทฺวะ สารวารฮะณัม อัชยุเทจยาฺ
“จากการรดน้ำที่รากของต้นไม้ จะทำให้กิ่งก้านสาขาและใบต่าง ๆ ทั้งหมดได้รับความพึงพอใจ และจากการส่งอาหารไปที่ท้อง จะทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทั้งหลายของร่างกายได้รับความพึงพอใจ ในทำนองเดียวกัน จากการปฏิบัติรับใช้ทิพย์ต่อองค์ภควานนี้จะทำให้เทวดาและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ทั้งหลายได้รับความพึงพอใจโดยปริยาย” ดังนั้น หลังจากอ่าน ภควัต-คีตาฺ แล้ว เราควรมาถึงจุดสรุปของ ภควัต-คีตาฺ ได้ในทันที เราควรยกเลิกการปฏิบัติอื่น ๆ ทั้งหมด และรับเอาวิธีการรับใช้ต่อองค์ภควานคริชณะมาปฏิบัติ หากมั่นใจเกี่ยวกับปรัชญาชีวิตเช่นนี้ นี่คือความศรัทธา
การพัฒนาความศรัทธานี้เป็นวิธีการของคริชณะจิตสำนึก บุคคลในคริชณะจิตสำนึกแบ่งออกเป็นสามระดับ ในระดับที่สามคือพวกไม่มีความศรัทธา ถึงแม้ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างเป็นทางการ พวกนี้ไม่สามารถบรรลุถึงระดับแห่งความสมบูรณ์สูงสุด เป็นไปได้อย่างมากว่าหลังระยะเวลาหนึ่งก็จะลื่นไถลตกลงไป พวกเขาอาจปฏิบัติรับใช้ แต่เนื่องจากไม่มีความมั่นใจและความศรัทธาอย่างสมบูรณ์ จึงเป็นสิ่งยากมากที่จะปฏิบัติคริชณะจิตสำนึกอย่างต่อเนื่อง เรามีประสบการณ์ภาคปฏิบัติว่า จากกิจกรรมเพื่อเผยแพร่คริชณะจิตสำนึก บางคนเข้ามาและปฏิบัติในคริชณะจิตสำนึกด้วยแรงกระตุ้นบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจ ทันทีที่ฐานะดีขึ้นจะยกเลิกวิธีการปฏิบัตินี้ และไปปฏิบัติตามวิถีทางเดิมอีกครั้งหนึ่ง ความศรัทธาเท่านั้นที่จะทำให้บุคคลเจริญก้าวหน้าในคริชณะจิตสำนึก เกี่ยวกับการพัฒนาความศรัทธา ผู้รอบรู้ในวรรณกรรมแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ และบรรลุถึงระดับแห่งความศรัทธาที่มั่นคงเรียกว่าบุคคลชั้นหนึ่งในคริชณะจิตสำนึก บุคคลชั้นสองคือพวกที่ไม่ค่อยเจริญก้าวหน้าเท่าใดนักในการเข้าใจพระคัมภีร์แห่งการอุทิศตนเสียสละ แต่มีความศรัทธาอย่างมั่นคงโดยปริยายว่า คริชณะ-บัฺคธิฺ หรือการรับใช้คริชณะเป็นวิถีทางที่ดีที่สุด และด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าจึงนำมาปฏิบัติ ดังนั้น พวกนี้ดีกว่าบุคคลชั้นสามที่ไม่มีทั้งความรู้ในพระคัมภีร์อย่างสมบูรณ์ และไม่มีความศรัทธา แต่เนื่องจากได้มาคบหาสมาคมและจากความเรียบง่ายจึงพยายามปฏิบัติตาม บุคคลชั้นสามในคริชณะจิตสำนึกอาจตกลงต่ำ แต่บุคคลชั้นสองจะไม่ตกลงต่ำ สำหรับบุคคลชั้นหนึ่งในคริชณะจิตสำนึกไม่มีโอกาสที่จะตกลงต่ำได้เลย และแน่นอนว่าจะเจริญก้าวหน้าจนบรรลุผลสำเร็จในที่สุด สำหรับบุคคลชั้นสามในคริชณะจิตสำนึก ถึงแม้ว่าจะมีความศรัทธาและมั่นใจว่าการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อคริชณะเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ยังไม่ได้รับความรู้เกี่ยวกับคริชณะจากพระคัมภีร์ เช่น ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ และ ภควัต-คีตาฺ อย่างเพียงพอ บางครั้งบุคคลชั้นสามในคริชณะจิตสำนึกมีแนวโน้มไปสู่ คารมะ-โยกะฺ และ กยานะ-โยกะฺ บางครั้งพวกนี้รู้สึกหวั่นไหว แต่ทันทีที่โรคร้ายแห่ง คารมะ-โยกะฺ หรือ กยานะ-โยกะฺ ถูกขจัดไป จะกลายมาเป็นบุคคลชั้นสองหรือบุคคลชั้นหนึ่งในคริชณะจิตสำนึก ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ อธิบายว่าความศรัทธาในคริชณะแบ่งออกเป็นสามระดับ ใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ ภาคสิบเอ็ดได้อธิบายถึงความเชื่อมั่นชั้นหนึ่ง ความเชื่อมั่นชั้นสอง และความเชื่อมั่นชั้นสาม ไว้เช่นกันบุคคลผู้ไม่มีศรัทธาแม้หลังจากสดับฟังเกี่ยวกับคริชณะ และความดีเลิศแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ คิดว่าเป็นเพียงถ้อยคำสรรเสริญเท่านั้น จะพบว่าวิถีทางนี้ยากมาก ถึงแม้ดูเหมือนว่าปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ สำหรับบุคคลเช่นนี้มีความหวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะบรรลุถึงความสมบูรณ์ ดังนั้นความศรัทธาจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้