ภควัต-คีตา ฉบับเดิม

บทที่ สิบสอง

การอุทิศตนเสียสละรับใช้

โศลก 1

อารจุนะ อุวาชะฺ
เอวัม สะทะทะ-ยุคทา เย
บัฺคธาส ทวาม พารยุพาสะเทฺ

เย ชาพิ อัคชะรัม อัพยัคทัม
เทชาม เค โยกะ-วิททะมาฮฺ

อารจุนะฮ อุวาชะฺ  -  อารจุนะตรัส, เอวัมฺ  -  ดังนั้น, สะทะทะฺ  -  เสมอ, ยุคทาฮฺ  -  ปฏิบัติ, เยฺ  -  ผู้ซึ่ง, บัคฺธาฮฺ  -  สาวก, ทวามฺ  -  พระองค์, พารยุพาสะเทฺ  -  บูชาอย่างถูกต้อง, เยฺ  -  ผู้ซึ่ง, ชะฺ  -  เช่นกัน, อพิฺ  -  อีกครั้ง, อัคชะรัมฺ  -  เหนือประสาทสัมผัส, อัพยัคทัมฺ  -  ที่ไม่ปรากฏ, เทชามฺ  -  ของพวกเขา, เคฺ  -  ผู้ซึ่ง, โยกะ-วิท-ทะมาฮฺ  -  มีความสมบูรณ์มากที่สุดในความรู้แห่งโยคะ

คำแปลฺ

อารจุนะทรงถามว่า  ระหว่างพวกที่ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้แด่พระองค์อย่างถูกต้องเสมอ  และพวกที่บูชา  บระฮมัน  อันไร้รูปลักษณ์ที่ไม่ปรากฏพิจารณาว่าพวกไหนสมบูรณ์กว่ากัน

คำอธิบายฺ

บัดนี้  คริชณะทรงอธิบายเกี่ยวกับมีรูปลักษณ์  ไม่มีรูปลักษณ์  และรูปลักษณ์จักรวาล  พร้อมทั้งอธิบายถึงสาวกและโยคีทั้งหลาย  โดยทั่วไปนักทิพย์นิยมแบ่งออกเป็นสองพวก  พวกหนึ่งไม่เชื่อในรูปลักษณ์  และอีกพวกหนึ่งเชื่อในรูปลักษณ์  สาวกผู้เชื่อในรูปลักษณ์ปฏิบัติด้วยพลังงานทั้งหมดเพื่อรับใช้องค์ภควาน  ผู้ไม่เชื่อในรูปลักษณ์มีการปฏิบัติเช่นกันโดยการทำสมาธิอยู่ที่  บระฮมันฺ  อันไร้รูปลักษณ์ที่ไม่ปรากฏ  แต่จะไม่รับใช้คริชณะโดยตรง

เราพบในบทนี้ว่า  ในวิธีการต่าง  ๆ  เพื่อรู้แจ้งสัจธรรม  ภักดี-โยคะฺ  หรือการอุทิศตนเสียสละรับใช้เป็นวิธีที่สูงสุด  หากผู้ใดปรารถนามาอยู่ใกล้ชิดกับบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า  ผู้นั้นต้องปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้

พวกที่บูชาองค์ภควานโดยตรงด้วยการอุทิศตนเสียสละรับใช้เรียกว่าพวกเชื่อในรูปลักษณ์  พวกปฏิบัติสมาธิอยู่ที่  บระฮมันฺ  อันไร้รูปลักษณ์เรียกว่าพวกไม่เชื่อในรูปลักษณ์  ณ  ที่นี้  อารจุนะทรงถามว่าสถานภาพไหนดีกว่ากัน  มีวิธีต่างๆ  เพื่อรู้แจ้งสัจธรรมแต่คริชณะทรงแสดงในบทนี้ว่า  ภักดี-โยคะฺ  หรือการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อพระองค์เป็นสิ่งที่สูงสุด  โดยตรงที่สุด  และเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเพื่อมาอยู่ใกล้ชิดกับองค์ภควาน

ในบทที่สองของ  ภควัต-คีตาฺ  องค์ภควานทรงอธิบายว่า  สิ่งมีชีวิตไม่ใช่ร่างวัตถุแต่เป็นละอองอณูทิพย์  และสัจธรรมเป็นส่วนทิพย์ที่สมบูรณ์  ในบทที่เจ็ดองค์ภควานทรงแนะนำว่า  สิ่งมีชีวิตในฐานะที่เป็นละอองอณูของส่วนที่สมบูรณ์สูงสุด  จึงควรย้ายความสนใจทั้งหมดไปสู่ส่วนที่สมบูรณ์  จากนั้นในบทที่แปดได้กล่าวไว้ว่า  หากผู้ใดระลึกถึงคริชณะในขณะที่ออกจากร่างวัตถุ  จะย้ายไปสู่ท้องฟ้าทิพย์ที่พระตำหนักของพระองค์โดยทันที  และในตอนท้ายของบทที่หก  องค์ภควานตรัสอย่างชัดเจนว่า  ในบรรดาโยคีทั้งหลาย  ผู้ที่ระลึกถึงคริชณะภายในตนเองเสมอพิจารณาว่าเป็นผู้ที่สมบูรณ์สูงสุด  ดังนั้น  ในทุก  ๆ  บทจะเห็นข้อสรุปว่า  เราควรยึดมั่นอยู่ที่รูปลักษณ์ส่วนพระองค์ของคริชณะเพราะนั่นคือความรู้แจ้งทิพย์ที่สูงสุด

อย่างไรก็ดี  มีพวกที่ไม่ยึดมั่นอยู่กับรูปลักษณ์ส่วนพระองค์ของคริชณะ  ไม่ยึดมั่นอย่างแน่วแน่แม้ในการเตรียมคำอธิบาย  ภควัต-คีตาฺ  แต่ต้องการทำให้ผู้คนไขว้เขวไปจากคริชณะเพื่อเปลี่ยนย้ายการอุทิศตนเสียสละทั้งหมดไปที่  บระฮมะจโยทิฺ  ซึ่งไร้รูปลักษณ์  และชอบทำสมาธิอยู่กับสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณ์แห่งสัจธรรมมากกว่า  ซึ่งอยู่เหนือการเอื้อมถึงของประสาทสัมผัสและไม่เป็นที่ปรากฏ

อันที่จริง  มีนักทิพย์นิยมอยู่สองกลุ่ม  บัดนี้อารจุนะทรงพยายามสรุปคำถามว่าวิธีใดง่ายกว่ากันและกลุ่มไหนสมบูรณ์ที่สุด  อีกนัยหนึ่ง  ท่านทำให้สถานภาพของท่านเองกระจ่างขึ้นเนื่องจากท่านยึดมั่นอยู่กับรูปลักษณ์ส่วนพระองค์ของคริชณะ  อารจุนะทรงไม่ยึดติดอยู่กับ  บระฮมันฺ  อันไร้รูปลักษณ์  และปรารถนาจะทราบว่าสถานภาพของท่านนั้นปลอดภัยหรือไม่  ปรากฏการณ์อันไร้รูปลักษณ์ไม่ว่าในโลกวัตถุนี้หรือในโลกทิพย์ขององค์ภควานจะเป็นปัญหาในการทำสมาธิ  อันที่จริงเราไม่สามารถสำเหนียกเกี่ยวกับลักษณะอันไร้รูปลักษณ์แห่งสัจธรรมได้อย่างถ่องแท้  ดังนั้น  อารจุนะทรงปรารถนาจะกล่าวว่า  “จะมีประโยชน์อันใดกับการสูญเสียเวลาไปเช่นนี้?”  อารจุนะทรงอธิบายในบทที่สิบเอ็ดว่า  การยึดมั่นอยู่กับรูปลักษณ์ส่วนพระองค์ของคริชณะดีที่สุดเพราะทำให้ท่านเข้าใจรูปลักษณ์อื่น  ๆ  ทั้งหมดในขณะเดียวกันและไม่มารบกวนกับความรักที่ท่านมีต่อคริชณะ  อารจุนะทรงได้ถามคำถามสำคัญนี้ต่อคริชณะจะทำให้ข้อแตกต่างระหว่างแนวคิดที่ไร้รูปลักษณ์และแนวคิดที่มีรูปลักษณ์แห่งสัจธรรมกระจ่างขึ้น

โศลก 2

ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ
มะยิ อาเวชยะ มะโน เย มาม
นิทยะ-ยุคทา อุพาสะเทฺ

ชรัดดฺะยา พะระโยเพทาส
เท เม ยุคทะทะมา มะทาฮฺ

ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ  -  องค์ภควานตรัส, มะยิฺ  -  แด่ข้า, อาเวชยะฺ  -  ตั้งมั่น, มะนะฮฺ  -  จิตใจ, เยฺ  -  พวกที่, มามฺ  -  ข้า, นิทยะฺ  -  เสมอ, ยุคทาฮฺ  -  ปฏิบัติ, อุพาสะเทฺ  -  บูชา, ชรัดดฺะยาฺ  -  ด้วยศรัทธา, พะระยาฺ  -  ทิพย์, อุเพทาฮฺ  -  ได้รับ, เทฺ  -  พวกเขา, เมฺ  -  จากข้า, ยุคทะ-ทะมาฮฺ  -  สมบูรณ์ที่สุดในโยคะ, มะทาฮฺ  -  พิจารณา

คำแปลฺ

องค์ภควานตรัสว่า  พวกที่ตั้งมั่นจิตอยู่ที่รูปลักษณ์ส่วนตัวของข้า  และปฏิบัติในการบูชาข้าด้วยความศรัทธาทิพย์อันยิ่งใหญ่เสมอ  ข้าพิจารณาว่าเป็นพวกที่สมบูรณ์ที่สุด

คำอธิบายฺ

ในการตอบคำถามของอารจุนะ  คริชณะตรัสอย่างชัดเจนว่า  ผู้ที่ตั้งสมาธิอยู่ที่รูปลักษณ์ส่วนตัวของพระองค์  บูชาพระองค์ด้วยความศรัทธา  และอุทิศตนเสียสละพิจารณาว่าเป็นผู้สมบูรณ์สูงสุดในโยคะ  สำหรับผู้ที่อยู่ในคริชณะจิตสำนึกเช่นนี้จะไม่มีกิจกรรมทางวัตถุ  เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างกระทำไปเพื่อคริชณะ  สาวกผู้บริสุทธิ์ปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา  บางครั้งสวดภาวนา  บางครั้งสดับฟัง  หรืออ่านหนังสือเกี่ยวกับคริชณะบางครั้งปรุง  พระสาดัมฺ  หรือไปตลาดเพื่อซื้อสิ่งของให้คริชณะ  บางครั้งทำความสะอาดวัดหรือล้างจาน  เขาจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไม่ให้เวลาแม้แต่นาทีเดียวผ่านไปโดยไม่อุทิศตนเสียสละกิจกรรมให้คริชณะ  การกระทำเช่นนี้พิจารณาว่าอยู่ในสมาธิที่สมบูรณ์

โศลก 3-4

เย ทุ อัคชะรัม อนิรเดชยัม
อัพยัคทัม พารยุพาสะเทฺ

สารวะทระ-กัม อชินทยัม ชะ
คูทะ-สทัฺม อชะลัม ดฺรุวัมฺ
สันนิยัมเยนดริยะ-กรามัม
สารวะทระ สะมะ-บุดดฺะยะฮฺ

เท พราพนุวันทิ มาม เอวะ
สารวะ-บํูทะ-ฮิเท ระทาฮฺ

เยฺ  -  พวกที่, ทฺุ  -  แต่, อัคชะรัมฺ  -  ซึ่งอยู่เหนือความเข้าใจของประสาทสัมผัส, อนิรเดชยัมฺ  -  ไม่มีที่สิ้นสุด, อัพยัคทัมฺ  -  ไม่ปรากฏ, พารยุพาสะเทฺ  -  ปฏิบัติการบูชาอย่างสมบูรณ์, สาร วะทระ-กัมฺ  -  แผ่กระจายไปทั่ว, อชินทยัมฺ  -  ไม่สามารถเห็นได้, ชะฺ  -  เช่นกัน, คูทะ-สทัฺมฺ  -  ไม่เปลี่ยนแปลง, อชะลัมฺ  -  ไม่เคลื่อนที่, ดฺรุวัมฺ  -  ตั้งมั่น, สันนิยัมยะฺ  -  ควบคุม, อินดริยะ- กรามัมฺ  -  ประสาทสัมผัสทั้งหมด, สารวะทระฺ  -  ทุกหนทุกแห่ง, สะมะ-บุดดฺะยะฮฺ  -  ปฏิบัติเสมอภาค, เทฺ  -  พวกเขา, พราพนุวันทิฺ  -  บรรลุ, มามฺ  -  ข้า, เอวะฺ  -  แน่นอน, สารวะ-บํูทะ- ฮิเทฺ  -  เพื่อประโยชน์สุขของมวลชีวิต, ระทาฮฺ  -  ปฏิบัติ

คำแปลฺ

แต่พวกที่บูชาอย่างจริงจังกับสิ่งที่ไม่ปรากฏ  ซึ่งอยู่เหนือความเข้าใจของประสาทสัมผัส  แผ่กระจายไปทั่ว  ไม่สามารถมองเห็นได้  ไม่มีการเปลี่ยนแปลง  มั่นคง  และไม่เคลื่อนที่  ซึ่งเป็นแนวคิดอันไร้รูปลักษณ์แห่งสัจธรรม  ด้วยการควบคุมประสาทสัมผัส  และปฏิบัติเสมอภาคกับทุก  ๆ  คน  บุคคลเช่นนี้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของมวลชีวิต  ในที่สุดจะบรรลุถึงข้า

คำอธิบายฺ

พวกที่ไม่บูชาองค์ภควานคริชณะโดยตรง  แต่พยายามบรรลุถึงเป้าหมายเดียวกันด้วยวิถีทางอ้อม  ในที่สุดจะบรรลุถึงเป้าหมายเช่นเดียวกันคือชรีคริชณะ  “หลังจากหลายต่อหลายชาติ  มนุษย์ผู้มีปัญญาจะแสวงหาที่พึ่งในข้า  รู้แจ้งว่าวาสุเดวะคือทุกสิ่งทุกอย่าง“  เมื่อบุคคลมีความรู้อย่างสมบูรณ์หลังจากหลายต่อหลายชาติจะศิโรราบต่อองค์ชรีคริชณะ  หากเข้าหาองค์ภควานด้วยวิธีที่กล่าวไว้ในโศลกนี้เขาต้องควบคุมประสาทสัมผัส  รับใช้ทุก  ๆ  คนและปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของมวลชีวิต  สรุปแล้วว่าต้องเข้าพบคริชณะ  มิฉะนั้น  จะไม่รู้แจ้งอย่างสมบูรณ์  ส่วนใหญ่จะปฏิบัติบำเพ็ญเพียรกันอย่างมากก่อนที่จะศิโรราบต่อพระองค์โดยสมบูรณ์

เพื่อสำเหนียกถึงองค์อภิวิญญาณภายในปัจเจกวิญญาณ  เขาต้องหยุดกิจกรรมทางประสาทสัมผัสเช่น  การเห็น  การสดับฟัง  การลิ้มรส  การทำงาน  ฯลฯ  จากนั้นจึงมาถึงจุดที่เข้าใจว่า  อภิวิญญาณทรงปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง  เมื่อรู้แจ้งเช่นนี้เขาจะไม่อิจฉาชีวิตใด  จะเห็นมนุษย์และสัตว์เท่าเทียมกันเพราะเห็นแต่ดวงวิญญาณเท่านั้นมิใช่สิ่งปกคลุมภายนอก  สำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไปวิธีแห่งการรู้แจ้งที่ไร้รูปลักษณ์เช่นนี้ยากลำบากมาก

โศลก 5

คเลโช ่ดิฺคะทะรัส เทชาม
อัพยัคทาสัคทะ-เชทะสามฺ

อัพยัคทา ฮิ กะทิร ดุฮคัฺม
เดฮะวัดบฺิร อวาพยะเทฺ

คเลชะฮฺ  -  ปัญหา, อดิฺคะ-ทะระฮฺ  -  มาก, เทชามฺ  -  ของพวกเขา, อัพยัคทะฺ  -  ต่อสิ่งที่ไม่ปรากฏ, อาสัคทะฺ  -  ยึดติด, เชทะสามฺ  -  จิตใจของพวกเขา, อัพยัคทาฺ  -  ต่อสิ่งที่ไม่ปรากฏ, ฮิฺ  -  แน่นอน, กะทิฮฺ  -  ก้าวหน้า, ดํุคัฺมฺ  -  ด้วยปัญหา, เดฮะ-วัดบิฺฮฺ  -  โดยร่างกาย, อวาพยะ เทฺ  -  บรรลุ

คำแปลฺ

สำหรับพวกที่จิตใจยึดติดอยู่กับลักษณะที่ไร้รูปลักษณ์อันไม่ปรากฏขององค์ภควาน  ความเจริญก้าวหน้านั้นมีปัญหามาก  การทำความเจริญก้าวหน้าในนิกายนี้ยากเสมอสำหรับผู้ที่อยู่ในร่างกาย

คำอธิบายฺ

กลุ่มนักทิพย์นิยมผู้ปฏิบัติตามวิถีทางที่มองไม่เห็น  ไม่เป็นที่ปรากฏ  ลักษณะไร้รูปลักษณ์ขององค์ภควานเรียกว่า  กยานะ-โยกีฺ  และบุคคลผู้อยู่ในคริชณะจิตสำนึกโดยสมบูรณ์ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อองค์ภควานเรียกว่า  บัฺคธิ-โยกีฺ  บัดนี้ข้อแตกต่างระหว่าง  กยานะ-โยกะฺ  และ  บัคธิ-โยกะฺ  ได้อธิบายอย่างชัดเจน  วิธีการของ  กยานะ-โยกะฺ  ถึงแม้ว่าในที่สุดจะนำมาถึงเป้าหมายเดียวกัน  แต่มีปัญหามาก  ขณะที่วิถีทางของ  บัฺคธิ-โยกะฺ  วิธีการรับใช้บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยตรงง่ายกว่าและเป็นธรรมชาติสำหรับวิญญาณที่อยู่ในร่างกาย  ปัจเจกวิญญาณอยู่ภายในร่างกายตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์  จึงเป็นสิ่งยากมากที่จะให้เข้าใจเพียงแค่ทฤษฎีว่าตัวเขาไม่ใช่ร่างกายดังนั้น  บัฺคธิ-โยกีฺ  ยอมรับพระปฏิมาของคริชณะ  เป็นที่สักการบูชา  เพราะมีแนวความคิดทางร่างกายบางอย่างตั้งมั่นอยู่ในจิตใจซึ่งนำมาปฏิบัติได้  แน่นอนว่าการบูชาบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าในรูปลักษณ์ของพระองค์ภายในวัด  มิใช่เป็นการบูชารูปปั้น  มีหลักฐานในวรรณกรรมพระเวทว่าการบูชาอาจเป็น  สะกุณะฺ  องค์ภควานผู้ครอบครอง  และ  นิรกุณะฺ  องค์ภควานในลักษณะไม่ครอบครอง  การบูชาพระปฏิมาในวัดเป็นการบูชา  สะกุณะฺ  เพราะว่าองค์ภควานมีลักษณะทางวัตถุเป็นผู้แทน  แต่รูปลักษณ์ขององค์ภควานถึงแม้ว่ามีลักษณะทางวัตถุเป็นผู้แทน  เช่น  หิน  ไม้  หรือภาพวาดสีน้ำมัน  อันที่จริงไม่ใช่วัตถุ  นั่นคือธรรมชาติอันสมบูรณ์บริบูรณ์ขององค์ภควาน

ตัวอย่างง่าย  ๆ  ให้ไว้  ณ  ที่นี้  คือเราอาจพบตู้ไปรษณีย์ริมถนน  หากเราหย่อนซองจดหมายลงไปในตู้ไปรษณีย์เหล่านั้น  โดยธรรมชาติจดหมายจะไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ยากลำบาก  แต่หากเป็นตู้เก่าหรือตู้ไปรษณีย์ปลอมที่เราอาจพบซึ่งกรมไปรษณีย์ไม่รับรอง  การส่งจดหมายนี้จะไม่ประสบผลสำเร็จ  ในทำนองเดียวกันองค์ภควานทรงมีผู้แทนที่รับรองได้ในรูปลักษณ์พระปฏิมาเรียกว่า  อารชา-วิกระฮะ,  อารชา-วิกระฮะฺ  นี้เป็นอวตารขององค์ภควาน  พระองค์จะทรงรับบริการรับใช้ผ่านรูปลักษณ์นั้น  องค์ภควานผู้ทรงเดชมีพลังทั้งหมด  ฉะนั้น  อวตารในรูป  อารชา-วิกระ-  ฮะฺ  ทรงสามารถรับการรับใช้ของสาวกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่มนุษย์ในชีวิตที่อยู่ในสภาวะ

ดังนั้น  สำหรับสาวกจะไม่มีความยากลำบากในการเข้าถึงองค์ภควานโดยตรงและรวดเร็ว  แต่สำหรับพวกที่ปฏิบัติตามวิธีที่ไร้รูปลักษณ์เพื่อความรู้แจ้งทิพย์  วิถีทางนั้นยาก  เพราะต้องทำความเข้าใจกับผู้แทนที่ไม่ปรากฏของพระองค์ผ่านทางวรรณกรรมพระเวท  เช่น  อุพะนิชัดฺ  และต้องเรียนภาษา  ต้องเข้าใจความรู้สึกที่มองไม่เห็น  และต้องรู้แจ้งถึงวิธีกรรมทั้งหลายเหล่านี้  ซึ่งไม่ใช่ของง่ายสำหรับมนุษย์ธรรมดา  บุคคลในคริชณะจิตสำนึกปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้  จากการชี้นำของพระอาจารย์ทิพย์ผู้ที่เชื่อถือได้  ถวายความเคารพต่อพระปฏิมาสม่ำเสมอ  สดับฟังพระบารมีขององค์ภควานและรับประทานอาหารส่วนที่เหลือหลังจากถวายให้พระองค์แล้ว  เพียงแต่ทำสิ่งเหล่านี้  ผู้นี้สามารถรู้แจ้งถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยง่ายดาย  พวกไม่เชื่อในรูปลักษณ์รับเอาวิธีปฏิบัติที่มีปัญหาด้วยความเสี่ยงที่จะไม่รู้แจ้งถึงสัจธรรมในบั้นปลายโดยไม่ต้องสงสัย  แต่ผู้ที่เชื่อในรูปลักษณ์โดยปราศจากความเสี่ยง  ปัญหา  หรือ  ความยากลำบาก  เข้าถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าโดยตรง  มีข้อความในทำนองเดียวกันนี้ปรากฏใน  ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ  ว่า  หากผู้ใดในที่สุดต้องศิโรราบต่อบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า  (วิธีการศิโรราบนี้เรียกว่าบัฺคธิฺ)  แต่ไปรับเอาความยากลำบากในการเข้าใจว่าอะไรคือ  บระฮมันฺ  และอะไร  ไม่ใชฺ่บระฮมันฺ  และได้ใช้เวลาของตนตลอดชีวิตปฏิบัติเช่นนี้ผลที่ได้ก็มีแต่ปัญหา  ฉะนั้น  จึงแนะนำไว้  ณ  ที่นี้ว่า  เราไม่ควรรับเอาวิถีทางเพื่อการรู้แจ้งแห่งตนที่เป็นปัญหา  เพราะว่าผลขั้นสุดท้ายจะไม่แน่นอน

สิ่งมีชีวิตเป็นปัจเจกวิญญาณชั่วกัลปวสาน  หากปรารถนาจะกลืนเข้าไปในส่วนทิพย์  เขาอาจบรรลุถึงความรู้แจ้งแง่มุมของความเป็นอมตะและความรู้ในธรรมชาติเดิมแท้ของตน  แต่ส่วนที่เป็นความปลื้มปีติสุขจะไม่สามารถรู้แจ้ง  ด้วยพระกรุณาธิคุณของสาวกบางรูปทำให้นักทิพย์นิยมผู้มีความรู้สูงในวิธีของ  กยานะ-โยกะฺ  นี้อาจมาถึงจุดแห่ง  บัฺคธิ-โยกะฺ  หรือการอุทิศตนเสียสละรับใช้  เมื่อถึงเวลานั้นการฝึกปฏิบัติตามลัทธิไร้รูปลักษณ์เป็นเวลายาวนานจะกลายมาเป็นปัญหาเพราะไม่สามารถยกเลิกความคิดนั้นได้  ดังนั้น  วิญญาณผู้อยู่ในร่างจะมีความยากลำบากกับสิ่งที่ไม่ปรากฏ  ทั้งในขณะที่ปฏิบัติและในขณะที่รู้แจ้ง  ทุกดวงวิญญาณมีเสรีภาพบางส่วน  และควรรู้อย่างแน่ชัดว่า  ความรู้แจ้งที่ไม่เป็นที่ปรากฏนี้  ฝืนต่อธรรมชาติของตนเองซึ่งเป็นทิพย์และมีความปลื้มปีติสุข  จึงไม่ควรปฏิบัติตามวิธีนี้  สำหรับทุก  ๆ  ปัจเจกชีวิต  วิธีแห่งคริชณะจิตสำนึกจะนำมาซึ่งการปฏิบัติอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างสมบูรณ์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดหากละเลยการอุทิศตนเสียสละรับใช้นี้จะเป็นอันตรายในการกลับไปสู่ลัทธิที่ไม่เชื่อในองค์ภควาน  ดังนั้น  วิธีที่มุ่งความตั้งใจไปยังสิ่งที่ไม่เป็นที่ปรากฏ  ไม่สามารถมองเห็นได้  อยู่เหนือการเข้าถึงของประสาทสัมผัส  ได้แสดงไว้ในโศลกนี้ว่า  ไม่ควรได้รับการส่งเสริมไม่ว่าในเวลาใด  โดยเฉพาะในยุคนี้  ซึ่งองค์ชรีคริชณะทรงไม่แนะนำ

โศลก 6-7

เย ทุ สารวารณิ คารมาณิ
มะยิ สันนยัสยะ มัท-พะราฮฺ

อนันเยไนวะ โยเกนะ
มาม ดฺยายันทะ อุพาสะเทฺ
เทชาม อฮัม สะมุดดฺารทา
มริทยุ-สัมสาระ-สากะราทฺ

บฺะวามิ นะ ชิราท พารทฺะ
มะยิ อาเวชิทะ-เชทะสามฺ

เยฺ  -  พวกซึ่ง, ทฺุ  -  แต่, สารวาณิฺ  -  ทั้งหมด, คารมาณิฺ  -  กิจกรรม, มะยิฺ  -  แด่ข้า, สันนยัสยะฺ  -  ยกเลิก, มัทฺ  -  พะราฮฺ  -  ยึดมั่นต่อข้า, อนันเยนะฺ  -  โดยไม่แบ่งแยก, เอวะฺ  -  แน่นอน, โยเกนะฺ  -  จากการปฏิบัติ บัฺคธิ-โยกะฺ เช่นนี้, มามฺ  -  แด่ข้า, ดฺยายันทะฮฺ  -  ทำสมาธิ, อุพาสะเทฺ  -  บูชา, เทชามฺ  -  ของพวกเขา, อฮัมฺ  -  ข้า, สะมุดดฺารทาฺ  -  ผู้ส่ง, มริทยฺุ  -  แห่งความตาย, สัมสาระฺ  -  ในความเป็นอยู่ทางวัตถุ, สากะราทฺ  -  จากมหาสมุทร, บฺะวามิฺ  -  ข้ามาเป็น, นะฺ  -  ไม่, ชิราทฺ  -  หลังจากเวลายาวนาน, พาทฺะฺ  -  โอ้ โอรสพระนางพริทฺา, มะยิฺ  -  แด่ข้า, อาเวชิทะฺ  -  ตั้งมั่น, เชทะสามฺ  -  จิตใจของพวกเขา

คำแปลฺ

แต่พวกที่บูชาข้า  ถวายกิจกรรมทั้งหมด  และเสียสละแด่ข้าโดยไม่เบี่ยงเบนปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละรับใช้  และทำสมาธิอยู่ที่ข้าเสมอ  ตั้งจิตมั่นอยู่ที่ข้าโอ้  โอรสพระนางพริทฺา  ข้าคือผู้จัดส่งพวกเขาให้ออกจากมหาสมุทรแห่งการเกิดและการตายโดยเร่งด่วน

คำอธิบายฺ

ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน  ณ  ที่นี้ว่า  สาวกโชคดีมากที่องค์ภควานทรงจัดส่งให้ออกจากความเป็นอยู่ทางวัตถุโดยเร็ว  ด้วยการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่บริสุทธิ์  เรารู้แจ้งว่าองค์ภควานนั้นทรงยิ่งใหญ่  และปัจเจกวิญญาณเป็นผู้น้อยด้อยกว่าพระองค์หน้าที่ของเราคือถวายการรับใช้องค์ภควาน  หากไม่กระทำเช่นนี้เราจะต้องรับใช้  มายาฺ

ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า  องค์ภควานทรงชื่นชมยินดีกับการอุทิศตนเสียสละรับใช้เท่านั้น  ฉะนั้น  เราควรอุทิศตนเสียสละอย่างเต็มที่  ควรตั้งมั่นจิตอยู่ที่คริชณะอย่างสมบูรณ์เพื่อบรรลุถึงพระองค์  เราควรทำงานเพื่อคริชณะเท่านั้น  ไม่สำคัญว่าเป็นงานอะไร  แต่งานนั้นควรทำไปเพื่อคริชณะเท่านั้น  นั่นคือมาตรฐานการอุทิศตนเสียสละรับใช้  สาวกไม่ปรารถนาจะบรรลุถึงเป้าหมายอื่นใดนอกจากทำให้บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าทรงชื่นชมยินดี  ภารกิจในชีวิตของเราคือทำให้คริชณะทรงพอพระทัย  จนเราสามารถเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความพึงพอพระทัยของพระองค์  เหมือนกับอาร-จุนะทรงกระทำที่สมรภูมิคุรุคเชทระ  วิธีการนั้นง่ายมาก  เราสามารถอุทิศตนเสียสละอยู่ในอาชีพของเรา  และในขณะเดียวกันสวดภาวนา  ฮะเร  คริชณะ  ฮะเร  คริชณะคริชณะ  คริชณะ  ฮะเร  ฮะเร/  ฮะเร  รามะ  ฮะเร  รามะ  รามะ  รามะ  ฮะเร  ฮะเร  การสวดภาวนาทิพย์เช่นนี้จะดึงดูดสาวกมาที่องค์ภควาน

ณ  ที่นี้  องค์ภควานทรงสัญญาว่า  โดยไม่ล่าช้าพระองค์จะจัดส่งสาวกผู้ปฏิบัติโดยบริสุทธิ์เช่นนี้จากมหาสมุทรแห่งความเป็นอยู่ทางวัตถุ  พวกที่เจริญในการปฏิบัติโยคะสามารถโอนย้ายดวงวิญญาณตามความปรารถนาของตนไปยังโลกใดก็ได้ที่ตนชอบด้วยวิธีโยคะ  บุคคลอื่นจะฉวยโอกาสจากหลายวิธี  แต่สำหรับสาวกได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน  ณ  ที่นี้ว่า  องค์ภควานเองจะทรงมารับเขา  สาวกไม่จำเป็นต้องรอให้มีประสบการณ์มากเพื่อย้ายโอนตนเองไปยังท้องฟ้าทิพย์

ใน  วะราฮะ  พุราณะฺ  โศลกนี้ปรากฏ

นะยามิ พะระมัม สทฺานัม
อารชิร-อาดิ-กะทิม วินาฺ

กะรุดะ-สคันดัฺม อาโรพยะ
ยะเทฺชชัฺม อนิวาริทะฮฺ

คำอธิบายคือ  สาวกไม่จำเป็นต้องฝึกปฏิบัติ  อัชทางกะ-โยกะฺ  เพื่อโอนย้ายดวงวิญญาณของตนไปยังโลกทิพย์  องค์ภควานเองทรงเป็นผู้รับผิดชอบโดยกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า  พระองค์เองจะกลายมาเป็นผู้จัดส่ง  เด็กน้อยที่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครองโดยสมบูรณ์  สถานภาพของเขานั้นปลอดภัย  ในทำนองเดียวกัน  สาวกไม่จำเป็นต้องพยายามโอนย้ายตนเองด้วยการฝึกปฏิบัติโยคะเพื่อไปยังโลกอื่น  ๆ  แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณพระองค์เสด็จมาทันที  ทรงประทับอยู่บนหลังพญาครุฑ  (กะรุดะ)  และจัดส่งสาวกจากความเป็นอยู่ทางวัตถุโดยทันที  แม้ว่ามนุษย์ผู้ตกลงไปในมหาสมุทรอาจดิ้นรนด้วยความยากลำบากมาก  อาจเป็นผู้ชำนาญในการว่ายน้ำ  แต่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้  ถ้าหากมีใครคนหนึ่งมารับให้ขึ้นจากน้ำ  เขาจะได้รับความปลอดภัยโดยง่ายดายในทำนองเดียวกัน  พระองค์ทรงรับสาวกจากความเป็นอยู่ทางวัตถุนี้  เราเพียงแต่ต้องปฏิบัติวิธีง่าย  ๆ  ของคริชณะจิตสำนึก  และปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้โดยสมบูรณ์ผู้มีปัญญาควรชอบวิธีแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้มากกว่าวิถีทางอื่นทั้งหมดเสมอ  ใน  นารายะณียะฺ  ได้ยืนยันไว้ดังนี้

ยา ไว สาดฺะนะ-สัมพัททิฮ
พุรุชารทฺะ-ชะทุชทะเยฺ

ทะยา วินา ทัด อาพโนทิ
นะโร นารายะณาชระยะฮฺ

คำอธิบายของโศลกนี้คือ  เราไม่ควรปฏิบัติวิธีต่าง  ๆ  ในกิจกรรมเพื่อหวังผลทางวัตถุหรือพัฒนาความรู้ด้วยวิธีการคาดคะเนทางจิต  ผู้ที่อุทิศตนเสียสละแด่บุคลิกภาพสูงสุดสามารถได้รับประโยชน์ทั้งหลายที่ได้รับจากวิธีโยคะอื่น  ๆ  เช่น  จากการคาดคะเน  จากพิธีบูชา  จากการบวงสรวง  จากการให้ทาน  ฯลฯ  นั่นคือ  พรโดยเฉพาะจากการอุทิศตนเสียสละรับใช้

เพียงแต่สวดภาวนาพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของชรีคริชณะ  ฮะเร  คริชณะ  ฮะเรคริชณะ  คริชณะ  คริชณะ  ฮะเร  ฮะเร/  ฮะเร  รามะ  ฮะเร  รามะ  รามะ  รามะ  ฮะเร  ฮะเรสาวกขององค์ภควานสามารถบรรลุถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดโดยง่ายดายอย่างมีความสุขแต่จุดมุ่งหมายนี้  วิธีการทางศาสนาอื่นไม่สามารถบรรลุถึง

ข้อสรุปของ  ภควัต-คีตาฺ  กล่าวไว้ในบทที่สิบแปด  ดังนี้

สารวะ-ดฺารมาน พะริยัจยะ
มาม เอคัม ชะระณัม วระจะฺ

อฮัม ทวาม สารวะ-พาเพบฺโย
โมคชะยิชยามิ มา ชุชะฮฺ

เราควรยกเลิกวิธีการอื่น  ๆ  ทั้งหมดเพื่อความรู้แจ้งแห่งตน  และเพียงแต่ปฏิบัติอุทิศตนเสียสละรับใช้ในคริชณะจิตสำนึกเท่านั้น  เช่นนี้จะทำให้เราบรรลุถึงความสมบูรณ์สูงสุดแห่งชีวิต  ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงบาปกรรมของตนในชาติปางก่อนเพราะว่าองค์ภควานทรงดูแลเราอย่างสมบูรณ์  ฉะนั้น  เราไม่ควรพยายามจัดส่งตนเองในความรู้แจ้งทิพย์โดยไร้สาระประโยชน์  ทุกคนควรมาพึ่งชรีคริชณะองค์ภควานผู้ทรงเดชสูงสุด  นั่นคือความสมบูรณ์สูงสุดแห่งชีวิต

โศลก 8

มะยิ เอวะ มะนะ อาดัฺทสวะ
มะยิ บุดดิฺม นิเวชะยะฺ

นิวะสิชยะสิ มะยิ เอวะ
อทะ อูรดฺวัม นะ สัมชะยะฮฺ

มะยิฺ  -  แด่ข้า, เอวะฺ  -  แน่นอน, มะนะฮฺ  -  จิตใจ, อาดัฺทสวะฺ  -  ตั้งมั่น, มะยิฺ  -  แด่ข้า, บุดดิฺมฺ  -  ปัญญา, นิเวชะยะฺ  -  ใช้, นิวัสอิชยะสิฺ  -  เธอจะอยู่, มะยิฺ  -  ในข้า, เอวะฺ  -  แน่นอน, อทะ ฮอู รดฺวัมฺ  -  หลังจากนั้น, นะฺ  -  ไม่เคย, สัมชะยะฮฺ  -  สงสัย

คำแปลฺ

เพียงแต่ตั้งมั่นจิตของเธออยู่ที่ข้า  บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า  และใช้ปัญญาของเธอทั้งหมดในข้า  เช่นนี้  เธอจะอยู่ในข้าเสมอโดยไม่ต้องสงสัย

คำอธิบายฺ

ผู้ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อชรีคริชณะ  มีชีวิตอยู่ในความสัมพันธ์โดยตรงกับพระองค์  จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสถานภาพของเขานั้นเป็นทิพย์ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นสาวกมิได้อยู่ในระดับวัตถุ  แต่อยู่ในคริชณะ  พระนามอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์ภควานและองค์ภควานไม่แตกต่างกัน  ดังนั้น  เมื่อสาวกภาวนา  ฮะเร  คริชณะ  ทั้งคริชณะและพลังเบื้องสูงของพระองค์ลีลาศอยู่บนลิ้นของสาวก  เมื่อเราถวายอาหารให้คริชณะ  พระองค์ทรงรับอาหารนั้นไปเสวยโดยตรง  จากการรับประทานอาหารส่วนที่เหลือทำให้สาวกมีคริชณะจิตสำนึก  ผู้ที่ไม่ปฏิบัติการรับใช้เช่นนี้  จะไม่สามารถเข้าใจว่าเป็นไปได้อย่างไรถึงแม้ว่าวิธีนี้ได้แนะนำไว้ใน  ภควัต-คีตาฺ  และในวรรณกรรมพระเวทอื่น  ๆ

โศลก 9

อทฺะ ชิททัม สะมาดฺาทุม
นะ ชัคโนชิ มะยิ สทิฺรัมฺ

อับฺยาสะ-โยเกนะ ทะโท
มาม อิชชฺาพทุม ดฺะนันจะยะฺ

อทฺะฺ  -  ถ้าหาก,ฉะนั้น, ชิททัม-จิต, สะมาดฺาทุมฺ  -  ตั้งมั่น, นะฺ  -  ไม่, ชัคโนชิฺ  -  เธอสามารถ, มะยิฺ  -  แด่ข้า, สทิฺรัม-มั่นคง, อับฺยาสะฺ  -  โยเกนะฺ  -  ด้วยการปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้, ทะทะฮฺ  -  จากนั้น, มามฺ  -  ข้า, อิชชฺาฺ  -  ปรารถนา, อาพทุม-ได้รับ, ดฺะนัมฺ  -  จะยะฺ  -  โอ้อารจุนะ ผู้ชนะความร่ำรวย

คำแปลฺ

อารจุนะที่รัก  โอ้  ผู้ชนะความร่ำรวย  หากไม่สามารถตั้งจิตมั่นอยู่ที่ข้าโดยไม่เบี่ยงเบน  เธอก็ปฏิบัติตามหลักธรรมของ  บัฺคธิ-โยกะ  เช่นนี้  เธอจะพัฒนาความปรารถนาที่จะบรรลุถึงข้า

คำอธิบายฺ

โศลกนี้แสดงให้เห็น  บัฺคธิ-โยกะฺ  สองวิธี  วิธีแรกสำหรับผู้ที่ได้พัฒนาความยึดมั่นด้วยความรักทิพย์ต่อคริชณะบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าแล้วอย่างแท้จริง  และอีกวิธีหนึ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่พัฒนาความยึดมั่นต่อองค์ภควานด้วยความรักทิพย์  สำหรับกลุ่มที่สองนี้  มีกฎเกณฑ์ต่าง  ๆ  ที่กำหนดไว้ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติตามได้  และในที่สุดจะพัฒนามาถึงระดับแห่งความยึดมั่นต่อ  คริชณะ

ภักดี-โยคะฺ  เป็นวิธีทำให้ประสาทสัมผัสต่าง  ๆ  บริสุทธิ์ขึ้น  ในความเป็นอยู่ปัจจุบันประสาทสัมผัสไม่บริสุทธิ์เสมอเนื่องจากมาคลุกคลีอยู่ในการสนองประสาทสัมผัส  แต่จากการปฏิบัติ  ภักดี-โยคะฺ  ประสาทสัมผัสเหล่านี้ถูกทำให้บริสุทธิ์ขึ้นได้  และในระดับที่บริสุทธิ์เราจะมาสัมผัสกับองค์ภควานโดยตรง  ในความเป็นอยู่ทางวัตถุนี้เราอาจปฏิบัติรับใช้บางสิ่งบางอย่างให้เจ้านายบางคน  แต่มิได้ทำไปด้วยความรักเจ้านายจริง  เราเพียงแต่รับใช้เพื่อให้ได้เงินมาเท่านั้น  เจ้านายก็ไม่มีความรักเช่นเดียวกัน  ได้แต่ใช้บริการและจ่ายเงินให้เรา  ดังนั้น  จึงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความรักเลย  แต่สำหรับชีวิตทิพย์เราต้องพัฒนามาถึงระดับแห่งความรักที่บริสุทธิ์  ระดับแห่งความรักที่บริสุทธิ์นั้นบรรลุได้ด้วยการปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ซึ่งใช้ประสาทสัมผัสที่ปัจจุบันมีอยู่ปฏิบัติการ

ปัจจุบัน  ความรักแห่งองค์ภควานนี้ซ่อนเร้นอยู่ภายในหัวใจของทุก  ๆ  คน  ความรักแห่งพระองค์จึงปรากฏออกมาในรูปแบบต่าง  ๆ  กัน  แต่ที่ปรากฏมีมลทินเนื่องจากมาสัมพันธ์กับวัตถุ  ดังนั้น  ต้องทำให้หัวใจบริสุทธิ์ขึ้นจากการที่มาคบหาสมาคมกับวัตถุจากนั้นความรักคริชณะที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตามธรรมชาติของเราจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมา  นี่คือวิธีการทั้งหมด

ในการปฏิบัติตามหลักธรรมของ  ภักดี-โยคะฺ  ภายใต้การแนะนำของพระอาจารย์ทิพย์ผู้มีความชำนาญ  เราควรปฏิบัติตามหลักธรรมบางประการ  เช่น  ตื่นนอนแต่เช้าตรู่  อาบน้ำ  เข้าวัด  ถวายบทมนต์  และสวดภาวนา  ฮะเร  คริชณะ  จากนั้นไปเก็บดอกไม้มาถวายให้พระปฏิมา  ปรุงอาหารและถวายให้พระปฏิมา  รับประทานอาหารทิพย์  (พระสาดัม)ฺ  ฯลฯ  มีกฎเกณฑ์ต่าง  ๆ  ที่ควรปฏิบัติตาม  เราควรสดับฟัง  ภควัต-  คีตาฺ  และ  ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ  จากเหล่าสาวกผู้บริสุทธิ์เสมอ  การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยทุกคนให้เจริญขึ้นมาถึงระดับแห่งความรักองค์ภควาน  หลังจากนั้น  เราจะมั่นใจในความเจริญก้าวหน้าไปสู่อาณาจักรทิพย์แห่งองค์ภควาน  การปฏิบัติ  ภักดี-โยคะฺ  ภายใต้กฎเกณฑ์จากการนำทางของพระอาจารย์ทิพย์นี้  จะนำให้เรามาถึงระดับแห่งความรักองค์ภควานอย่างแน่นอน

โศลก 10

อับฺยาเส ่พิ อสะมารโทฺ ่สิ
มัท-คารมะ-พะระโม บฺะวะฺ

มัด-อารทัฺม อพิ คารมาณิ
คุรวัน สิดดิฺม อวาพสยะสิฺ

อับฺยาเสฺ  -  ในการปฏิบัติ, อพิฺ  -  ถึงแม้ว่า, อสะมารทฺะฮฺ  -  ไม่สามารถ, อสิฺ  -  เธอเป็น, มัท- คารมะฺ  -  งานของข้า, พะระมะฮฺ  -  อุทิศตนเสียสละแด่, บฺะวะฺ  -  มาเป็น, มัท-อารทัฺมฺ  -  เพื่อประโยชน์ของข้า, อพิฺ  -  แม้, คารมาณิฺ  -  งาน, คุรวันฺ  -  ปฏิบัติ, สิดดิฺมฺ  -  สมบูรณ์, อวาพสยะ สิฺ  -  เธอจะบรรลุ

คำแปลฺ

หากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ  บัคฺธิ-โยกะ  เธอก็พยายามทำงานให้แก่ข้า  เพราะจากการทำงานให้ข้า  เธอจะมาถึงระดับที่สมบูรณ์

คำอธิบายฺ

ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักธรรมของ  ภักดี-โยคะฺ  ภายใต้การแนะนำของพระอาจารย์ทิพย์  ยังถูกนำพาให้มาถึงระดับสมบูรณ์นี้ได้ด้วยการทำงานให้แด่องค์ภควาน  จะทำงานนี้ได้อย่างไรได้อธิบายไว้แล้วในโศลกที่ห้าสิบห้าของบทที่สิบเอ็ด  เราควรเห็นใจในการเผยแพร่คริชณะจิตสำนึก  มีสาวกมากมายปฏิบัติตนในการเผยแพร่คริชณะจิตสำนึกซึ่งต้องการความช่วยเหลือ  ดังนั้น  แม้เราไม่สามารถปฏิบัติตามหลักธรรมของ  ภักดี-โยคะฺ  โดยตรง  เราอาจพยายามช่วยงานนี้ได้  การริเริ่มกระทำสิ่งใดจำเป็นต้องใช้ที่ดิน  เงินทุน  องค์กร  และแรงงาน  เช่นเดียวกับธุรกิจ  เราจำเป็นต้องมีสถานที่อยู่อาศัย  มีเงินทุนสำหรับใช้จ่าย  มีแรงงาน  และมีองค์กรเพื่อขยาย  สิ่งต่าง  ๆ  เหล่านี้มีความจำเป็นในการรับใช้คริชณะ  ข้อแตกต่างก็คือ  ในลัทธิวัตถุนิยมงานทำไปเพื่อสนองประสาทสัมผัส  อย่างไรก็ดีงานที่คล้ายกันนี้สามารถกระทำได้เพื่อความพึงพอพระทัยของคริชณะและนั่นคือกิจกรรมทิพย์  หากมีเงินเพียงพอเราสามารถช่วยก่อสร้างสำนักงาน  หรือสร้างวัดเพื่อเผยแพร่คริชณะจิตสำนึก  หรืออาจช่วยในการพิมพ์หนังสือยังมีกิจกรรมอื่น  ๆ  อีกมากมายที่น่าสนใจ  หากเราไม่สามารถสละผลของกิจกรรมเราก็สามารถสละบางส่วนเพื่อเผยแพร่คริชณะจิตสำนึก  การอาสาบริการรับใช้เพื่อคริชณะจิตสำนึกนี้  จะช่วยให้เจริญขึ้นมาถึงระดับแห่งความรักองค์ภควานที่สูงกว่า  ซึ่งจะทำให้เราสมบูรณ์

โศลก 11

อไทฺทัด อพิ อชัคโท ่สิ
คารทุม มัด-โยกัม อาชริทะฮฺ

สารวะ-คารมะ-พฺะละ-ทยากัม
ทะทะฮ คุรุ ยะทาทมะวานฺ

อทฺะฺ  -  ถึงแม้ว่า, เอทัทฺ  -  นี้, อพิฺ  -  เช่นกัน, อชัคทะฮฺ  -  ไม่สามารถ, อสิฺ  -  เธอเป็น, คารทุมฺ  -  ปฏิบัติ, มัทฺ  -  แด่ข้า, โยกัมฺ  -  ในการอุทิศตนเสียสละรับใช้, อาชริทะฮฺ  -  เป็นที่พึ่ง, สารวะ- คารมะฺ  -  กิจกรรมทั้งหลาย, พฺะละฺ  -  ของผล, ทยากัมฺ  -  เสียสละ, ทะทะฮฺ  -  จากนั้น, คุรฺุ  -  ทำ, ยะทะ-อาทมะ-วานฺ  -  ตั้งมั่นในตนเอง

คำแปลฺ

อย่างไรก็ดี  หากไม่สามารถทำงานในจิตสำนึกแห่งข้านี้ได้  ก็พยายามเสียสละผลงานของเธอทั้งหมด  และพยายามตั้งมั่นอยู่ในตนเอง

คำอธิบายฺ

อาจเป็นไปได้ที่เราไม่สามารถแม้แต่จะเห็นอกเห็นใจกับกิจกรรมต่าง  ๆ  ในคริชณะจิตสำนึก  อันเนื่องมาจากข้อพิจารณาทางสังคม  ทางครอบครัว  หรือทางศาสนาหรือเนื่องมาจากอุปสรรคอื่น  ๆ  หากเรายึดมั่นกับกิจกรรมในคริชณะจิตสำนึกโดยตรงอาจมีการคัดค้านจากสมาชิกในครอบครัว  หรือมีความยุ่งยากอื่น  ๆ  มากมาย  สำหรับผู้ที่มีปัญหาเช่นนี้  ได้แนะนำไว้ว่า  เขาควรสละผลแห่งกิจกรรมที่สะสมมาเพื่อทำคุณประโยชน์บางประการ  ขั้นตอนเหล่านี้ได้อธิบายไว้ในกฎเกณฑ์พระเวท  ซึ่งอธิบายไว้มากมายเกี่ยวกับการเสียสละ  และพิธีกรรมพิเศษเพื่อผลบุญ  (พุณยะฺ)  หรืองานพิเศษซึ่งผลกรรมในอดีตของเขาอาจใช้ได้  เพื่ออาจค่อย  ๆ  พัฒนามาถึงระดับแห่งความรู้  ยังพบอีกว่าเมื่อไม่สนใจแม้ในกิจกรรมของคริชณะจิตสำนึก  การให้ทานกับโรงพยาบาลหรือสถาบันเพื่อสังคมบางแห่ง  จะทำให้เขาสละผลงานที่ได้มาด้วยความเหนื่อยยาก  ซึ่งแนะนำไว้  ณ  ที่นี้  เพราะเมื่อฝึกปฏิบัติการเสียสละผลจากกิจกรรมของตนเอง  จิตใจจะค่อย  ๆ  บริสุทธิ์ขึ้นอย่างแน่นอน  ในระดับจิตที่บริสุทธิ์นั้น  เขาจะสามารถเข้าใจคริชณะจิตสำนึก  แน่นอนว่าคริชณะจิตสำนึกไม่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ใด  ๆ  ทั้งสิ้น  เพราะว่าในตัวของคริชณะจิตสำนึกเองสามารถทำให้จิตบริสุทธิ์  แต่หากมีอุปสรรคในการรับเอาคริชณะจิตสำนึกมาปฏิบัติเขาอาจพยายามเสียสละผลของงาน  ในกรณีนี้  การบริการรับใช้สังคม  รับใช้ชุมชน  รับใช้ประเทศชาติ  การเสียสละเพื่อประเทศของตนเอง  ฯลฯอาจยอมรับได้  เพื่อวันหนึ่งอาจมาถึงระดับแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้แด่องค์ภควานด้วยใจบริสุทธิ์  ใน  ภควัต-คีตาฺ  (18.46)  เราพบข้อความว่า  ยะทะฮ  พระวริททิร  บํูทานามฺหากตัดสินใจเสียสละเพื่อแหล่งกำเนิดสูงสุด  ถึงแม้ไม่รู้ว่าแหล่งกำเนิดสูงสุดคือคริชณะเขาจะค่อย  ๆ  เข้าใจว่า  คริชณะคือแหล่งกำเนิดสูงสุด  ด้วยวิธีการเสียสละ

โศลก 12

ชเรโย ฮิ กยานัม อับฺยาสาจ
กยานาด ดฺยานัม วิชิชยะเทฺ

ดฺยานาท คารมะ-พฺะละ-ทยากัส
ทยากาช ชฺานทิร อนันทะรัมฺ

ชเรยะฮฺ  -  ดีกว่า, ฮิฺ  -  แน่นอน, กยานัมฺ  -  ความรู้, อับฺยาสาทฺ  -  กว่าการปฏิบัติ, กยานาทฺ  -  กว่าความรู้, ดฺยานัมฺ  -  การทำสมาธิ, วิชิชยะเทฺ  -  พิจารณาว่าดีกว่า, ดฺยานาทฺ  -  กว่าการทำสมาธิ, คารมะ-พฺะละฺ  -  ทยากะฮฺ  -  สละผลของงาน, ทยากาทฺ  -  จากการเสียสละนี้, ชานทิฮฺ  -  ความสงบ, อนันทะรัมฺ  -  หลังจากนั้น

คำแปลฺ

หากไม่สามารถปฏิบัติเช่นนี้  เธอก็ไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้  อย่างไรก็ดี  ที่ดีกว่าความรู้คือการทำสมาธิ  และดีกว่าการทำสมาธิคือการสละผลของงาน  จากการเสียสละเช่นนี้เธอสามารถได้รับความสงบแห่งจิตใจ

คำอธิบายฺ

ดังที่ได้กล่าวไว้ในโศลกก่อนหน้านี้  มีการอุทิศตนเสียสละรับใช้สองวิธีคือ  วิธีปฏิบัติตามหลักธรรม  และวิธีการยึดมั่นในความรักต่อองค์ภควานโดยสมบูรณ์  สำหรับพวกที่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักธรรมในคริชณะจิตสำนึกโดยแท้จริง  การไปพัฒนาความรู้จะดีกว่า  เพราะว่าจากความรู้จะสามารถเข้าใจสถานภาพอันแท้จริง  แล้วจะค่อยๆ  พัฒนาถึงจุดแห่งการทำสมาธิ  และจากการทำสมาธิจะสามารถเข้าใจองค์ภค  วาน  โดยวิธีการที่ค่อยเป็นค่อยไป  มีวิธีการอื่น  ๆ  ที่ทำให้เข้าใจว่าตนเองคือองค์ภควาน  วิธีทำสมาธิเช่นนี้เป็นทางเลือกก็ต่อเมื่อไม่สามารถปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละรับใช้  หากไม่สามารถทำสมาธิเช่นนี้  ก็มีหน้าที่ที่กำหนดไว้  ดังที่ได้กำหนดไว้ในวรรณกรรมพระเวทสำหรับ  บราฮมะณะ  คชัทริยะ  ไวชยะ  และ  ชูดระฺ  ซึ่งจะพบในบทสุดท้ายของ  ภควัต-คีตาฺ  แต่ในทุก  ๆ  กรณี  เราควรสละผลงานของเรา  เช่นนี้หมายความว่า  ใช้ผลกรรมหรือผลจากการกระทำของเราเพื่อสิ่งที่ดี

โดยสรุป  ในการบรรลุถึงองค์ภควานซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดมีสองวิธี  วิธีหนึ่งค่อย  ๆ  พัฒนา  และอีกวิธีหนึ่งโดยตรง  การอุทิศตนเสียสละรับใช้ในคริชณะจิตสำนึกเป็นวิธีโดยตรง  และวิธีอื่น  ๆ  เกี่ยวกับการเสียสละผลแห่งกิจกรรมของตน  จะสามารถมาถึงระดับแห่งความรู้  จากนั้นก็มาถึงระดับแห่งการทำสมาธิ  จากนั้นมาถึงระดับแห่งการเข้าใจองค์อภิวิญญาณ  และจากนั้นก็มาถึงระดับแห่งองค์ภควาน  เราอาจปฏิบัติตามวิธีทีละขั้นตอนหรือปฏิบัติตามวิธีโดยตรง  วิธีโดยตรงไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้  ฉะนั้นวิธีทางอ้อมก็ดีเช่นกัน  อย่างไรก็ดี  ต้องเข้าใจว่าวิธีทางอ้อมไม่ได้แนะนำไว้สำหรับอารจุนะเพราะทรงอยู่ในระดับแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความรักต่อคริชณะเรียบร้อยแล้ว  วิธีทางอ้อมจึงมีไว้สำหรับบุคคลอื่น  ๆ  ที่ไม่ได้อยู่ในระดับนี้  สำหรับพวกนี้ควรปฏิบัติตามวิธีที่ค่อยเป็นค่อยไปในการเสียสละ  ความรู้  การทำสมาธิ  และการรู้แจ้งถึงองค์อภิวิญญาณ  และ  บระฮมันฺ  แต่สำหรับ  ภควัต-คีตาฺ  ได้เน้นวิธีโดยตรง  ทุก  ๆ  คนได้รับคำแนะนำให้รับเอาวิธีโดยตรงมาปฏิบัติและศิโรราบต่อองค์ภควานชรีคริชณะ

โศลก 13-14

อัดเวชทา สารวะ-บํูทานาม
ไมทระฮ คะรุณะ เอวะ ชะฺ

นิรมะโม นิระฮังคาระฮ
สะมะ-ดุฮคฺะ-สุคฺะฮ คชะมีฺ
สันทุชทะฮ สะทะทัม โยกี
ยะทาทมา ดริดฺะ-นิชชะยะฮฺ

มะยิ อารพิทะ-มะโน-บุดดิฺร
โย มัค-บัฺคธะฮ สะ เม พริยะฮฺ

อัดเวชทาฺ  -  ไม่อิจฉาริษยา, สารวะ-บํูทานามฺ  -  ต่อมวลชีวิต, ไมทระฮฺ  -  เป็นมิตร, คะรุณะฮฺ  -  กรุณา, เอวะฺ  -  แน่นอน, ชะฺ  -  เช่นกัน, นิรมะมะฮฺ  -  ไม่สำคัญตัวว่าเป็นเจ้าของ, นิระฮังคาระฮฺ  -  ปราศจากอหังการ, สะมะฺ  -  เสมอภาค, ดุฮคฺะฺ  -  ในความทุกข์, สุคฺะฮฺ  -  และความสุข, คชะมีฺ  -  ให้อภัย, สันทุชทะฮฺ  -  พึงพอใจ, สะทะทัมฺ  -  เสมอ, โยกีฺ  -  ผู้ปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละ, ยะทะ-อาทมาฺ  -  ควบคุมตนเอง, ดริดฺะ-นิชชะยะฮฺ  -  ด้วยความมุ่งมั่น, มะยิฺ  -  แด่ข้า, อารพิทะฺ  -  ปฏิบัติ, มะนะฮฺ  -  จิตใจ, บุดดิฺฮฺ  -  และปัญญา, ยะฮฺ  -  ผู้ซึ่ง, มัท-บัฺคธะฮฺ  -  สาวกของข้า, สะฮฺ  -  เขา, เมฺ  -  แก่ข้า, พริยะฮฺ  -  ที่รัก

คำแปลฺ

ผู้ที่ไม่อิจฉาริษยา  แต่เป็นเพื่อนผู้มีความกรุณาต่อมวลชีวิต  ผู้ไม่คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของ  และเป็นอิสระจากอหังการ  ผู้ที่มีความเสมอภาคทั้งในความสุขและความทุกข์  ผู้มีความอดทน  พึงพอใจเสมอ  ควบคุมตนเองได้  และปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความมุ่งมั่น  จิตใจและปัญญาตั้งมั่นอยู่ที่ข้า  สาวกเช่นนี้เป็นที่รักยิ่งของข้า

คำอธิบายฺ

เรามาถึงจุดแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่บริสุทธิ์อีกครั้งหนึ่ง  องค์ภควานทรงอธิบายคุณลักษณะทิพย์ของสาวกผู้บริสุทธิ์ด้วยสองโศลกนี้  สาวกผู้บริสุทธิ์ไม่เคยกังวลใจไม่ว่าในสถานการณ์ใด  ๆ  หรือว่าจะอิจฉาริษยาผู้ใด  สาวกไม่เป็นศัตรูต่อศัตรู  โดยคิดว่า  “คนนี้ทำตัวเป็นศัตรูข้าก็เนื่องมาจากกรรมเก่าของข้าเอง  ฉะนั้น  จึงยอมรับทุกข์ดีกว่าที่จะต่อต้าน”  ในชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ  (10.14.8)  ได้กล่าวไว้ว่า  ทัท  เท  ่  นุคัมพาม  สุ-สะมีคชะมาโณ  บํุนจานะ  เอวาทมะ-คริทัม  วิพาคัมฺ  เมื่อใดที่สาวกมีความทุกข์หรือตกอยู่ในความยากลำบาก  จะคิดว่าเป็นพระเมตตาธิคุณขององค์ภควานที่มีต่อท่าน  โดยคิดว่า  “ขอบคุณต่อกรรมเก่าของข้า  ข้าควรได้รับทุกข์มากกว่าที่ได้รับในปัจจุบันนี้  นี่เป็นเพราะพระเมตตาขององค์ภควานจึงไม่ได้รับการลงโทษทั้งหมดที่ควรจะได้รับด้วยพระเมตตาธิคุณของคริชณะ  ข้าจึงได้รับโทษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”  ดังนั้น  จึงมีความสุขุม  สงบ  และอดทนเสมอ  แม้จะอยู่ในสภาวะแห่งความทุกข์มากมาย  สาวกจะมีความกรุณาต่อทุก  ๆ  คนเสมอ  แม้แต่ศัตรู  นิรมะมะฺ  หมายถึงสาวกไม่ให้ความสำคัญกับความเจ็บปวดและปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับร่างกายมากนัก  เพราะทราบดีว่าตัวท่านไม่ใช่ร่างกายวัตถุ  จึงไม่สำคัญตนเองว่าเป็นร่างกาย  ดังนั้น  จึงเป็นอิสระจากแนวคิดแห่งอหังการ  และเป็นกลางต่อความสุขและความทุกข์  มีความอดทนและพึงพอใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มาสัมผัส  ด้วยพระกรุณาธิคุณขององค์ภควาน  ท่านไม่พยายามมากจนเกินไปเพื่อให้ได้รับบางสิ่งบางอย่างที่ยากลำบากมาก  ดังนั้น  จึงมีความร่าเริงเสมอท่านเป็นโยคีที่สมบูรณ์บริบูรณ์  เพราะยึดมั่นในคำสั่งสอนที่ได้รับจากพระอาจารย์ทิพย์และเนื่องจากสามารถควบคุมประสาทสัมผัสได้  จึงมีความมั่นใจ  ไม่เอนเอียงไปกับการถกเถียงที่ผิด  เพราะว่าไม่มีผู้ใดสามารถนำพาให้ออกไปจากการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่ท่านมีความมั่นใจอย่างแน่วแน่  ท่านมีจิตสำนึกอย่างสมบูรณ์ว่าคริชณะทรงเป็นองค์ภควานนิรันดร  ดังนั้น  จึงไม่มีผู้ใดสามารถรบกวนจิตใจได้  คุณลักษณะทั้งหลายเหล่านี้ทำให้มีจิตใจและปัญญาตั้งมั่นอยู่ที่พระองค์โดยสมบูรณ์  มาตรฐานแห่งการอุทิศตนเสียสละเช่นนี้หาได้ยากมากโดยไม่ต้องสงสัย  แต่สาวกสถิตในระดับนี้ด้วยการปฏิบัติตามหลักธรรมแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้  ยิ่งไปกว่านั้น  องค์ภควานตรัสว่า  สาวกเช่นนี้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์  เพราะชรีคริชณะทรงชื่นชมยินดีเสมอกับกิจกรรมทั้งหมดของสาวกในคริชณะจิตสำนึกที่สมบูรณ์

โศลก 15

ยัสมาน โนดวิจะเท โลโค
โลคาน โนดวิจะเท ชะ ยะฮฺ

ฮารชามารชะ-บฺะโยดเวไกร
มุคโท ยะฮ สะ ชะ เม พริยะฮฺ

ยัสมาทฺ  -  จากผู้ซึ่ง, นะฺ  -  ไม่เคย, อุดวิจะเทฺ  -  ร้อนใจ, โลคะฮฺ  -  ผู้คน, โลคาทฺ  -  จากผู้คน, นะฺ  -  ไม่เคย, อุดวิจะเทฺ  -  กระวนกระวายใจ, ชะฺ  -  เช่นกัน, ยะฮฺ  -  ผู้ใดซึ่ง, ฮารชะฺ  -  จากความสุข, อมารชะฺ  -  ความทุกข์, บฺะยะฺ  -  ความกลัว, อุดเวไกฮฺ  -  และความวิตกกังวล, มุคทะฮฺ  -  เป็นอิสระ, ยะฮฺ  -  ผู้ซึ่ง, สะฮฺ  -  ผู้ใด, ชะฺ  -  เช่นกัน, เมฺ  -  แด่ข้า, พริยะฮฺ  -  เป็นที่รักยิ่ง

คำแปลฺ

ผู้ที่ไม่มีผู้ใดสามารถทำให้เขาตกอยู่ในความลำบาก  และไม่มีผู้ใดสามารถรบกวนจิตใจเขาได้  มีความเป็นกลางทั้งในความสุขและความทุกข์  ทั้งความกลัวและความวิตกกังวล  เป็นที่รักยิ่งของข้า

คำอธิบายฺ

คุณลักษณะบางประการของสาวกได้อธิบายต่อไปอีกคือ  ไม่มีผู้ใดสามารถทำให้ท่านตกอยู่ในความยากลำบาก  วิตกกังวล  กลัว  หรือไม่พึงพอใจ  เนื่องจากสาวกมีความกรุณาต่อทุกคน  จึงไม่ทำสิ่งใดที่จะทำให้ผู้อื่นมีความวิตกกังวล  ในขณะเดียวกันหากผู้อื่นพยายามทำให้สาวกวิตกกังวล  ท่านจะไม่เร่าร้อนใจด้วยพระกรุณาธิคุณขององค์ภควาน  ทำให้ท่านปฏิบัติจนไม่ได้รับความวุ่นวายใจจากสิ่งรบกวนภายนอก  อันที่จริง  เนื่องจากสาวกเพลินอยู่ในคริชณะจิตสำนึกเสมอ  และปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้  สถานการณ์ทางวัตถุเช่นนี้ไม่ทำให้ท่านหวั่นไหว  โดยทั่วไปนักวัตถุนิยมจะมีความสุขมากเมื่อได้รับบางสิ่งบางอย่างที่มาสนองประสาทสัมผัส  สนองร่างกาย  และเมื่อเห็นว่าคนอื่นได้รับบางสิ่งบางอย่างเพื่อสนองประสาทสัมผัส  แต่ตนเองไม่ได้รับ  จะเสียใจและอิจฉาริษยา  เมื่อคาดว่าศัตรูจะมาแก้แค้นก็จะอยู่ในความกลัว  และเมื่อไม่สามารถทำบางอย่างให้ประสบผลสำเร็จก็จะเศร้าสลด  สาวกผู้เป็นทิพย์อยู่เหนือสิ่งรบกวนทั้งหลายเหล่านี้เสมอเป็นที่รักยิ่งของคริชณะ

โศลก 16

อนะเพคชะฮ ชุชิร ดัคชะ
อุดาสีโน กะทะ-วิยะทฺะฮฺ

สารวารัมบฺะ-พะริทยากี
โย มัด-บัฺคธะฮ สะ เม พริยะฮฺ

อนะเพคชะฮฺ  -  เป็นกลาง, ชุชิฮฺ  -  บริสุทธิ์, ดัดชะฮฺ  -  ชำนาญ, อุดาสีนะฮฺ  -  ไม่วิตกกังวล, กะทะ-วิยะทฺะฮฺ  -  ปราศจากความทุกข์ทั้งปวง, สารวะ-อารัมบฺะฺ  -  ความพยายามทั้งหมด, พะริทยากีฺ  -  ผู้เสียสละ, ยะฮฺ  -  ผู้ใดซึ่ง, มัท-บัฺคธะฮฺ  -  สาวกของข้า, สะฮฺ  -  เขา, เมฺ  -  แด่ข้า, พริยะฮฺ  -  ที่รักยิ่ง

คำแปลฺ

สาวกของข้าผู้ไม่ขึ้นอยู่กับแนวคิดแห่งกิจกรรมทั่วไป  มีความบริสุทธิ์  มีความชำนาญ  ไม่วิตกกังวล  ปราศจากความเจ็บปวดทั้งปวง  และไม่ดิ้นรนเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง  เป็นที่รักยิ่งของข้า

คำอธิบายฺ

เงินทองอาจถวายให้สาวกแต่ไม่ควรดิ้นรนเพื่อได้มันมา  หากด้วยพระกรุณาขององค์ภควานเงินทองไหลมาตามครรลองก็ไม่รู้สึกหวั่นไหว  โดยธรรมชาติสาวกอาบน้ำอย่างน้อยวันละสองครั้ง  และตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่ออุทิศตนเสียสละรับใช้  ฉะนั้น  จึงมีความสะอาดทั้งภายในและภายนอกโดยปริยาย  สาวกมีความชำนาญเสมอ  เพราะทราบถึงสาระสำคัญของกิจกรรมแห่งชีวิตทั้งหมดเป็นอย่างดี  และมั่นใจในพระคัมภีร์ที่เชื่อถือได้  สาวกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  ดังนั้น  จึงไม่กังวล  และไม่เคยได้รับความเจ็บปวดเนื่องจากท่านเป็นอิสระจากชื่อระบุทั้งปวง  ทราบดีว่าร่างกายเป็นชื่อระบุ  ดังนั้น  หากมีความเจ็บปวดทางร่างกาย  ตัวท่านเป็นอิสระ  สาวกผู้บริสุทธิ์จะไม่พยายามทำสิ่งใด  ๆ  ที่ละเมิดหลักธรรมแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้  ตัวอย่างเช่น  การก่อสร้างอาคารใหญ่ๆจำเป็นต้องใช้พลังงานมาก  สาวกจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเช่นนี้หากไม่เป็นประโยชน์ที่จะเจริญก้าวหน้าในการอุทิศตนเสียสละรับใช้  งานสร้างวัดให้องค์ภควานอาจมีความยุ่งยากนานัปการ  สาวกยินดีและเต็มใจทำ  แต่จะไม่ไปสร้างบ้านใหญโตเพื่อตนเอง

โศลก 17

โย นะ ฮริชยะทิ นะ ดเวชทิ
นะ โชชะทิ นะ คางคชะทิฺ

ชุบฺาชุบฺะ-พะริทยากี
บัฺคธิมาน ยะฮ สะ เม พริยะฮฺ

ยะฮฺ  -  ผู้ซึ่ง, นะฺ  -  ไม่เคย, ฮริชยะทิฺ  -  ได้รับความสุข, นะฺ  -  ไม่เคย, ดเวชทิฺ  -  ความทุกข์, นะฺ  -  ไม่เคย, โชชะทิฺ  -  เสียใจ, นะฺ  -  ไม่เคย, คางคชะทิฺ  -  ปรารถนา, ชุบฺะฺ  -  ของความเป็นมงคล, อชุบฺะฺ  -  และความอัปมงคล, พะริทยากีฺ  -  ผู้เสียสละ, บัฺคธิฺ  -  มานฺ  -  สาวก, ยะฮฺ  -  ผู้ซึ่ง, สะฮฺ  -  ท่านเป็น, เมฺ  -  แด่ข้า, พริยะฮฺ  -  ที่รัก

คำแปลฺ

ผู้ที่ไม่ดีใจหรือทุกข์ใจ  ผู้ที่ไม่เสียใจหรือปรารถนา  และผู้ที่สละทั้งสิ่งที่เป็นมงคลหรือไม่เป็นมงคล  สาวกเช่นนี้เป็นที่รักยิ่งของข้า

คำอธิบายฺ

สาวกผู้บริสุทธิ์ไม่เป็นสุขหรือเป็นทุกข์กับการได้มาหรือสูญเสียไปกับวัตถุท่านไม่วิตกกังวลกับการที่จะได้บุตรหรือสานุศิษย์  ท่านไม่กลุ้มใจเมื่อไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้  หากสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่ท่านรักมาก  ก็ไม่เสียใจ  ในทำนองเดียวกันหากท่านไม่ได้รับสิ่งที่ปรารถนา  ก็ไม่กลุ้มใจ  ท่านเป็นทิพย์อยู่เหนือสิ่งที่ต้องเผชิญหน้าทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่เป็นมงคลหรือกิจกรรมบาปที่ไม่เป็นมงคล  ท่านเตรียมพร้อมที่จะยอมรับความเสี่ยงทั้งหลายเพื่อความพึงพอพระทัยขององค์ภควาน  ไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติอุทิศตนเสียสละรับใช้ของท่าน  สาวกเช่นนี้เป็นที่รักยิ่งของคริชณะ

โศลก 18-19

สะมะฮ ชะโทร ชะ มิเทร ชะ
ทะทฺา มานาพะมานะโยฮฺ

ชีโทชณะ-สุคฺะ-ดุฮเคฺชุ
สะมะฮ สังกะ-วิวารจิทะฮฺ
ทุลยะ-นินดา-สทุทิร โมนี
สันทุชโท เยนะ เคนะชิทฺ

อนิเคทะฮ สทิฺระ-มะทิร
บัฺคธิมาน เม พริโย นะระฮฺ

สะมะฮฺ  -  เสมอภาค, ชะโทรฺ  -  ต่อศัตรู, ชะฺ  -  เช่นกัน, มิเทรฺ  -  ต่อมิตร, ชะฺ  -  เช่นกัน, ทะทฺาฺ  -  ดังนั้น, มานะฺ  -  ในการได้รับเกียรติ, อพะมานะโยฮฺ  -  และการเสียเกียรติ, ชีทะฺ  -  ในความเย็น, อุชณะฺ  -  ความร้อน, สุคฺะฺ  -  ความสุข, ดุฮเคฺชฺุ  -  และความทุกข์, สะมะฮฺ  -  เป็นกลาง, สัง กะ-วิวารจิทะฮฺ  -  ปราศจากการคบหาสมาคมทั้งปวง, ทุลยะฺ  -  เสมอภาค, นินดาฺ  -  ในการสบประมาท, สทุทิฮฺ  -  และชื่อเสียง, โมนีฺ  -  นิ่งเงียบ, สันทุชทะฮฺ  -  พึงพอใจ, เยนะ เคนะชิทฺ  -  กับทุกสิ่งทุกอย่าง, อนิเคทะฮฺ  -  ไม่มีบ้านพัก, สทิฺระฺ  -  ตั้งมั่น, มะทิฮฺ  -  มั่นใจ, บัฺคธิ-มานฺ  -  ปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละ, เมฺ  -  แด่ข้า, พริยะฮฺ  -  ที่รัก, นะระฮฺ  -  บุคคล

คำแปลฺ

ผู้ที่เสมอภาคทั้งกับเพื่อนและศัตรู  ผู้ที่เป็นกลางเมื่อได้รับเกียรติและเสียเกียรติทั้งในความร้อนและความเย็น  ความสุขและความทุกข์  ได้รับชื่อเสียงและหมิ่นประมาท  ผู้ที่มีอิสระจากการคบหาสมาคมที่เป็นมลทิน  นิ่งสงบเสมอ  และพึงพอใจต่อทุกสิ่ง  ผู้ที่ไม่ห่วงใยกับที่พักอาศัย  ตั้งมั่นอยู่ในความรู้  และเป็นผู้ที่ปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละรับใช้  บุคคลเช่นนี้เป็นที่รักยิ่งของข้า

คำอธิบายฺ

สาวกเป็นอิสระจากการคบเพื่อนไม่ดีทั้งหลาย  บางครั้งท่านได้รับการสรรเสริญและบางครั้งถูกดูหมิ่น  นั่นคือธรรมชาติของสังคมมนุษย์  แต่สาวกเป็นทิพย์เหนือเกียรติยศชื่อเสียงและการดูหมิ่นเหยียดหยาม  รวมทั้งความทุกข์และความสุขที่เสแสร้งเหล่านี้  ท่านมีความอดทนสูง  ไม่พูดสิ่งใดนอกจากเรื่องราวที่เกี่ยวกับคริชณะดังนั้น  จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสงบนิ่ง  สงบนิ่งไม่ได้หมายความว่าไม่พูด  แต่สงบนิ่งหมายความว่าไม่ควรพูดสิ่งที่ไร้สาระ  ควรพูดเฉพาะเนื้อหาสาระสำคัญเท่านั้น  และการพูดเนื้อหาสาระสำคัญที่สุดของสาวกคือ  พูดเพื่อประโยชน์ขององค์ภควาน  สาวกมีความสุขในทุกสภาวะ  บางครั้งอาจได้รับอาหารอันโอชะมากมาย  บางครั้งไม่ได้รับ  แต่ก็พึงพอใจและไม่เป็นห่วงกับสิ่งเอื้ออำนวยที่อยู่อาศัย  บางครั้งท่านอาจนอนใต้ต้นไม้  และบางครั้งท่านอาจนอนในราชวังอันมโหฬาร  ทั้งสองสิ่งนี้ไม่ทำให้หลงใหลท่านมีความมั่นคง  เพราะว่าแน่วแน่ในความมุ่งมั่นและความรู้  เราอาจพบว่าได้กล่าวถึงคุณลักษณะของสาวกหลายครั้ง  แต่เพื่อเน้นความจริงที่ว่า  สาวกต้องมีคุณลักษณะทั้งหลายเหล่านี้  ปราศจากคุณลักษณะที่ดีเราไม่สามารถเป็นสาวกผู้บริสุทธิ์ได้  ฮะราพ  อบัฺคธัสยะ  คุโท  มะฮัด-กุณาฮฺ  ผู้ไม่ใช่สาวกจะไม่มีคุณสมบัติที่ดี  ผู้ปรารถนาให้คนจำได้ว่าเป็นสาวกควรพัฒนาคุณสมบัติที่ดี  แน่นอนว่าเราไม่ต้องพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้มีคุณสมบัติเหล่านี้  หากปฏิบัติคริชณะจิตสำนึกและอุทิศตนเสียสละรับใช้  คุณสมบัติที่ดีเหล่านี้จะพัฒนาขึ้นมาโดยปริยาย

โศลก 20

เย ทุ ดฺารมามริทัม อิดัม
ยะโทฺคทัม พารยุพาสะเทฺ

ชรัดดะดฺานา มัท-พะระมา
บัฺคธาส เท ่ทีวะ เม พริยาฮฺ

เยฺ  -  ผู้ซึ่ง, ทฺุ  -  แต่, ดฺารมะฺ  -  ของศาสนา, อมริทัมฺ  -  น้ำทิพย์, อิดัมฺ  -  นี้, ยะทฺาฺ  -  ประหนึ่ง, อุคทัมฺ  -  กล่าว, พารยุพาสะเทฺ  -  ปฏิบัติโดยสมบูรณ์, ชรัดดะดฺานาฮฺ  -  ด้วยศรัทธา, มัท- พะระมาฮฺ  -  ยอมรับองค์ภควานว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง, บัฺคธาฮฺ  -  เหล่าสาวก, เทฺ  -  พวกเขา, อทีวะฺ  -  มาก ๆ, เม-แด่ข้า, พริยะฮฺ  -  ที่รัก

คำแปลฺ

พวกที่ปฏิบัติตามวิธีที่ไม่มีวันสูญสลายแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้นี้  ปฏิบัติด้วยความศรัทธาอย่างสมบูรณ์  มีข้าเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด  เป็นที่รักยิ่งของข้า

คำอธิบายฺ

ในบทนี้  จากโศลกสองถึงโศลกสุดท้าย  เริ่มจาก  มะยิ  อาเวชยะ  มะโน  เย  มามฺ(“ตั้งจิตมั่นอยู่ที่ข้า”)  มาถึง  เย  ทุ  ดฺารมามริทัม  อิดัมฺ  (“ศาสนาแห่งการปฏิบัตินิรันดรนี้”)  องค์ภควานทรงอธิบายกรรมวิธีแห่งการรับใช้ทิพย์เพื่อบรรลุถึงพระองค์  กรรมวิธีเหล่านี้เป็นที่รักยิ่งของพระองค์  และพระองค์ทรงยอมรับบุคคลผู้ปฏิบัติตามกรรมวิธีเหล่านี้  คำถามคือ  ใครดีกว่ากัน  ผู้ปฏิบัติในวิธีของ  บระฮมันฺ  อันไร้รูปลักษณ์  หรือผู้ปฏิบัติในการรับใช้ส่วนพระองค์ต่อองค์ภควาน  คำถามนี้อารจุนะทรงได้ยกขึ้นมา  และองค์ภควานทรงตอบอย่างชัดเจนว่า  โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อบุคลิกภาพแห่งพระเจ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในบรรดาวิธีแห่งความรู้แจ้งทิพย์ทั้งหลายทั้งปวง  อีกนัยหนึ่ง  บทนี้อธิบายว่าจากการคบหากัลยาณมิตร  เราจะพัฒนาความยึดมั่นในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความบริสุทธิ์  และต่อมายอมรับพระอาจารย์ทิพย์ผู้ที่เชื่อถือได้  จากนั้นเริ่มสดับฟังและสวดภาวนา  และถือปฏิบัติตามหลักธรรมแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความศรัทธา  ยึดมั่นและอุทิศตนเสียสละ  ดังนั้น  จึงมาปฏิบัติการรับใช้ทิพย์ต่อองค์ภควาน  วิธีนี้ได้แนะนำไว้ในบทนี้  โดยไม่ต้องสงสัยว่าการอุทิศตนเสียสละรับใช้เป็นวิธีเดียวที่สมบูรณ์ที่สุด  เพื่อความรู้แจ้งแห่งตน  เพื่อบรรลุถึงองค์ภควาน  ได้อธิบายไว้ในบทนี้ว่า  แนวคิดที่ไร้รูปลักษณ์แห่งสัจธรรมสูงสุด  จะนำมาถึงเพียงแค่จุดที่เราศิโรราบเพื่อความรู้แจ้งแห่งตน  อีกนัยหนึ่ง  ตราบใดที่ยังไม่มีโอกาสมาพบกับสาวกผู้บริสุทธิ์  แนวคิดที่ไร้รูปลักษณ์อาจเป็นประโยชน์  เพราะแนะนำให้เราทำงานโดยไม่หวังผลทางวัตถุ  ฝึกสมาธิ  และพัฒนาความรู้เพื่อให้เข้าใจดวงวิญญาณและวัตถุ  ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นตราบเท่าที่เรายังไม่พบสาวกผู้บริสุทธิ์  หากโชคดีพอจนพัฒนาความต้องการมาปฏิบัติคริชณะจิตสำนึกโดยตรง  ด้วยการอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างบริสุทธิ์  ก็ไม่จำเป็นต้องไปพัฒนาการรู้แจ้งทิพย์ทีละขั้นตอน  ดังที่ได้อธิบายไว้ในหกบทกลางของ  ภควัต-คีตาฺ  ว่าการอุทิศตนเสียสละรับใช้เป็นที่น่าพึงพอใจกว่า  เราไม่จำเป็นต้องไปยุ่งเรื่องทางวัตถุเพื่อรักษาร่างกายและดวงวิญญาณให้อยู่ด้วยกัน  เพราะด้วยพระกรุณาธิคุณของคริชณะ  ทุกสิ่งทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดีโดยปริยาย

ดังนั้น ได้จบคำอธิบายโดยบัฺคธิเวดันธะ บทที่สิบสอง ของหนังสือฺ ชรีมัด บฺะกะวัด-กีทา ในหัวข้อเรื่อง
การอุทิศตนเสียสละรับใชฺ้