บทที่ สิบเอ็ด
รูปลักษณ์จักรวาล
อารจุนะ อุวาชะฺ
มัด-อนุกระฮายะ พะระมัม
กุฮยัม อัดฺยาทมะ-สัมกยิทัมฺ
ยัท ทวะโยคทัม วะชัส เทนะ
โมโฮ ่ยัม วิกะโท มะมะฺ
อารจุนะฮฺ อุวาชะ-อารจุนะตรัส, มัทฺ - อนุกระฮายะฺ - เพื่อแสดงความอนุเคราะห์ต่อข้า, พะระมัมฺ - สูงสุด, กุฮยัมฺ - เรื่องลับ, อัดฺยาทมะฺ - ทิพย์, สัมกยิทัมฺ - ในเรื่องของ, ยัทฺ - อะไร, ทวะยาฺ - โดยพระองค์, อุคทัมฺ - ตรัส, วะชะฮฺ - คำพูด, เทนะฺ - ด้วยนั้น, โมฮะฮฺ - ความหลง, อยัมฺ - นี้, วิกะทะฮฺ - ขจัดออกไป, มะมะฺ - ของข้า
คำแปลฺ
อารจุนะตรัสว่า จากการสดับฟังคำสั่งสอนที่พระองค์ทรงกรุณาประทานแก่ข้าเกี่ยวกับเรื่องราวทิพย์ที่ลับที่สุดเหล่านี้ บัดนี้ความหลงของข้าพเจ้าได้ถูกขจัดออกไปแล้ว
คำอธิบายฺ
บทนี้เปิดเผยว่าคริชณะทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของ มะฮา-วิชณฺุ ผู้ให้กำเนิดจักรวาลวัตถุทั้งหมด คริชณะทรงไม่ใช่อวตารแต่ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของมวลอวตาร ซึ่งได้อธิบายไว้อย่างสมบูรณ์ในบทที่แล้ว
บัดนี้ อารจุนะกล่าวว่า ความหลงของท่านได้มลายหายไปสิ้นแล้ว เช่นนี้หมายความว่า อารจุนะทรงมิได้คิดว่าคริชณะเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาหรือเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น แต่ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่าง อารจุนะได้รับแสงสว่างและดีใจที่มีสหายที่ยิ่งใหญ่เช่นคริชณะ แต่บัดนี้ ถึงแม้จะยอมรับคริชณะว่าเป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งผู้อื่นอาจไม่ยอมรับ ดังนั้น เพื่อสถาปนาความเป็นทิพย์ของคริชณะสำหรับทุก ๆ คน อารจุนะจึงขอร้องให้คริชณะทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาลในบทนี้ อันที่จริงเมื่อผู้ใดเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะ ผู้นั้นจะตกใจเช่นเดียวกับอารจุนะ แต่คริชณะทรงมีพระเมตตามาก เพราะหลังจากที่แสดงรูปลักษณ์จักรวาลแล้วทรงเปลี่ยนพระวรกายของพระองค์ให้มาอยู่ในรูปลักษณ์เดิมอีกครั้งหนึ่ง อารจุนะทรงยอมรับสิ่งที่คริชณะตรัสมาแล้วหลายครั้ง คริชณะตรัสเพื่อผลประโยชน์ของอาร-จุนะ ดังนั้น อารจุนะทรงทราบดีว่าสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับตัวท่านนี้ก็ด้วยพระกรุณาธิคุณของคริชณะ บัดนี้ อารจุนะมั่นใจว่าคริชณะทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง และทรงประทับอยู่ภายในหัวใจของทุกชีวิตในรูปองค์อภิวิญญาณ
บฺะวาพยะโย ฮิ บํูทานาม
ชรุโท วิสทะระโช มะยาฺ
ทวัททะฮ คะมะละ-พะทราคชะ
มาฮาทมยัม อพิ ชาพยะยัมฺ
บฺะวะฺ - การปรากฏ, อัพยะโยฺ - การไม่ปรากฏ, ฮิฺ - แน่นอน, บํูทานามฺ - ของมวลชีวิต, ชรุโทฺ - ได้ยินแล้ว, วิสทะระชะฮฺ - โดยละเอียด, มะยาฺ - โดยข้า, ทวัททะฮฺ - จากพระองค์, คะมะละ-พะทระ-อัคชะฺ - โอ้ ผู้มีพระเนตรคล้ายดอกบัว, มาฮาทมยัมฺ - บารมี, อพิฺ - เช่นกัน, ชะฺ - และ, อัพพะยัมฺ - ไม่มีสิ้นสุด
คำแปลฺ
โอ้ ผู้มีพระเนตรเหมือนดอกบัว ข้าพเจ้าสดับฟังจากพระองค์โดยละเอียดเกี่ยวกับการปรากฏและการไม่ปรากฏของทุก ๆ ชีวิต และได้รู้แจ้งถึงพระบารมีอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์
คำอธิบายฺ
อารจุนะทรงเรียกองค์ชรีคริชณะว่า “พระเนตรรูปดอกบัว” (ดวงตาของคริชณะเหมือนกับกลีบดอกบัว) ด้วยความยินดีที่คริชณะทรงให้ความมั่นใจแก่ท่านในบทที่แล้ว โดยตรัสว่า อฮัม คริทสนัสยะ จะกะทะฮ พระบฺะวะฮ พระละยัส ทะทฺาฺ “ข้าคือแหล่งกำเนิดของสิ่งที่ปรากฏและสิ่งที่ไม่ปรากฏในปรากฏการณ์ทางวัตถุทั้งหมด”อารจุนะทรงได้ยินเช่นนี้จากองค์ภควานโดยละเอียด อารจุนะยังทราบอีกว่าถึงแม้คริชณะทรงเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งปรากฏและสิ่งไม่ปรากฏทั้งหลาย พระองค์ยังทรงอยู่ห่างจากสิ่งเหล่านี้ ดังที่ได้ตรัสไว้ในบทที่เก้าว่า พระองค์ทรงแผ่กระจายไปทั่ว ถึงกระนั้น พระองค์ทรงมิได้ปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่งด้วยพระองค์เอง นั่นคือความมั่งคั่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ของคริชณะ ซึ่งอารจุนะทรงยอมรับว่าตัวท่านเข้าใจเป็นอย่างดี
เอวัม เอทัด ยะทฺาททะ ทวัม
อาทมานัม พะระเมชวะระฺ
ดรัชทุม อิชชฺามิ เท รูพัม
ไอชวะรัม พุรุโชททะมะฺ
เอวัมฺ - ดังนั้น, เอทัทฺ - นี้, ยะทฺาฺ - ตามความเป็นจริง, อาททฺะฺ - ได้ตรัสแล้ว, ทวัมฺ - พระองค์,อาทมานัมฺ - ตัวพระองค์เอง, พะระมะ-อีชวะระฺ - โอ้ พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด, ดรัชทุมฺ - เห็น, อิชชฺามิฺ - ข้าพเจ้าปรารถนา, เทฺ - ของพระองค์, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, ไอชวะรัมฺ - ทิพย์, พุรุชะ- อุททะมะฺ - โอ้ บุคลิกภาพผู้ยอดเยี่ยมที่สุด
คำแปลฺ
โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาบุคลิกภาพทั้งหลาย โอ้ รูปลักษณ์สูงสุด ถึงแม้ข้าพเจ้าเห็นอยู่ต่อหน้า ณ ที่นี้ ในสถานภาพอันแท้จริงของพระองค์ ดังที่ทรงอธิบายเกี่ยวกับตัวพระองค์เอง ข้าพเจ้าปรารถนาจะเห็นว่าพระองค์ทรงสด็จเข้าไปในปรากฏการณ์ทางจักรวาลได้อย่างไร ข้าพเจ้าปรารถนาจะเห็นรูปลักษณ์นั้น
คำอธิบายฺ
องค์ภควานตรัสว่าเนื่องจากเสด็จเข้าไปในจักรวาลวัตถุโดยผู้แทนส่วนพระองค์ ปรากฏการณ์ในจักรวาลจึงบังเกิดขึ้นและดำเนินต่อไป อารจุนะทรงได้รับแรงดลใจจากคำดำรัสของคริชณะ แต่เพื่อให้ผู้อื่นมีความมั่นใจว่า ในอนาคตอาจมีผู้คิดว่าคริชณะทรงเป็นบุคคลธรรมดาสามัญ อารจุนะจึงปรารถนาที่จะเห็นพระองค์ในรูปลักษณ์จักรวาลโดยแท้จริง เพื่อให้เห็นว่าพระองค์ทรงปฏิบัติตนอย่างไรภายในจักรวาลถึงแม้ทรงอยู่ห่าง อารจุนะเรียกองค์ภควานว่า พุรุโชททะมะฺ มีความสำคัญเช่นกันเนื่องจากทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า และทรงปรากฏอยู่ภายในร่างกายของอารจุนะเอง ถึงแม้ว่าพระองค์ทรงทราบถึงความปรารถนาของอารจุนะ และเข้าใจว่าอารจุนะไม่มีความปรารถนาเป็นพิเศษที่จะเห็นพระองค์ในรูปลักษณ์จักรวาลเพราะอารจุนะมีความพึงพอใจโดยสมบูรณ์ที่ได้เห็นรูปลักษณ์ส่วนพระองค์ในรูปลักษณ์คริชณะ แต่พระองค์ทรงเข้าใจเช่นกันว่า อารจุนะปรารถนาจะเห็นรูปลักษณ์จักรวาลเพื่อให้ผู้อื่นมีความมั่นใจอารจุนะทรงไม่มีความปรารถนาส่วนตัวที่จะต้องยืนยัน คริชณะทรงเข้าใจเช่นเดียวกันว่า อารจุนะปรารถนาจะเห็นรูปลักษณ์จักรวาลเพื่อวางเป็นบรรทัดฐาน เพราะในอนาคตจะมีคนหลอกลวงมากมายที่อ้างตนเองว่า เป็นอวตารขององค์ภควาน ฉะนั้น ผู้คนควรระมัดระวังคนที่จะมาอ้างตนเองว่าเป็นคริชณะ และเขาควรเตรียมพร้อมที่จะแสดงรูปลักษณ์จักรวาลของตนเพื่อยืนยันกับสิ่งที่ได้อวดอ้างไว้
มันยะเส ยะดิ ทัช ชัฺคยัม
มะยา ดรัชทุม อิทิ พระโบฺฺ
โยเกชวะระ ทะโท เม ทวัม
ดารชะยาทมานัม อัพยะยัมฺ
มันยะเสฺ - พระองค์ทรงคิด, ยะดิฺ - อาจ, ทัทฺ - นั้น, ชัคยัมฺ - สามารถ, มะยาฺ - โดยข้า, ดรัช ทุมฺ - ได้เห็น, อิทิฺ - ดังนั้น, พระโบฺฺ - โอ้ องค์ภควาน, โยกะฺ - อีชวะระฺ - โอ้ เจ้าแห่งพลังอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย, ทะทะฮฺ - จากนั้น, เมฺ - แด่ข้า, ทวัมฺ - พระองค์, ดารชะยะฺ - แสดง, อาทมานัมฺ - ตัวพระองค์เอง, อัพพะยัมฺ - อมตะ
คำแปลฺ
หากทรงคิดว่าข้าพเจ้าสามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของพระองค์ โอ้ องค์ภควาน โอ้ เจ้าแห่งพลังอิทธิฤทธิ์ทั้งปวง โปรดกรุณาแสดงรูปลักษณ์จักรวาลอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์แด่ข้าพเจ้าด้วย
คำอธิบายฺ
ได้กล่าวไว้ว่าเราไม่สามารถเห็น ได้ยิน เข้าใจ หรือสำเหนียกองค์ภควานคริช ณะด้วยประสาทสัมผัสวัตถุ แต่หากเราปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ด้วยความรักทิพย์ต่อพระองค์ตั้งแต่ต้น เราจะสามารถเห็นองค์ภควานจากการเปิดเผยของพระองค์ ทุก ๆ ชีวิตเป็นเพียงละอองอณูทิพย์ ฉะนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นหรือเข้าใจองค์ภควาน อารจุนะในฐานะที่ทรงเป็นสาวก จึงมิได้ขึ้นอยู่กับพลังแห่งการคาดคะเนของตนเอง แต่ยอมรับขีดจำกัดในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิต และเข้าใจถึงสถานภาพของคริชณะที่ไม่สามารถประเมินได้ อารจุนะทรงเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่สิ่งมีชีวิตจะเข้าใจผู้ที่ไร้ขอบเขตอันหาที่สิ้นสุดไม่ได้ หากผู้ไร้ขอบเขตทรงเปิดเผยตัวพระองค์ จึงเป็นไปได้ที่เราจะเข้าใจธรรมชาติแห่งความไร้ขอบเขตด้วยพระกรุณาธิคุณของพระองค์คำว่า โยเกชวะระฺ มีความสำคัญมากในที่นี้ เพราะองค์ภควานทรงมีพลังอำนาจที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หากปรารถนา ทรงสามารถเปิดเผยตนเองด้วยพระกรุณาธิคุณของพระองค์ แม้ไร้ขีดจำกัด ฉะนั้น อารจุนะทรงอ้อนวอนพระกรุณาธิคุณของคริชณะที่ไม่สามารถมองเห็นได้ มิใช่เป็นการสั่งคริชณะ คริชณะทรงไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตนเองเว้นเสียแต่เราจะศิโรราบในคริชณะจิตสำนึก และปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ผู้ที่ขึ้นอยู่กับพลังแห่งการคาดคะเนทางจิตใจของตนเอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นคริชณะ
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ
พัชยะ เม พารทฺะ รูพาณิ
ชะทะโช ่ทฺะ สะฮัสระชะฮฺ
นานา-วิดฺานิ ดิพยานิ
นานา-วารณาคริทีนิ ชะฺ
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ - องค์ภควานตรัส, พัสยะฺ - จงดู, เมฺ - ของข้า, พารทฺะฺ - โอ้ โอรสพระนางพริทฺา, รูพาณิฺ - รูปลักษณ์ต่าง ๆ, ชะทะชะฮฺ - เป็นร้อย ๆ, อทฺะฺ - เช่นกัน, สะฮัส ระชะฮฺ - เป็นพัน ๆ, นานา-วิดฺานิฺ - หลากหลาย, ดิพยานิฺ - ทิพย์, นานาฺ - หลากหลาย, วารณะฺ - หลากสี, อาคริทีนิฺ - รูปลักษณ์ต่าง ๆ, ชะฺ - เช่นกัน
คำแปลฺ
องค์ภควานตรัสว่า อารจุนะที่รัก โอ้ โอรสพระนางพริทฺา บัดนี้จงดูความมั่งคั่งของข้า รูปลักษณ์ทิพย์ที่มีสีสันหลากหลายเป็นจำนวนร้อย ๆ พัน ๆ รูป
คำอธิบายฺ
อารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็นคริชณะในรูปลักษณ์จักรวาล ถึงแม้ว่าเป็นรูปลักษณ์ทิพย์ แต่ทรงปรากฏเพื่อปรากฏการณ์ในจักรวาล ดังนั้น จึงอยู่ภายใต้การกำหนดของกาลเวลาที่ไม่ถาวรแห่งธรรมชาติวัตถุนี้ เช่นเดียวกับธรรมชาติวัตถุที่ปรากฏและไม่ปรากฏ รูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะนี้ก็ทรงปรากฏและไม่ปรากฏ รูปลักษณ์นี้มิได้สถิตในท้องฟ้าทิพย์ชั่วนิรันดรเหมือนกับรูปลักษณ์อื่น ๆ ของคริชณะ สาวกไม่กระตือรือร้นที่จะเห็นรูปลักษณ์จักรวาล แต่เนื่องจากอารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็นคริชณะในรูปนี้ คริชณะจึงทรงเปิดเผยให้เห็น รูปลักษณ์จักรวาลนี้ซึ่งปุถุชนคนธรรมดาไม่สามารถเห็นได้ คริชณะทรงต้องให้พลังในการเห็นแก่ผู้นั้นจึงจะสามารถเห็นได้
พัชยาดิทยาน วะสูน รุดราน
อัชวิโน มะรุทัส ทะทฺาฺ
บะฮูนิ อดริชทะ-พูรวาณิ
พัชยาชารยาณิ บฺาระทะฺ
พัชยะฺ - เห็น, อาดิทยานฺ - บุตรสิบสองคนของอดิทิ, วะสูนฺ - วะสุทั้งแปด, รุดรานฺ - รูปลักษณ์สิบเอ็ดรูปของรุดระ, อัชวิโนฺ - อัชวินีทั้งสอง, มะรุทะฮฺ - มะรุททั้งสี่สิบเก้า (เทพเจ้าแห่งลม), ทะทฺาฺ - เช่นกัน, บะฮูนิฺ - มากมาย, อดริชทะฺ - ที่เธอยังไม่เห็น, พูรวาณิฺ - ก่อนหน้านี้, พัชยะฺ - เห็น, อาชชารยาณิฺ - ความอัศจรรย์ทั้งหลาย, บฺาระทะฺ - โอ้ ผู้ยอดเยี่ยมแห่งบฺาระทะ
คำแปลฺ
โอ้ ผู้ยอดเยี่ยมแห่งบฺาระทะ ณ ที่นี้จงดูปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของอาดิทยะ วะสุรุดระ อัชวินี-คุมาระ และเทวดาองค์อื่น ๆ ทั้งหมด จงดูสิ่งมหัศจรรย์มากมายซึ่งไม่มีผู้ใดเคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน
คำอธิบายฺ
แม้ว่าอารจุนะทรงเป็นเพื่อนสนิทของคริชณะ และยังเป็นผู้มีความรู้ที่สูงสุดถึงกระนั้น ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่อารจุนะจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับคริชณะ ณ ที่นี้ ได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์ไม่เคยได้ยินหรือรู้รูปลักษณ์และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้มาก่อนคริชณะทรงเปิดเผยรูปลักษณ์อันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ ณ บัดนี้
อิไฮคะ-สทัฺม จะกัท คริทสนัม
พัชยาดยะ สะ-ชะราชะรัมฺ
มะมะ เดเฮ กุดาเคชะ
ยัช ชานยัด ดรัชทุม อิชชฺะสิฺ
อิฮะฺ - ในนี้, เอคะ-สทัฺมฺ - ในที่หนึ่ง, จะกัทฺ - จักรวาล, คริทสนัมฺ - สมบูรณ์, พัชยะฺ - เห็น, อัดยะฺ - ทันที, สะฺ - กับ, ชะระฺ - เคลื่อนที่, อชะรัมฺ - ไม่เคลื่อนที่, มะมะฺ - ของข้า, เดเฮฺ - ในร่างกายนี้, กุดา เคชะฺ - โอ้ อารจุนะ, ยัทฺ - ซึ่ง, ชะ-เช่นกัน, อันยัทฺ - ผู้อื่น, ดรัชทุมฺ - เห็น, อิชชฺะสิฺ - เธอปรารถนา
คำแปลฺ
โอ้ อารจุนะ สิ่งใดที่เธอปรารถนาจะเห็น จงดูในร่างนี้ของข้าได้ทันที รูปลักษณ์จักรวาลนี้สามารถแสดงทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอปรารถนาจะเห็น ณ บัดนี้ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอปรารถนาจะเห็นในอนาคต ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งเคลื่อนที่และไม่เคลื่อนที่ ได้มาอยู่ ณ ที่นี้ อยู่ในสถานที่เดียวกันโดยสมบูรณ์
คำอธิบายฺ
ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นจักรวาลทั้งหมดขณะที่นั่งอยู่ที่เดียว แม้นักวิทยาศาสตร์ผู้ก้าวหน้าที่สุดก็ไม่สามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในส่วนอื่นของจักรวาล แต่สาวกเช่นอารจุนะทรงสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของจักรวาล คริชณะทรงให้พลังอำนาจในการเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อารจุนะทรงปรารถนาจะเห็นทั้งในอดีตปัจจุบัน และอนาคต ดังนั้น ด้วยพระเมตตาธิคุณของคริชณะ อารจุนะจึงทรงสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
นะ ทุ มาม ชัคยะเส ดรัชทุม
อเนไนวะ สวะ-ชัคชุชาฺ
ดิพยัม ดะดามิ เท ชัคชุฮ
พัชยะ เม โยกัม ไอชวะรัมฺ
นะฺ - ไม่เคย, ทฺุ - แต่, มามฺ - ข้า, ชัคยะเสฺ - สามารถ, ดรัชทุมฺ - เห็น, อเนนะฺ - ด้วยสิ่งเหล่านี้, เอวะฺ - แน่นอน, สวะ-ชัคชุชาฺ - จักษุของเธอ, ดิพยัมฺ - ทิพย์, ดะดามิฺ - ข้าให้, เทฺ - แก่เธอ, ชัคชุฮฺ - จักษุ, พัชยะฺ - เห็น, เมฺ - ของข้า, โยกัม ไอชวะรัมฺ - พลังอิทธิฤทธิ์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้
คำแปลฺ
แต่เธอไม่สามารถเห็นข้าด้วยดวงตาปัจจุบันของเธอ ดังนั้น ข้าจะให้จักษุทิพย์แก่เธอ จงดูอิทธิฤทธิ์ความมั่งคั่งของข้า!
คำอธิบายฺ
สาวกผู้บริสุทธิ์ไม่ชอบเห็นคริชณะในรูปลักษณ์อื่นใดนอกจากรูปลักษณ์สองกรของพระองค์ สาวกจะเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควานด้วยพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ไม่ใช่ด้วยจิตใจแต่ด้วยจักษุทิพย์ ในการเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะอารจุนะทรงถูกสั่งไม่ให้เปลี่ยนจิตใจ แต่ให้เปลี่ยนจักษุ รูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะไม่สำคัญเท่าใดนัก ประเด็นนี้จะทำให้กระจ่างขึ้นในโศลกต่อ ๆ ไป แต่เนื่องจากอารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็น คริชณะทรงให้จักษุแก่อารจุนะโดยเฉพาะเท่าที่จำเป็นเพื่อที่จะได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาล
เหล่าสาวกผู้สถิตอย่างถูกต้องในความสัมพันธ์ทิพย์กับคริชณะ ยึดมั่นอยู่กับรูปลักษณ์อันน่ารักของพระองค์ ไม่ใช่ยึดติดอยู่กับการแสดงความมั่งคั่งโดยปราศจากองค์ภควาน เพื่อน ๆ และผู้ปกครองของคริชณะไม่เคยปรารถนาที่จะให้คริชณะแสดงความมั่งคั่ง แต่หมกมุ่นอยู่ในความรักอันบริสุทธิ์จนกระทั่งไม่รู้ว่าคริชณะคือบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า ในการแลกเปลี่ยนความรัก ทุกคนลืมไปว่าคริชณะคือองค์ภควานใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ ได้กล่าวไว้ว่า เด็ก ๆ ทั้งหมดที่เล่นกับคริชณะเป็นดวงวิญญาณที่มีบุญบารมีสูงมาก หลังจากหลายต่อหลายชาติ จึงสามารถมาเล่นกับคริชณะได้เด็ก ๆ เหล่านี้ไม่รู้ว่าคริชณะคือบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า จึงได้แต่ปฏิบัติต่อคริชณะเสมือนเป็นเพื่อนสนิท ชุคะเดวะ โกสวามี กล่าวโศลกต่อไปนี้
อิทัฺม สะทาม บระฮมะ-สุคฺานุบํูทยา
ดาสยัม กะทานาม พะระ-ไดวะเทนะฺ
มายาชริทานาม นะระ-ดาระเคณะ
สาคัม วิจะฮรุฮ คริทะ-พุณยะ-พุนจาฮฺ
“นี่คือบุคคลสูงสุดที่นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่พิจารณาว่าเป็น บระฮมันฺ อันไร้รูปลักษณ์สาวกพิจารณาว่าเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า และมนุษย์ปุถุชนธรรมดาพิจารณาว่าเป็นผลผลิตของธรรมชาติวัตถุ บัดนี้เด็ก ๆ ผู้ทำบุญมาหลายต่อหลายชาติเหล่านี้ได้มาเล่นอยู่กับองค์ภควาน” (ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ 10.12.11)
ความจริงคือ สาวกไม่สนใจกับการเห็น วิชวะ-รูพะฺ หรือรูปลักษณ์จักรวาลแต่อารจุนะทรงปรารถนาจะเห็นเพื่อยืนยันคำดำรัสของคริชณะ เพื่อในอนาคตผู้คนสามารถเข้าใจว่า คริชณะทรงไม่ใช่แสดงตนเองว่าเป็นองค์ภควานในทางทฤษฎีหรือทางปรัชญาเท่านั้น แต่พระองค์ทรงแสดงให้อารจุนะเห็นจริง อารจุนะทรงต้องยืนยันเช่นนี้เพราะเป็นผู้เริ่มต้นระบบ พะรัมพะราฺ พวกที่สนใจจะเข้าใจองค์ภควานคริชณะจริงโดยปฏิบัติตามรอยพระบาทของอารจุนะ ควรเข้าใจว่าคริชณะทรงไม่ใช่เพียงแต่อวดอ้างว่าเป็นภควานในทางทฤษฏีเท่านั้น แต่ทรงเปิดเผยในฐานะที่เป็นองค์ภควานโดยแท้จริง
ชรีคริชณะทรงให้พลังอำนาจที่จำเป็นแด่อารจุนะในการเห็นรูปลักษณ์จักรวาลเพราะทราบดีว่าอารจุนะทรงมิได้ปรารถนาเจาะจงที่จะเห็น ดังที่ได้อธิบายไว้แล้ว
สันจะยะ อุวาชะฺ
เอวัม อุคเทวา ทะโท ราจัน
มะฮา-โยเกชวะโร ฮะริฮฺ
ดารชะยาม อาสะ พารทฺายะ
พะระมัม รูพัม ไอชวะรัมฺ
สันจะยะฮ อุวาชะฺ - สันจะยะกล่าว, เอวัมฺ - ดังนั้น, อุคทวาฺ - กล่าว, ทะทะฮฺ - หลังจากนั้น, ราจันฺ - โอ้กษัตริย์, มะฮา-โยกะ-อีชวะระฮฺ - ผู้มีพลังอิทธิฤทธิ์สูงสุด, ฮะริฮฺ - องค์ภควานคริชณะ, ดารชะยาม อาสะฺ - แสดง, พารทฺายะฺ - แด่อารจุนะ, พะระมัมฺ - ทิพย์, รูพัม ไอชวะรัมฺ - รูปลักษณ์จักรวาล
คำแปลฺ
สันจะยะกล่าวว่า โอ้ กษัตริย์ หลังจากดำรัสเช่นนั้นแล้ว พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดแห่งพลังอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย องค์ภควานทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาลแด่อารจุนะ
อเนคะ-วัคทระ-นะยะนัม
อเนคาดบํุทะ-ดารชะนัมฺ
อเนคะ-ดิพยาบฺะระณัม
ดิพยาเนโคดยะทายุดัฺมฺ
ดิพยะ-มาลยามบะระ-ดฺะรัม
ดิพยะ-กันดฺานุเลพะนัมฺ
สารวาชชารยะ-มะยัม เดวัม
อนันทัม วิชวะโท-มุคัฺมฺ
อเนคะฺ - มากมาย, วัคทระฺ - พระโอษฐ์, นะยะนัมฺ - พระเนตร, อเนคะฺ - มากมาย, อัดบํุทะฺ - น่าอัศจรรย์, ดารชะนัมฺ - ทัศนียภาพ, อเนคะฺ - มากมาย, ดิพยะฺ - ทิพย์, อาบฺะระณัมฺ - เครื่องประดับต่าง ๆ, ดิพยะฺ - ทิพย์, อเนคะฺ - มากมาย, อุดยะทะฺ - ยกขึ้น, อายุดัฺมฺ - อาวุธต่าง ๆ, ดิพยะฺ - ทิพย์, มาลยะฺ - พวงมาลัยต่าง ๆ, อัมบะระฺ - อาภรณ์ต่าง ๆ, ดฺะรัมฺ - สวม, ดิพยะฺ - ทิพย์, กันดฺะฺ - กลิ่นหอม, อนุเลพะนัมฺ - ทาด้วย, สารวะฺ - ทั้งหมด, อาชชารยะ- มะยัมฺ - น่าอัศจรรย์, เดวัมฺ - ส่องแสง, อนันทัมฺ - ไม่สิ้นสุด, วิชวะทะฮ-มุคัฺมฺ - แผ่กระจายไปทั่ว
คำแปลฺ
อารจุนะทรงเห็นภายในรูปลักษณ์จักรวาลนั้นว่ามีพระโอษฐ์ไม่มีที่สิ้นสุดพระเนตรไม่มีที่สิ้นสุด ภาพอัศจรรย์ไม่มีที่สิ้นสุด รูปลักษณ์ที่ประดับไปด้วยเครื่องประดับสวรรค์มากมาย และทรงถืออาวุธทิพย์มากมาย ทรงคล้องพวกมาลัยและอาภรณ์สวรรค์มากมาย มีน้ำหอมมากมายที่ชโลมไปทั่วพระวรกายของพระองค์ทั้งหมดน่าอัศจรรย์ สว่างไสว ไม่มีที่สิ้นสุด และแผ่กระจายไปทั่ว
คำอธิบายฺ
สองโศลกนี้ได้ใช้คำว่ามากมายหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่าไม่มีขีดจำกัดในจำนวนของพระหัตถ์ พระโอษฐ์ พระเพลา และปรากฏการณ์อื่น ๆ ที่อารจุนะทรงได้เห็นปรากฏการณ์เหล่านี้แจกจ่ายไปทั่วทั้งจักรวาล แต่ด้วยพระกรุณาธิคุณขององค์ภควานทำให้อารจุนะทรงสามารถเห็นสิ่งเหล่านี้ขณะที่นั่งอยู่ ณ ที่เดียว ที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เนื่องมาจากพลังอำนาจที่ไม่สามารถมองเห็นได้ของคริชณะ
ดิวิ สูรยะ-สะอัสรัสยะ
บฺะเวด ยุกะพัด อุททิฺทาฺ
ยะดิ บฺาฮ สะดริชี สา สยาด
บฺาสัส ทัสยะ มะฮาทมะณะฮฺ
ดิวิฺ - ในท้องฟ้า, สูรยะฺ - หมู่ดวงอาทิตย์, สะฮัสรัสยะฺ - หลาย ๆ พัน, บฺะเวทฺ - มี, ยุกะพัทฺ - พร้อม ๆ กัน, อุททิฺทาฺ - ปรากฏ, ยะดิฺ - ถ้า, บฺาฮฺ - แสง, สะดริชีฺ - เหมือนเช่นนั้น, สาฺ - นั้น, สยาทฺ - อาจเป็น, บฺาสะฮฺ - รัศมี, ทัสยะฺ - ของพระองค์, มะฮา-อาทมะณะฮฺ - องค์ภควานผู้ยิ่งใหญ่
คำแปลฺ
หากดวงอาทิตย์เป็นร้อย ๆ พัน ๆ ดวงขึ้นบนท้องฟ้าในบัดดล แสงของดวงอาทิตย์เหล่านี้อาจคล้ายกับรัศมีขององค์ภควานในรูปลักษณ์จักรวาลนั้น
คำอธิบายฺ
สิ่งที่อารจุนะทรงได้เห็น อธิบายไม่ได้ ถึงกระนั้น สันจะยะ พยายามให้เห็นจินตนาการแห่งการเปิดเผยอันยิ่งใหญ่นั้นแด่ ดฺริทะราชทระ ทั้ง สันจะยะและดฺริทะราชทระ ไม่ได้อยู่ ณที่นั้น แต่ด้วยพระกรุณาธิคุณของ วิยาสะ, สันจะยะ จึงสามารถเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บัดนี้ สันจะยะ เปรียบเทียบสถานการณ์กับปรากฏการณ์ทางจินตนาการ (ตัวอย่างเช่น ดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นพัน ๆ ดวง) เท่าที่พอจะเข้าใจได้
ทะไทรคะ-สทัฺม จะกัท คริทสนัม
พระวิบัฺคทัม อเนคะดฺาฺ
อพัชยัด เดวะ-เดวัสยะ
ชะรีเร พาณดะวัส ทะดาฺ
ทะทระฺ - ที่นั่น, เอคะ-สทัฺมฺ - ในที่เดียว, จะกัทฺ - จักรวาล, คริทสนัมฺ - สมบูรณ์, พระ วิบัฺคทัมฺ - แบ่งออก, อเนคะดฺาฺ - เป็นหลาย ๆ, อพัชยัทฺ - สามารถเห็น, เดวะ-เดวัสยะฺ - องค์ภควาน, ชะรีเรฺ - ในรูปลักษณ์จักรวาล, พาณดะวะฮฺ - อารจุนะ, ทะดาฺ - ในขณะนั้น
คำแปลฺ
ในขณะนั้นอารจุนะทรงสามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควาน ภาคที่แบ่งแยกอันไม่สิ้นสุดของจักรวาลสถิต ณ ที่เดียว ถึงแม้ว่าแบ่งแยกออกไปเป็นหลาย ๆ พัน
คำอธิบายฺ
คำว่า ทะทระฺ (“ที่นั่น”) มีความสำคัญมาก แสดงให้เห็นว่าทั้งอารจุนะและคริชณะทรงประทับอยู่บนราชรถ ขณะที่อารจุนะทรงได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาล บุคคลอื่น ๆ ในสมรภูมิไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์นี้ เพราะว่าคริชณะทรงให้จักษุแด่อารจุนะเท่านั้น อารจุนะทรงสามารถเห็นดาวเคราะห์เป็นจำนวนพัน ๆ ดวง ภายในพระวรกายของคริช ณะ ดังที่เราได้เรียนรู้จากคัมภีร์พระเวทว่ามีจักรวาลและมีดาวเคราะห์มากมาย บางดวงทำมาจากดิน บางดวงทำมาจากทองคำ บางดวงทำมาจากอัญมณีบางดวงยิ่งใหญ่มาก บางดวงไม่ยิ่งใหญ่เท่าใดนัก ฯลฯ ขณะที่นั่งอยู่บนราชรถอารจุนะทรงเห็นทั้งหมดนี้แต่ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นระหว่างอารจุนะและคริชณะ
ทะทะฮ สะ วิสมะยาวิชโท
อริชทะ-โรมา ดฺะนันจะยะฮฺ
พระณัมยะ ชิระสา เดวัม
คริทานจะลิร อบฺาชะทะฺ
ทะทะฮฺ - หลังจากนั้น, สะฮฺ - เขา, วิสมะยะฺ - อาวิชทะฮฺ - ปลาบปลื้มด้วยความอัศจรรย์ใจ, ฮริชทะ-โรมาฺ - ขนบนผิวหนังลุกชันเนื่องจากความปลื้มปีติสุขอย่างใหญ่หลวง, ดฺะนัน- จะยะฺ - อารจุนะ, พระณัมยะฺ - ถวายความเคารพ, ชิระสาฺ - ด้วยศรีษะ, เดวัมฺ - แด่องค์ภควาน, คริทะ-อันจะลิฮฺ - ด้วยสองมือพนม, อบฺาชะทะฺ - เริ่มตรัส
คำแปลฺ
จากนั้น ด้วยความสับสนและอัศจรรย์ใจ อารจุนะขนลุกตั้งชันทรงก้มศีรษะแสดงความเคารพด้วยสองมือพนม อารจุนะทรงเริ่มถวายบทมนต์แด่องค์ภควาน
คำอธิบายฺ
เมื่อจักษุทิพย์เปิดเผยขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างคริชณะและอารจุนะได้เปลี่ยนไปทันที ก่อนหน้านี้คริชณะและอารจุนะทรงมีความสัมพันธ์กันในฐานะเพื่อน แต่ ณบัดนี้ หลังจากได้เปิดเผยรูปลักษณ์จักรวาลแล้ว อารจุนะทรงแสดงความเคารพด้วยความเคารพบูชาอย่างยิ่ง และด้วยสองมือพนม อารจุนะทรงถวายบทมนต์แด่คริชณะสรรเสริญรูปลักษณ์จักรวาล ดังนั้น ความสัมพันธ์ของอารจุนะกลายมาเป็นความน่าอัศจรรย์มากกว่าความเป็นเพื่อน เหล่าสาวกผู้ยิ่งใหญ่เห็นคริชณะในฐานะที่เป็นแหล่งกำเนิดของความสัมพันธ์ทั้งหลายทั้งปวง ในพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์พื้นฐานสิบสองประเภท และทั้งหมดนี้มีอยู่ในคริชณะ ได้กล่าวไว้ว่า พระองค์ทรงเป็นมหาสมุทรแห่งความสัมพันธ์ทั้งหลายที่แลกเปลี่ยนกันระหว่างสองชีวิต ระหว่างเทวดาหรือระหว่างองค์ภควานและสาวกของพระองค์
ณ ที่นี้ อารจุนะทรงได้รับแรงดลใจด้วยความสัมพันธ์แห่งความอัศจรรย์ และภายในความอัศจรรย์นั้น ถึงแม้โดยธรรมชาติอารจุนะทรงเป็นผู้ที่มีความสุขุม สงบและเงียบมาก แต่อารจุนะได้กลายมาเป็นผู้ที่มีความปลื้มปีติสุข ขนลุกตั้งชัน และทรงเริ่มถวายความเคารพแด่องค์ภควานด้วยมือทั้งสองพนม แน่นอนว่าอารจุนะทรงมิได้กลัว แต่ได้รับผลกระทบจากความอัศจรรย์ของพระองค์ สภาพแวดล้อมในขณะนั้นคือความอัศจรรย์ ธรรมชาติความสัมพันธ์แห่งความรักฉันเพื่อนท่วมท้นไปด้วยความอัศจรรย์ ดังนั้น อารจุนะจึงทรงแสดงออกมาเช่นนี้
อารจุนะ อุวาชะฺ
พัชยามิ เดวามส ทะวะ เดวะ เดเฮ
สารวามส ทะทฺา บํูทะ-วิเชชะ-สังกฺานฺ
บระฮมาณัม อีชัม คะมะลาสะนะ-สทัฺม
ริชีมช ชะ สารวาน อุระกามช ชะ ดิพยานฺ
อารจุนะฮ อุวาชะฺ - อารจุนะตรัส, พัชยามิฺ - ข้าพเจ้าเห็น, เดวานฺ - เทวดาทั้งหลาย, ทะวะฺ - ของพระองค์, เดวะฺ - องค์ภควาน, เดเฮฺ - ในร่าง, สารวานฺ - ทั้งหมด, ทะทฺาฺ - เช่นกัน, บํูทะฺ - สิ่งมีชีวิต, วิเชชะ-สังกฺานฺ - มารวมกันโดยเฉพาะ, บระฮมาณัมฺ - พระพรหม, อีชัมฺ - พระศิวะ, คะมะละ-อาสะนะ-สทัฺมฺ - ประทับอยู่บนดอกบัว, ริชีนฺ - เหล่านักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่, ชะฺ - เช่นกัน,สารวานฺ - ทั้งหมด, อุระกานฺ - พวกนาค, ชะฺ - เช่นกัน, ดิพยานฺ - ทิพย์
คำแปลฺ
อารจุนะตรัสว่า ชรี คริชณะที่รัก ข้าพเจ้าเห็นมวลเทวดาและมวลสิ่งมีชีวิตมารวมกันอยู่ในพระวรกายของพระองค์ ข้าพเจ้าเห็นพระพรหมทรงประทับอยู่บนดอกบัว พร้อมทั้งพระศิวะ เหล่านักปราชญ์ และนาคทิพย์ทั้งหลาย
คำอธิบายฺ
อารจุนะทรงเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล ดังนั้น จึงทรงเห็นพระพรหมผู้ทรงเป็นชีวิตแรกในจักรวาล และพญานาคทิพย์ที่ การโบฺดะคะชายี วิชณฺุ ทรงบรรทมอยู่ในช่วงล่างของจักรวาล แท่นบรรทมนาคราชนี้เรียกว่า วาสุคิฺ ยังมีนาคอื่น ๆ ที่ชื่อว่า วาสุคิฺ อารจุนะทรงสามารถเห็น เริ่มต้นจาก การโบฺดะคะชายี วิชณฺุ ไปจนถึงส่วนสูงสุดของจักรวาลบนโลกรูปดอกบัว ที่พระพรหมผู้ทรงเป็นชีวิตแรกในจักรวาลประทับอยู่เช่นนี้หมายความว่าจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดจบ อารจุนะผู้ทรงประทับอยู่บนราชรถเพียงแห่งเดียวสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเช่นนี้ได้ก็เนื่องมาจากพระกรุณาธิคุณขององค์ภควาน คริชณะ
อเนคะ-บาฮูดะระ-วัคทระ-เนทรัม
พัชยามิ ทวาม สารวะโท ่นันทะ-รูพัมฺ
นานทัม นะ มัดอยัม นะ พุนัส ทะวาดิม
พัชยามิ วิชเวชวะระ วิชวะ-รูพะฺ
อเนคะฺ - มากมาย, บาฮฺุ - พระกร, อุดะระฺ - พระนาภี, วัคทระฺ - พระโอษฐ์, เนทรัมฺ - พระเนตร, พัชยามิฺ - ข้าพเจ้าเห็น, ทวามฺ - พระองค์, สารวะทะฮฺ - จากทุก ๆ ด้าน, อนัน ทะ-รูพัมฺ - รูปลักษณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด, นะ อันทัมฺ - ไม่มีจุดจบ, นะ มัดฮยัมฺ - ไม่มีตรงกลาง, นะ พุนะฮฺ - ไม่มีอีกครั้งหนึ่ง, ทะวะฺ - ของพระองค์, อาดิมฺ - จุดเริ่มต้น, พัชยามิฺ - ข้าพเจ้าเห็น, วิชวะฺ - อีชวะระฺ - โอ้ พระผู้เป็นเจ้าแห่งจักรวาล, วิชวะ-รูพะฺ - ในรูปของจักรวาล
คำแปลฺ
โอ้ พระผู้เป็นเจ้าแห่งจักรวาล โอ้ รูปลักษณ์จักรวาล ข้าพเจ้าทรงเห็นพระกรพระนาภี พระโอษฐ์ และพระเนตรมากมายในพระวรกายของพระองค์ แผ่ขยายไปทุกหนทุกแห่ง ไม่มีที่สิ้นสุด ข้าพเจ้าทรงไม่เห็นจุดจบ จุดตรงกลาง และจุดเริ่มต้นในพระองค์
คำอธิบายฺ
คริชณะคือบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าผู้ทรงไร้ขอบเขตไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นเราจึงสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยผ่านทางพระองค์
คิรีทินัม กะดินัม ชัคริณัม ชะ
เทโจ-ราชิม สารวะโท ดีพทิมันทัมฺ
พัชยามิ ทวาม ดุรนิรีคชยัม สะมันทาด
ดีพทานะลารคะ-ดยุทิม อพระเมยัมฺ
คิรีทินัมฺ - ด้วยมงกุฎ, กะดินัมฺ - ด้วยคทา, ชัคริณัมฺ - ด้วยกงจักร, ชะฺ - และ, เทจะฮ-ราชิมฺ - รัศมี, สารวะทะฮฺ - ในทุก ๆ ด้าน, ดีพทิ-มันทัมฺ - ส่องแสง, พัชยามิฺ - ข้าพเจ้าเห็น, ทวามฺ - พระองค์, ดุรนิรีคชยัมฺ - ยากที่จะเห็น, สะมันทาทฺ - ทุกหนทุกแห่ง, ดีพทะ-อนะละฺ - ไฟที่โชติช่วง, อารคะฺ - ของดวงอาทิตย์, ดยุทิมฺ - แสงอาทิตย์, อัพระเมยัมฺ - วัดไม่ได้
คำแปลฺ
รูปลักษณ์ของพระองค์นั้นเห็นได้ยากเนื่องจากรัศมีอันโชติช่วงที่แผ่ขยายไปทุก ๆด้านเหมือนกับไฟอันโชติช่วงหรือแสงรัศมีของดวงอาทิตย์ที่วัดไม่ได้ ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังเห็นรูปลักษณ์อันโชติช่วงนี้ทุกหนทุกแห่ง ทรงประดับไปด้วยมงกุฎคทา และกงจักร
ทวัม อัคชะรัม พะระมัม เวดิทัพยัม
ทวัม อัสยะ วิชวัสยะ พะรัม นิดฺานัมฺ
ทวัม อัพยะยะฮ ชาชวะทะ-ดฺารมะ-โกพทา
สะนาทะนัส ทวัม พุรุโช มะโท เมฺ
ทวัมฺ - พระองค์, อัคชะรัมฺ - ผู้ไม่มีความผิดพลาด, พะระมัมฺ - สูงสุด, เวดิทัพยัมฺ - เข้าใจ, ทวัมฺ - พระองค์, อัสยะฺ - ของสิ่งนี้, วิชวัสยะฺ - จักรวาล, พะรัมฺ - สูงสุด, นิดฺานัมฺ - พื้นฐาน, ทวัมฺ - พระองค์, อัพยะยะฮฺ - ผู้ไม่รู้จักหมด, ชาชวะทะ-ดฺารมะ-โกพทาฺ - ผู้บำรุงรักษาศาสนานิรันดร, สะนาทะนะฮฺ - นิรันดร, ทวัมฺ - พระองค์, พุรุชะฮฺ - องค์ภควาน, มะทะฮ เมฺ - นี่คือความเห็นของข้าพเจ้า
คำแปลฺ
พระองค์ทรงเป็นจุดมุ่งหมายแรกที่สูงสุด ทรงเป็นที่พำนักพักพิงสุดท้ายของจักรวาลทั้งหมดนี้ ทรงไม่รู้จักหมดสิ้น และทรงเป็นผู้อาวุโสที่สุด พระองค์ทรงเป็นผู้ทะนุบำรุงศาสนานิรันดร องค์ภควาน นี่คือความเห็นของข้าพเจ้า
อนาดิ-มัดฮยานทัม อนันทะ-วีรยัม
อนันทะ-บาฮุม ชะชิ-สูรยะ-เนทรัมฺ
พัชยามิ ทวาม ดีพทะ-ฮุทาชะ-วัคทรัม
สวะ-เทจะสา วิชวัม อิดัม ทะพันทัมฺ
อนาดิฺ - ปราศจากจุดเริ่มต้น, มัดฮยะฺ - ตรงกลาง, อันทัมฺ - หรือจุดจบ, อนันทะฺ - ไม่มีที่สิ้นสุด,วีรยัมฺ - พระบารมี, อนันทะฺ - ไม่มีที่สิ้นสุด, บาฮุมฺ - พระกร, ชะชิฺ - ดวงจันทร์, สูรยะฺ - ดวงอาทิตย์, เนทรัมฺ - พระเนตร, พัชยามิฺ - ข้าพเจ้าเห็น, ทวามฺ - พระองค์, ดีพทะฺ - โชติช่วง, ฮุทาชะ-วัคทรัมฺ - ไฟออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์, สวะ-เทจะสาฺ - ด้วยรัศมีของพระองค์, วิชวัมฺ - จักรวาล, อิดัมฺ - นี้, ทะพันทัมฺ - ความร้อน
คำแปลฺ
พระองค์ทรงปราศจากจุดเริ่มต้น จุดตรงกลาง และจุดจบ พระบารมีของพระองค์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด พระองค์ทรงมีพระกรจำนวนนับไม่ถ้วน ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์คือพระเนตรของพระองค์ ข้าพเจ้าทรงเห็นพระองค์พร้อมกับไฟอันโชติช่วงออกมาจากพระโอษฐ์ เผาไหม้จักรวาลทั้งหมดนี้ด้วยรัศมีของพระองค์
คำอธิบายฺ
ความมั่งคั่งหกประการของบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าทรงไม่มีขีดจำกัด ได้มีการกล่าวซ้ำ ณ ที่นี้ และอีกหลายแห่ง พระคัมภีร์กล่าวว่า การกล่าวซ้ำถึงพระบารมีของคริชณะมิใช่เป็นความอ่อนแอของวรรณกรรม ในขณะที่งงงวย อัศจรรย์ใจ หรือมีความปลื้มปีติสุขอย่างใหญ่หลวงจะกล่าวประโยคซ้ำไปซ้ำมา เช่นนี้ไม่ใช่ข้อบกพร่อง
ดยาพ อา-พริทิฺพโยร อิดัม อันทะรัม ฮิ
วิยานทัม ทวะไยเคนะ ดิชัช ชะ สารวาฮฺ
ดริชทวาดบํุทัม รูพัม อุกรัม ทะเวดัม
โลคะ-ทระยัม พรัพยะทิฺ มะฮาทมันฺ
ดโยฺ - จากนอกอวกาศ, อา-พริทิฺพโยฮฺ - มาถึงโลก, อิดัมฺ - นี้, อันทะรัมฺ - ระหว่าง, ฮิฺ - แน่นอน, วิยาพทัมฺ - แผ่กระจาย, ทวะยาฺ - โดยพระองค์, เอเคนะฺ - ผู้เดียว, ดิชะฮฺ - ทิศทางต่าง ๆ, ชะฺ - และ, สารวาฮฺ - ทั้งหมด, ดริชทวาฺ - ด้วยการเห็น, อัคบํุทัมฺ - น่าอัศจรรย์, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, อุกรัมฺ - น่าสะพรึงกลัว, ทะวะฺ - ของพระองค์, อิดัมฺ - นี้, โลคะฺ - ระบบดาวเคราะห์ต่าง ๆ, ทระยัมฺ - สาม, พรัพยะทิฺทัมฺ - ยุ่งเหยิง, มะฮา-อาทมันฺ - โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่
คำแปลฺ
ถึงแม้ทรงเป็นหนึ่ง พระองค์ยังทรงแผ่กระจายไปทั่วนภากาศ ดาวเคราะห์ต่างๆและช่องว่างระหว่างสิ่งทั้งหลาย โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์อันน่าอัศจรรย์และน่าสะพรึงกลัวนี้ ระบบดาวเคราะห์ทั้งหลายยุ่งเหยิงไปหมด
คำอธิบายฺ
คำว่า ดยาพ อา-พริทิฺพโยฮฺ (“อวกาศหรือช่องว่างระหว่างสวรรค์และโลก”)และ โลคะ-ทระยัมฺ (“สามโลก”) มีความสำคัญในโศลกนี้ เพราะปรากฏว่าไม่เพียงแต่อารจุนะเท่านั้นที่ทรงเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควาน แต่บุคคลอื่น ๆ ในระบบดาวเคราะห์อื่นก็ได้เห็นด้วยเช่นกัน การเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของอารจุนะทรงไม่ใช่เป็นความฝัน ทุกคนที่พระองค์ทรงประทานจักษุทิพย์ให้จะได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาลที่สมรภูมินี้
อมี ฮิ ทวาม สุระ-สังกฮา วิชันทิ
เคชิด บีฺทาฮ พรานจะละโย กริณันทิฺ
สวัสทีทิ อุคทวา มะฮารชิ-สิดดฺะ-สังกฺาฮ
สทุวันทิ ทวาม สุททิบิฺฮ พุชคะลาบิฺฮฺ
อมีฺ - ทั้งหมดเหล่านั้น, ฮิฺ - แน่นอน,ทวามฺ - พระองค์, สุระ-สังกฮาฮฺ - เทวดากลุ่มต่าง ๆ, วิชันทิฺ - เข้าไป, เคชิทฺ - บางท่าน, บีฺทาฮฺ - เนื่องจากความกลัว, พรานจะละยะฮฺ - ด้วยมือที่พนม, กริณันทิฺ - ถวายบทมนต์, สวัสทิฺ - ความสงบทั้งหมด, อิทิฺ - ดังนั้น, อุคทวาฺ - พูด, มะฮา-ริชิฺ - นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่, สิดดฺะฺ - สังกฮาฮฺ - สิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์, สทุวันทิฺ - ร้องเพลงบทมนต์, ทวามฺ - แด่พระองค์, สทุทิบิฺฮฺ - ด้วยบทมนต์, พุชคะลาบิฺฮฺ - บทมนต์พระเวท
คำแปลฺ
กองทัพเทวดาทั้งหลายศิโรราบต่อหน้าพระองค์และเสด็จเข้าไปในพระองค์ บางองค์กลัวมากทรงถวายบทมนต์ด้วยมือพนม กลุ่มนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่และมนุษย์ผู้สมบูรณ์ร้องว่า “สันติภาพทั้งปวง!” ภาวนาแด่พระองค์ด้วยการร้องเพลงจากบทมนต์พระเวท
คำอธิบายฺ
เหล่าเทวดาในระบบดาวเคราะห์ทั้งหลายทรงกลัวปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวแห่งรูปลักษณ์จักรวาลและรัศมีอันเจิดจรัสนี้ ดังนั้น จึงทรงภาวนาเพื่อให้ช่วยคุ้มครอง
รุดราดิทยา วะสะโว เย ชะ สาดฺยา
วิชเว ่ชวิโน มะรุทัช โชชมะพาช ชะฺ
กันดฺารวะ-ยัคชาสุระ-สิดดฺะ-สังกฺา
วีคชันเท ทวาม วิสมิทาช ไชวะ สารเวฺ
รุดระฺ - ปรากฏการณ์ของพระศิวะ, อาดิทยาฮฺ - เหล่าอาดิทยะ, วะสะวะฮฺ - เหล่าวะสุ, เยฺ - ทั้งหมดนั้น, ชะฺ - และ, สาดฺยาฮฺ - เหล่าสาดฺยะ, วิชเวฺ - เหล่าวิชเวเดวะ, อัชวิโนฺ - อัชวินี-คุมาระ, มะรุทะฮฺ - เหล่ามะรุท, ชะฺ - และ, อุชมะ-พาฮฺ - เหล่าบรรพบุรุษ, ชะฺ - และ, กันดฺารวะฺ - ของเหล่ากันดฺารวะ, ยัคชะฺ - เหล่ายัคชะ, อสุระฺ - เหล่ามาร, สิดดฺะฺ - และเหล่าเทวดาที่สมบูรณ์, สังกฺาฮฺ - ที่มาชุมนุมกัน, วีคชันเทฺ - ได้เห็น, ทวามฺ - พระองค์, วิสมิทาฮฺ - ในความอัศจรรย์, ชะฺ - เช่นกัน, เอวะฺ - แน่นอน, สารเวฺ - ทั้งหมด
คำแปลฺ
ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของพระศิวะ บรรดาอาดิทยะ วะสุ สาดฺยะ วิชเวเดวะอัชวีทั้งสอง เหล่ามะรุท บรรพบุรุษ กันดฺารวะ ยัคชะ อสุระ และเหล่าเทวดาที่สมบูรณ์ ทั้งหมดเห็นพระองค์ด้วยความมหัศจรรย์ใจ
รูพัม มะฮัท เท บะฮุ-วัคทระ-เนทรัม
มะฮา-บาโฮ บะฮุ-บาฮูรุ-พาดัมฺ
บะฮูดะรัม บะฮุ-ดัมชทรา-คะราลัม
ดริชทวา โลคาฮ พรัพยะทิฺทาส ทะทฺาฮัมฺ
รูพัมฺ - รูปลักษณ์, มะฮัทฺ - ยิ่งใหญ่มาก, เทฺ - ของพระองค์, บะฮฺุ - มากมาย, วัคทระฺ - พระพักตร์, เนทรัมฺ - พระเนตร, มะฮา-บาโฮฺ - โอ้ นักรบผู้ยิ่งใหญ่, บะฮฺุ - มากมาย, บาฮฺุ - พระกร, อูรฺุ - พระอุรุ, พาดัมฺ - พระเพลา, บะฮุ-อุดะรัมฺ - พระนาภีมากมาย, บะฮุ-ดัมช ทราฺ - พระทนต์มากมาย, คะราลัมฺ - น่ากลัว, ดริชทวาฺ - เห็น, โลคาฮฺ - โลกทั้งหมด, พรัพ ยะทิฺทาฮฺ - ยุ่งเหยิง, ทะทฺาฺ - คล้าย ๆ กัน, อฮัมฺ - ข้าพเจ้า
คำแปลฺ
โอ้ นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ดาวเคราะห์ทั้งหมดรวมทั้งเหล่าเทวดาทรงตกใจที่ได้เห็นรูปลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่ทรงมีพระพักตร์ พระเนตร พระกร พระเพลาพระนาภี และพระทนต์อันน่ากลัวมากมาย ขณะที่ทั้งหมดตกใจข้าพเจ้าก็ตกใจเช่นเดียวกัน
นะบฺะฮ-สพริชัม ดีพทัม อเนคะ-วารณัม
วิยาททานะนัม ดีพทะ-วิชาละ-เนทรัมฺ
ดริชทวา ฮิ ทวาม พรัพยะทิฺทานทาร-อาทมา
ดฺริทิม นะ วินดามิ ชะมัม ชะ วิชโณฺ
นะบฺะฮ-สพริชัมฺ - จรดท้องฟ้า, ดีพทัมฺ - ส่องแสง, อเนคะฺ - มากมาย, วารณัมฺ - หลากสี, วิยาททะฺ - เปิด, อานะนัมฺ - พระโอษฐ์, ดีพทะฺ - ส่องแสง, วิชาละฺ - ยิ่งใหญ่มาก, เนทรัมฺ - พระเนตร, ดริชทวาฺ - เห็น, ฮิฺ - แน่นอน, ทวามฺ - พระองค์, พรัพยะทิฺทะฺ - ยุ่งเหยิง, อันทะฮฺ - ภายใน, อาทมาฺ - วิญญาณ, ดฺริทิมฺ - มั่นคง, นะฺ - ไม่, วินดามิฺ - ข้าพเจ้ามี, ชะมัมฺ - จิตใจที่สงบ, ชะฺ - เช่นกัน, วิชโณฺ - โอ้ พระวิชณุ
คำแปลฺ
โอ้ พระวิชณุผู้ทรงแผ่กระจายไปทั่ว การที่ได้เห็นพระองค์พร้อมทั้งรัศมีที่มีสีสันเจิดจรัสมากมายจรดท้องฟ้า ช่องว่าระหว่างพระโอษฐ์ของพระองค์ และพระเนตรที่แวววาวมาก จิตใจของข้ายุ่งเหยิงด้วยความกลัว ข้าพเจ้าทรงไม่สามารถรักษาความมั่นคงหรือความสงบของจิตใจไว้ได้
ดัมชทรา-คะราลานิ ชะ เท มุคฺานิ
ดริชทไววะ คาลานะละ-สันนิบฺานิฺ
ดิโช นะ จาเน นะ ละเบฺ ชะ ชารมะ
พระสีดะ เดเวชะ จะกัน-นิวาสะฺ
ดัมชทราฺ - พระทนต์, คะราลานิฺ - น่ากลัว, ชะฺ - เช่นกัน, เทฺ - ของพระองค์, มุคฺานิฺ - พระพักตร์, ดริชทวาฺ - เห็น, เอวะฺ - ดังนั้น, คาละ-อนะละฺ - ไฟแห่งความตาย, สันนิบฺานิฺ - ประหนึ่ง, ดิชะฮฺ - ทิศทางต่าง ๆ ,นะฺ - ไม่, จาเนฺ - ข้าพเจ้าทราบ, นะฺ - ไม่, ละเบฺฺ - ข้าพเจ้าได้รับ, ชะฺ - และ, ชารมะฺ - พระกรุณาธิคุณ, พระสีดะฺ - ได้โปรดยินดี, เดวะ-อีชะฺ - โอ้ พระผู้เป็นเจ้าของมวลเทวดา, จะกัท-นิวาสะฺ - โอ้ ที่พักพิงของโลกต่าง ๆ
คำแปลฺ
โอ้ ภควานของปวงเทวดา โอ้ ที่พักพิงของหมู่ดาวเคราะห์ ทรงโปรดเมตตาต่อข้าพเจ้า ผู้ไม่สามารถรักษาความสมดุลไว้ได้เมื่อได้เห็นพระพักตร์อันเจิดจรัสและพระทนต์อันน่ากลัวเสมือนดั่งพญายมของพระองค์ ในทุก ๆ ทิศทางข้ารู้สึกสับสน
อมี ชะ ทวาม ดฺริทะราชทรัสยะ พุทราฮ
สารเว สะไฮวาวะนิ-พาละ-สังไกฺฮฺ
บีฺชโม โดรณะฮ สูทะ-พุทรัส ทะทฺาโส
สะฮาสมะดีไยร อพิ โยดฺะ-มุคฮไยฮฺ
วัคทราณิ เท ทวะระมาณา วิชันทิ
ดัมชทรา-คะราลานิ บฺะยานะคานิฺ
เคชิด วิลักนา ดะชะนานทะเรชุ
สันดริชยันเท ชูรณิไทร อุททะมางไกฮฺ
อมีฺ - เหล่านี้, ชะฺ - เช่นกัน, ทวามฺ - พระองค์, ดฺริทะราชทรัสยะฺ - ของดฺริทะราชทระ, พุทราฮฺ - บรรดาบุตร, สารเวฺ - ทั้งหมด, สะฮะฺ - กับ, เอวะฺ - แน่นอน, อวันนิฺ - พาละฺ - กษัตริย์นักรบ, สังไกฺฮฺ - กลุ่มต่าง ๆ, บีฺชมะฮฺ - บีฺชมะเดวะ, โดรณะฮฺ - โดรณาชารยะ, สูทะ- พุทระฮฺ - คารณะ, ทะทฺาฺ - เช่นกัน, อโสฺ - นั้น, สะฮะฺ - กับ, อัสมะดีไยฮฺ - ของเรา, อพิฺ - เช่นกัน, โยดฺะ-มุคฮไยฮฺ - ผู้นำในหมู่นักรบ, วัคทราณิฺ - พระโอษฐ์, เทฺ - ของพระองค์, ทวะระ มาณาฮฺ - รีบเร่ง, วิชันทิฺ - เข้าไป, ดัมชทราฺ - พระทนต์, คะราลานิฺ - น่ากลัว, บฺะยานะคานิฺ - น่ากลัวมาก, เคชิทฺ - บ้าง, วิลักนาฮฺ - ยึดติดอยู่, ดะชะนะ-อันทะเรชฺุ - ระหว่างพระทนต์, สันดริชยันเทฺ - ได้เห็น, ชูรณิไทฮฺ - ด้วยการฟาด, อุททะมะ-อังไกฮฺ - ศีรษะ
คำแปลฺ
บุตรของดฺริทะราชทระทั้งหมด และเหล่ากษัตริย์พันธมิตร รวมทั้ง บีฺชมะ โดรณะคารณะ พร้อมทั้งผู้นำทหารของพวกเราด้วย ทั้งหมดรีบเร่งเข้าไปในพระโอษฐ์อันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ ข้าพเจ้าเห็นบางคนศีรษะฟาดไปติดอยู่ที่ระหว่างพระทนต์ของพระองค์
คำอธิบายฺ
โศลกก่อนหน้านี้ คริชณะทรงสัญญากับอารจุนะว่าจะแสดงสิ่งที่อารจุนะทรงสนใจมาก บัดนี้อารจุนะทรงเห็นผู้นำของฝ่ายตรงข้าม (บีฺชมะ โดรณะ คารณะ และบุตรทั้งหมดของดฺริทะราชทระ) และกองกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย ทั้งหมดกำลังถูกทำลายเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าหลังจากผู้ที่มาชุมนุมกันที่ คุรุเชทระฺ เกือบทั้งหมดตายไป อารจุนะจะทรงได้รับชัยชนะ ได้กล่าวไว้ ณ ที่นี้ด้วย บีฺชมะ ผู้ที่ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะได้จะถูกบดขยี้ และคารณะก็จะถูกทำลายเช่นเดียวกัน ไม่เพียงแต่นักรบผู้ยิ่งใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามเช่นบีฺชมะถูกทำลาย แม้แต่ยอดนักรบของฝ่ายอารจุนะเองบางคนจะถูกทำลายเช่นเดียวกัน
ยะทฺา นะดีนาม บะฮะโว ่มบุ-เวกาฮ
สะมุดรัม เอวาบิฺมุคฺา ดระวันทิฺ
ทะทฺา ทะวามี นะระ-โลคะ-วีรา
วิชันทิ วัคทราณิ อบิฺวิจวะลันทิฺ
ยะทฺาฺ - ดังที่, นะดีนามฺ - ของแม่น้ำ, บะฮะวะฮฺ - มากมาย, อัมบฺุ - เวกาฮฺ - คลื่นของน้ำ, สะมุดรัมฺ - มหาสมุทร, เอวะฺ - แน่นอน, อบิฺมุคฮาฮฺ - ไปสู่, ดระวันทิฺ - ไหล, ทะทฺาฺ - เช่นเดียวกัน, ทะวะฺ - ของพระองค์, อมีฺ - ทั้งหมดนี้, นะระ-โลคะ-วีราฮฺ - เหล่ากษัตริย์ของสังคมมนุษย์, วิชันทิฺ - เข้าไป, วัคทราณิฺ - พระโอษฐ์, อบิฺวิจวะลันทิฺ - และกำลังโชติช่วง
คำแปลฺ
เหมือนกับคลื่นในแม่น้ำมากมายที่ไหลลงสู่มหาสมุทร ฉันใด นักรบผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายเหล่านี้ก็ไหลเข้าไปในพระโอษฐ์อันร้อนโชติช่วงของพระองค์ ฉันนั้น
ยะทฺา พระดีพทัม จวะละนัม พะทังกา
วิชันทิ นาชายะ สัมริดดฺะ-เวกาฮฺ
ทะไทฺวะ นาชายะ วิชันทิ โลคาส
ทะวาพิ วัคทราณิ สัมริดดฺะ-เวกาฮฺ
ยะทฺาฺ - เหมือนดัง, พระดีพทัมฺ - โชติช่วง, จวะละนัมฺ - ไฟ, พะทังกาฮฺ - พระโอษฐ์, วิชัน- ทิฺ - เข้าไป, นาชายะฺ - เพื่อทำลาย, สัมริดดฺะฺ - สูงสุด, เวกาฮฺ - ความเร็ว, ทะทฺาฺ เอวะ-ในทำนองเดียวกัน, นาชายะฺ - เพื่อการทำลาย, วิชันทิฺ - เข้าไป, โลคาฮฺ - ผู้คนทั้งหมด, ทะ- วะฺ - พระองค์, อพิฺ - เช่นกัน, วัคทราณิฺ - พระโอษฐ์, สัมริดดฺะ-เวกาฮฺ - ด้วยความเร็วสูงสุด
คำแปลฺ
ข้าพเจ้าเห็นผู้คนทั้งหลายรีบเร่งด้วยความเร็วสูงเข้าไปในพระโอษฐ์ของพระองค์เหมือนกับแมลงเม่าพุ่งเข้าสู่ความตายในกองไฟที่ลุกโชติช่วง
เลลิฮยะเส กระสะมานะฮ สะมันทาล
โลคาน สะมะกราน วะดะไนร จวะลัดบิฺฮฺ
เทโจบิฺร อาพูรยะ จะกัท สะมะกรัม
บฺาสัส ทะโวกราฮ พระทะพันทิ วิชโณฺ
เลลิฮยะเสฺ - พระองค์ทรงเลีย, กระสะมานะฮฺ - กลืน, สะมันทาทฺ - จากทั่วทุกสารทิศ, โลคานฺ - ผู้คน, สะมะกรานฺ - ทั้งหมด, วะดะไนฮฺ - ด้วยพระโอษฐ์มากมาย, จวะลัดบิฺฮฺ - โชติช่วง, เทโจบิฺฮฺ - ด้วยรัศมี, อาพูรยะฺ - ปกคลุม, จะกัทฺ - จักรวาล, สะมะกรัมฺ - ทั้งหมด, บฺาสะฮฺ - แสง, ทะวะฺ - ของพระองค์, อุกราฮฺ - น่ากลัว, พระทะพันทิฺ - แผดจ้า, วิชโณฺ - โอ้องค์ภควานผู้ทรงแผ่กระจายไปทั่ว
คำแปลฺ
โอ้ พระวิชณุ ข้าพเจ้าเห็นพระองค์ทรงกลืนผู้คนทั้งหมดจากทั่วทุกสารทิศด้วยพระโอษฐ์มากมายที่ลุกเป็นไฟ ทรงปกคลุมจักรวาลทั้งหมดด้วยรัศมีของพระองค์พระองค์ทรงปรากฏด้วยแสงรัศมีที่ร้อนแผดเผาอย่างน่ากลัว
อาคฮยาฮิ เม โค บฺะวาน อุกระ-รูโพ
นะโม ่สทุ เท เดวะ-วะระ พระสีดะฺ
วิกยาทุม อิชชฺามิ บฺะวันทัม อาดยัม
นะ ฮิ พระจานามิ ทะวะ พระวริททิมฺ
อาคฮยาฮิฺ - ทรงโปรดกรุณาอธิบาย, เมฺ - แด่ข้าพเจ้า, คะฮฺ - ผู้ซึ่ง,บฺะวานฺ - พระองค์, อุกระ-รูพะฮฺ - รูปลักษณ์อันดุร้าย, นะมะฮ อัสทฺุ - ความเคารพ, เทฺ - แด่พระองค์, เดวะ- วะระฺ - โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่ในหมู่เทวดา, พระสีดะฺ - ได้โปรดกรุณา, วิกยาทุมฺ - ทราบ, อิชชฺามิฺ - ข้าพเจ้าปรารถนา, บฺะวันทัมฺ - พระองค์, อาดยัมฺ - องค์เดิม, นะฺ - ไม่,ฮิฺ - แน่นอน, พระจา นามิฺ - ข้าพเจ้าทราบ, ทะวะฺ - ของพระองค์, พระวริททิมฺ - พระภารกิจ
คำแปลฺ
โอ้ พระผู้เป็นเจ้าของปวงเทวดา ผู้ทรงมีรูปลักษณ์ที่ดุร้ายมาก ได้โปรดบอกข้าว่าพระองค์คือใคร ข้าขอแสดงความเคารพแด่พระองค์ผู้ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าองค์แรก ได้โปรดกรุณาต่อข้า ข้าปรารถนาที่จะทราบเกี่ยวกับพระองค์ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ทราบว่าอะไรคือพระภารกิจของพระองค์
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ
คาโล ่สมิ โลคะ-คชะยะ-คริท พระวริดโดฺ
โลคาน สะมาฮารทุม อิฮะ พระวริททะฮฺ
ริเท ่พิ ทวาม นะ บฺะวิชยันทิ สารเว
เย ่วัสทิฺทาฮ พรัทยะนีเคชุ โยดฺาฮฺ
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ - บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัส, คาละฮฺ - กาลเวลา, อัสมิฺ - ข้าเป็น, โลคะฺ - ของหมู่โลก, คชะยะ-คริทฺ - ผู้ทำลาย, พระวริดดฺะฮฺ - ยิ่งใหญ่, โลคานฺ - ผู้คนทั้งหมด, สะมาฮารทุมฺ - ในการทำลาย, อิฮะฺ - ในโลกนี้, พระวริททะฮฺ - ปฏิบัติ, ริเทฺ - ปราศจาก, ยกเว้น, อพิฺ - แม้, ทวามฺ - เธอ, นะฺ - ไม่เคย, บฺะวิชยันทิฺ - จะเป็น, สารเวฺ - ทั้งหมด, เยฺ - ใคร, อวัสทิฺทาฮฺ - สถิต, พระทิ-อนีเคชฺุ - ฝ่ายตรงข้าม, โยดฺาฮฺ - เหล่าทหาร
คำแปลฺ
บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัสว่า ข้าคือกาลเวลาอันยิ่งใหญ่ที่ทำลายโลกทั้งหลาย ข้ามาที่นี่เพื่อทำลายผู้คนทั้งหมด ยกเว้นแต่เธอ (พวกพาณดะวะ) ทหารทั้งสองฝ่าย ณ ที่นี้จะถูกสังหารหมด
คำอธิบายฺ
ถึงแม้อารจุนะทรงทราบดีว่าคริชณะทรงเป็นสหายและทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า แต่ยังงุนงงจากรูปลักษณ์ต่าง ๆ ที่คริชณะทรงแสดงให้เห็น ดังนั้นอารจุนะจึงทรงถามต่อ ถึงพระภารกิจอันแท้จริงของพลังแห่งการทำลายล้างนี้ ได้เขียนไว้ในคัมภีร์พระเวทว่า สัจธรรมสูงสุดจะทำลายทุกสิ่งอย่างแม้แต่พวกพราหมณ์ ดังที่ได้กล่าวไว้ใน คะทฺะ อุพะนิชัดฺ (1.2.25) ว่า
ยัสยะ บระฮมะ ชะ คชัทรัม ชะฺ
อุเบฺ บฺะวะทะ โอดะนะฮฺ
มริทยุร ยัสโยพะเสชะนัม
คะ อิททฺา เวดะ ยะทระ สะฮฺ
ในอนาคตทั้งพราหมณ์ กษัตริย์ทั้งหมด และทุก ๆ คนจะถูกองค์ภควานกลืนเข้าไปเหมือนกับอาหาร รูปลักษณ์ขององค์ภควานนี้คือยักษ์ใหญ่ที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง ณที่นี้ คริชณะทรงแสดงพระองค์เองในรูปลักษณ์ของกาลเวลาที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างยกเว้นพาณดะวะไม่กี่คน นอกนั้นที่อยู่ ณ สมรภูมินี้จะถูกพระองค์กลืนเข้าไปหมด อารจุนะทรงไม่ชอบสงครามครั้งนี้และคิดว่าไม่รบดีกว่าจะได้ไม่ต้องหนักใจองค์ภควานทรงตอบด้วยการกล่าวว่า แม้หากอารจุนะไม่ต่อสู้ ทุก ๆ คนก็จะถูกทำลายเพราะนั่นคือแผนของพระองค์ หากอารจุนะหยุดการต่อสู้พวกเขาจะตายด้วยวิธีอื่นแม้อารจุนะไม่รบก็หยุดความตายไม่ได้ อันที่จริงพวกนี้ได้ตายไปแล้ว กาลเวลาคือการทำลาย ปรากฏการณ์ทั้งหมดจะถูกทำลายไปด้วยความปรารถนาขององค์ภควาน นั่นคือกฎแห่งธรรมชาติ
ทัสมาท ทวัม อุททิทฺะ ยะโช ละบัฺสวะ
จิทวา ชะทรูน บํุงคชวะ ราจยัม สัมริดดัฺมฺ
มะไยไวเท นิฮะทาฮ พูรวัม เอวะ
นิมิททะ-มาทรัม บฺะวะ สัพยะ-สาชินฺ
ทัสมาทฺ - ดังนั้น, ทวัมฺ - เธอ, อุททิชทฺะฺ - ลุกขึ้น, ยะชะฮฺ - เกียรติยศ, ละบัฺสวะฺ - ได้รับ, จิทวาฺ - ชัยชนะ, ชะทรูนฺ - เหล่าศัตรู, บํุงคชวะฺ - รื่นเริง, ราจยัมฺ - อาณาจักร, สัมริดดัฺฺมฺ - ความเจริญรุ่งเรือง, มะยาฺ - โดยข้า, เอวะฺ - แน่นอน, เอเทฺ - ทั้งหมดนี้, นิฮะทาฮฺ - ถูกสังหาร, พูรวัมฺ เอวะ-จากการตระเตรียมในอดีต, นิมิททะ-มาทรัมฺ - เพียงเป็นเหตุ, บฺะวะฺ - กลายเป็น, สัพยะ-สาชินฺ - โอ้ สัพยะสาชี
คำแปลฺ
ดังนั้น จงลุกขึ้น เตรียมตัวสู้ แล้วเธอจะได้รับการสรรเสริญ เอาชนะศัตรูและมีความสุขกับอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรือง จากการตระเตรียมของข้าพวกเขาได้ตายไปแล้ว และเธอ โอ้ สัพยะสาชี เป็นเพียงเครื่องมือในการต่อสู้
คำอธิบายฺ
สัพยะ-สาชินฺ หมายถึงผู้ที่สามารถยิงธนูชำนาญมากในสนามรบ ดังนั้นอารจุนะทรงถูกเรียกว่าเป็นนักรบผู้ชำนาญในการยิงธนูเพื่อสังหารศัตรู “เพียงแต่มาเป็นเครื่องมือ” นิมิททะฺ-มาทรัมฺ คำนี้มีความสำคัญมากเช่นกัน โลกทั้งโลกเคลื่อนไหวไปตามแผนขององค์ภควาน คนโง่เขลาที่ไม่มีความรู้เพียงพอคิดว่าธรรมชาติเคลื่อนไหวไปโดยปราศจากแผนการ และปรากฏการณ์ทั้งหลายเป็นเพียงอุบัติเหตุของขบวนการสร้าง มีพวกที่สมมติว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์มากมายแนะนำว่าบางทีเป็นอย่างนี้หรือบางทีก็เป็นอย่างนั้น แต่อันที่จริงไม่มีคำว่า “บางที” หรือ “อาจจะ” เพราะมีแผนการเฉพาะเจาะจงที่ดำเนินไปในโลกวัตถุนี้ แผนนี้คืออะไร? ปรากฏการณ์ในจักรวาลเปิดโอกาสสำหรับพันธวิญญาณที่จะกลับคืนสู่องค์ภควานคืนสู่เหย้า ตราบใดที่ยังมีความคิดโอหังพยายามที่จะเป็นเจ้าเหนือธรรมชาติวัตถุ พวกเขาต้องถูกพันธนาการ หากผู้ใดเข้าใจแผนขององค์ภควานและพัฒนาคริชณะจิตสำนึกจะเป็นผู้ที่มีปัญญาสูงสุด การสร้างและการทำลายของปรากฏการณ์ในจักรวาลอยู่ภายใต้การนำที่สูงกว่าขององค์ภควาน ดังนั้น สงครามในสนามรบคุรุคเชทระเป็นไปตามแผนของพระองค์ อารจุนะทรงปฏิเสธที่จะต่อสู้ แต่ได้รับคำแนะนำให้สู้ตามความปรารถนาขององค์ภควาน แล้วชีวิตจะมีความสุข หากผู้ใดอยู่ในคริชณะจิตสำนึกอย่างสมบูรณ์ และอุทิศชีวิตในการรับใช้ทิพย์ต่อพระองค์ ผู้นั้นจะเป็นบุคคลที่บริบูรณ์
โดรณัม ชะ บีฺชมัม ชะ จะยะดระทัฺม ชะ
คารนัม ทะทฺานยาน อพิ โยดฺะ-วีรานฺ
มะยา ฮะทามส ทวัม จะฮิ มา วิยะทิฺชทา
ยุดฺยัสวะ เจทาสิ ระเณ สะพัทนานฺ
โดรณัม ชะฺ - โดรณะก็เช่นกัน, บีฺชมัม ชะฺ - บีฺชมะก็เช่นกัน, จะยะดระทัฺม ชะฺ - จะยะดระทฺะก็เช่นกัน, คารณัมฺ - คารณะ, ทะทฺาฺ - เช่นกัน, อันยานฺ - บุคคลอื่น ๆ, อพิฺ - แน่นอน, โยดฺะ- วีรานฺ - เหล่านักรบผู้ยิ่งใหญ่, มะยาฺ - โดยข้า, ฮะทานฺ - ถูกสังหารแล้ว, ทวัมฺ - เธอ, จะฮิฺ - ทำลาย, มาฺ - ไม่, วิยะทิฺชทฺาฮฺ - กังวลใจ, ยุดฮยัสวะฺ - เพียงแต่สู้, เจทา อสิฺ - เธอจะได้รับชัยชนะ, ระเณฺ - ในการต่อสู้, สะพัทนานฺ - เหล่าศัตรู
คำแปลฺ
โดรณะ บีฺชมะ จะยะดระทฺะ คารณะ และนักรบผู้ยิ่งใหญ่อื่น ๆ ข้าได้ทำลายไปเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น จงสังหารพวกเขาและไม่ต้องกังวลใจ เพียงแต่สู้ แล้วเธอจะกำราบเหล่าศัตรูในสนามรบ
คำอธิบายฺ
ทุก ๆ แผน บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าทรงเป็นผู้กำหนด แต่พระองค์ทรงมีพระเมตตากรุณาต่อสาวกของพระองค์มาก จึงทรงอยากให้สาวกผู้ปฏิบัติตามแผนที่พระองค์ปรารถนาได้รับชื่อเสียง ฉะนั้น ชีวิตควรขับเคลื่อนไปในวิถีทางที่ทุก ๆ คนควรปฏิบัติในคริชณะจิตสำนึกและเข้าใจองค์ภควานผ่านทางสื่อแห่งพระอาจารย์ทิพย์ แผนต่าง ๆ ขององค์ภควานเข้าใจได้ด้วยพระเมตตาธิคุณของพระองค์ และแผนต่าง ๆ ของสาวกก็ดีเท่ากับแผนขององค์ภควาน ดังนั้น เราจึงควรปฏิบัติตามแผนเหล่านี้และได้รับชัยชนะในการดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
สันจะยะ อุวาชะฺ
เอทัช ชฺรุทวา วะชะนัม เคชะวัสยะ
คริทานจะลิร เวพะมานะฮ คิรีทีฺ
นะมัสคริทวา บํูยะ เอวะฮะ คริชณัม
สะ-กัดกะดัม บีฺทะฮ-บีทะฮ พระณัมยะฺ
สันจะยะฮ อุวาชะฺ - สันจะยะกล่าว, เอทัทฺ - ดังนั้น, ชรุทวาฺ - ได้ยิน, วะชะนัมฺ - คำพูด, เคชะวัสยะฺ - ของคริชณะ, คริทะฺ - อันจะลิฮฺ - ด้วยสองมือพนม, เวพะมานะฮฺ - สั่น, คิรี- ทีฺ - อารจุนะ, นะมัสคริทวาฺ - ถวายความเคารพ, บํูยะฮฺ - อีกครั้ง, เอวะฺ - เช่นกัน, อาฮะฺ - กล่าว, คริชณัมฺ - แด่คริชณะ, สะ-กัดกะดัมฺ - ด้วยเสียงที่ตะกุกตะกัก, บีฺทะ-บีฺทะฮฺ - ความกลัว, พระณัมยะฺ - ถวายความเคารพ
คำแปลฺ
สันจะยะกล่าวต่อดฺริทะราชทระว่า โอ้ พระราชา หลังจากทรงได้ยินคำพูดเหล่านี้จากบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าแล้ว อารจุนะตัวสั่นทรงถวายความเคารพด้วยสองมือพนมหลายต่อหลายครั้ง อารจุนะตรัสต่อองค์คริชณะด้วยความกลัวและด้วยเสียงที่ตะกุกตะกักดังต่อไปนี้
คำอธิบายฺ
ดังที่ได้อธิบายไว้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดจากรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควาน ทำให้อารจุนะทรงรู้สึกตกตะลึงในความอัศจรรย์ จึงเริ่มถวายความเคารพอย่างสูงแด่คริชณะหลายต่อหลายครั้ง และด้วยเสียงที่ตะกุกตะกักอารจุนะทรงเริ่มสวดมนต์มิใช่ในฐานะเพื่อน แต่ในฐานะสาวกผู้ทรงอยู่ในความอัศจรรย์ใจ
อารจุนะ อุวาชะฺ
สทฺาเน ฮริชีเคชะ ทะวะ พระคีรทยา
จะกัท พระฮริชยะทิ อนุรัจยะเท ชะฺ
รัคชามสิ บีฺทานิ ดิโช ดระวันทิ
สารเว นะมัสยันทิ ชะ สิดดฺะ-สังกฺาฮฺ
อารจุนะ อุวาชะฺ - อารจุนะตรัส, สทฺาเนฺ - ถูกต้อง, ฮริชีคะ-อีชะฺ - โอ้ เจ้าแห่งประสาทสัมผัสทั้งหลาย, ทะวะฺ - ของพระองค์, พระคีรทยาฺ - ด้วยพระบารมี, จะกัทฺ - ทั่วทั้งโลก, พระฮริชยะทิฺ - รื่นเริง, อนุรัจยะเทฺ - ยึดมั่น, ชะฺ - และ, รัคชามสิฺ - เหล่ามาร, บีฺทานิฺ - จากความกลัว, ดิชะฮฺ - ในทุก ๆ สารทิศ, ดระวันทิฺ - หนี, สารเวฺ - ทั้งหมด, นะมัสยันทิฺ - ถวายความเคารพ, ชะฺ - เช่นกัน, สิดดะฺ - สังกฺาฮฺ - มนุษย์ที่สมบูรณ์
คำแปลฺ
อารจุนะตรัสว่า โอ้ เจ้าแห่งประสาทสัมผัส ทั้งโลกรื่นเริงยินดีที่ได้ยินพระนามของพระองค์ ดังนั้น ทุกคนจึงมายึดมั่นอยู่ที่พระองค์ แม้ว่ามนุษย์ผู้สมบูรณ์ถวายความเคารพแด่พระองค์ เหล่ามารกลัวและหลบหนีไปที่นั่นที่นี่ ทั้งหมดนี้ได้กระทำไปอย่างถูกต้อง
คำอธิบายฺ
หลังจากได้ยินเกี่ยวกับผลสรุปของสนามรบคุรุคเชทระ อารจุนะทรงได้รับแสงสว่างในฐานะที่เป็นสาวกผู้ยิ่งใหญ่และเป็นสหายขององค์ภควาน อารจุนะทรงกล่าวว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คริชณะทรงกระทำไปนั้นเหมาะสมถูกต้อง และยืนยันว่าคริชณะทรงเป็นผู้ค้ำจุน ทรงเป็นจุดมุ่งหมายแห่งการบูชาของสาวก และทรงเป็นผู้ทำลายสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา การกระทำของพระองค์นั้นดีเท่า ๆ กันสำหรับทุก ๆ คน ณ ที่นี้ อารจุนะทรงเข้าใจว่าขณะที่กำลังสรุปเหตุการณ์ที่สมรภูมิคุรุคเชทระ ในอวกาศมีเทวดามากมายเช่นสิดดฺะ และพวกมีปัญญาจากดาวเคราะห์ที่สูงกว่า ได้มาสังเกตการสู้รบเพราะว่าคริชณะทรงอยู่ ณ ที่นั้น เมื่ออารจุนะทรงได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควานเหล่าเทวดาชื่นชมยินดีไปด้วย แต่พวกมารและพวกที่ไม่เชื่อในองค์ภควานทนไม่ได้ที่เห็นพระองค์ได้รับการสรรเสริญ จากความกลัวรูปลักษณ์แห่งการทำลายของบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า มารจึงวิ่งหนีไปโดยธรรมชาติ อารจุนะทรงสรรเสริญคริชณะที่ทรงปฏิบัติต่อเหล่าสาวกและพวกที่ไม่เชื่อในพระองค์ ในทุก ๆ กรณีสาวกจะสรรเสริญพระองค์ เพราะทราบดีว่าทุกสิ่งที่คริชณะทรงกระทำจะเป็นผลดีสำหรับทุก ๆ คน
คัสมาช ชะ เท นะ นะเมรัน มะฮาทมัน
กะรียะเส บระฮมะโณ ่พิ อาดิ-คารเทรฺ
อนันทะ เดเวชะ จะกัน-นิวาสะ
ทวัม อัคชะรัม สัด-อสัท ทัท พะรัม ยัทฺ
คัสมาทฺ - ทำไม, ชะฺ - เช่นกัน,เทฺ - แด่พระองค์, นะฺ - ไม่, นะเมรันฺ - พวกเขาควรถวายความเคารพอย่างเหมาะสม, มะฮา-อาทมันฺ - โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่, กะรียะเสฺ - ผู้ที่ดีกว่า, บระฮมะณะฮฺ - กว่าพระพรหม, อพิฺ - ถึงแม้ว่า, อาดิ-คารเทรฺ - แด่ผู้สร้างสูงสุด, อนันทะฺ - โอ้ ผู้ไม่มีที่สิ้นสุด, เดวะ-อีชะฺ - โอ้ พระผู้เป็นเจ้าของปวงเทวดา, จะกัท-นิวาสะฺ - โอ้ ที่พักพิงของจักรวาล, ทวัมฺ - พระองค์ทรงเป็น, อัคชะรัมฺ - ผู้ไม่มีวันถูกทำลาย, สัทฺ - อสัทฺ - เหตุและผล, ทัท พะรัมฺ - ทิพย์, ยัทฺ - เพราะว่า
คำแปลฺ
โอ้ ผู้ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่าแม้แต่พระพรหม พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างองค์แรก แล้วเหตุไฉนพวกเขาจึงไม่ถวายความเคารพแด่พระองค์? โอ้ ผู้ไร้ขีดจำกัด พระผู้เป็นเจ้าของปวงเทวดา ที่พักพิงของจักรวาล! พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดที่อยู่ยงคงกระพัน แหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง เป็นทิพย์เหนือปรากฏการณ์ทางวัตถุนี้
คำอธิบายฺ
จากการถวายความเคารพนี้ อารจุนะทรงแสดงให้เห็นว่าคริชณะทรงเป็นที่เคารพบูชาสำหรับทุก ๆ คน พระองค์ทรงแผ่กระจายไปทั่วและทรงเป็นวิญญาณของทุกดวงวิญญาณ อารจุนะทรงเรียกคริชณะว่า มะฮาทมาฺ ซึ่งหมายความว่าพระองค์ทรงมีใจกว้างขวางและไม่มีขีดจำกัด อนันทะฺ แสดงว่าไม่มีสิ่งใดที่ไม่ถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลและพลังงานขององค์ภควาน และ เดเวชะฺ หมายความว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ควบคุมและอยู่เหนือเทวดาทั้งหลาย พระองค์ทรงเป็นที่พักพิงของจักรวาลทั้งหมดอารจุนะทรงคิดเช่นกันว่า เป็นการเหมาะสมที่สิ่งมีชีวิตผู้สมบูรณ์และเทวดาผู้มีอำนาจทั้งหลายควรถวายความเคารพแด่องค์ภควาน เพราะว่าไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพระองค์อารจุนะทรงกล่าวโดยเฉพาะว่าคริชณะทรงยิ่งใหญ่กว่าพระพรหมเพราะคริชณะทรงเป็นผู้สร้างพระพรหม พระพรหมทรงถือกำเนิดมาจากก้านดอกบัวที่เจริญเติบโตมาจากพระนาภีของ การโบฺดะคะชายี วิชณฺุ ผู้ทรงเป็นภาคที่แบ่งแยกอันสมบูรณ์ของคริชณะ ดังนั้น พระพรหมและพระศิวะ (กำเนิดมาจากพระพรหม) และเทวดาองค์อื่นๆ ทั้งหลายต้องถวายความเคารพแด่ชรีคริชณะ ได้กล่าวไว้ใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ ว่าพระศิวะ พระพรหม และเทวดาองค์อื่น ๆ ที่คล้ายกันนี้เคารพบูชาองค์ภควาน คำว่า อัคชะรัมฺ มีความสำคัญมากเพราะว่าการสร้างทางวัตถุนี้จะหนีไม่พ้นการทำลาย แต่พระองค์ทรงอยู่เหนือการสร้างทางวัตถุ ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวงเมื่อเป็นเช่นนี้ ทรงเหนือกว่าพันธวิญญาณทั้งหลายภายในธรรมชาติวัตถุนี้ รวมทั้งปรากฏการณ์ทางจักรวาลวัตถุเอง ดังนั้นพระองค์ทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ทวัม อาดิ-เดวะฮ พุรุชะฮ พุราณัส
ทวัม อัสยะ วิชวัสยะ พะรัม นิดฺานัมฺ
เวททาสิ เวดยัม ชะ พะรัม ชะ ดฺามะ
ทวะยา ทะทัม วิชวัม อนันทะ-รูพะฺ
ทวัมฺ - พระองค์, อาดิฺ - เดวะฮฺ - ภควานองค์แรก, พุรุชะฮฺ - บุคลิกภาพ, พุราณะฮฺ - โบราณ, ทวัมฺ - พระองค์, อัสยะฺ - ของสิ่งนี้, วิชวัสยะฺ - จักรวาล, พะรัมฺ - ทิพย์, นิดฺานัมฺ - ที่พักพิง, เวททาฺ - ผู้รู้, อสิฺ - พระองค์ทรงเป็น, เวดยัมฺ - รู้, ชะฺ - และ, พะรัมฺ - ทิพย์, ชะฺ - และ, ดฺามะฺ - ที่พักพิง, ทวะยาฺ - โดยพระองค์, ทะทัมฺ - แผ่กระจาย, วิชวัมฺ - จักรวาล, อนันทะ-รูพะฺ - โอ้รูปลักษณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
คำแปลฺ
พระองค์ทรงเป็นภควานองค์เดิม อาวุโสที่สุด ทรงเป็นร่มบรมโพธิสมภารของโลกจักรวาลที่ปรากฏนี้ ทรงเป็นผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง และทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรรู้ พระองค์ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรสูงสุด ทรงอยู่เหนือระดับต่าง ๆ ทางวัตถุโอ้ รูปลักษณ์ที่ไร้ขอบเขต! ปรากฏการณ์ทางจักรวาลทั้งหมดนี้แผ่กระจายออกมาจากพระองค์!
คำอธิบายฺ
ทุกสิ่งทุกอย่างพำนักอยู่ที่องค์ภควาน ฉะนั้น พระองค์ทรงเป็นที่พักพิงสูงสุด นิดฺานัมฺ หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่รัศมี บระฮมันฺ ยังพำนักอยู่ที่บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าคริชณะ พระองค์ทรงเป็นผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ และหากความรู้มีจุดจบ พระองค์ทรงเป็นที่สุดของความรู้นั้นทั้งหมด ดังนั้น พระองค์ทรงเป็นผู้รู้และเป็นผู้ที่เราควรรู้ พระองค์ทรงเป็นจุดมุ่งหมายแห่งความรู้เพราะทรงแผ่กระจายไปทั่ว เนื่องจากทรงเป็นแหล่งกำเนิดในโลกทิพย์ พระองค์ทรงเป็นทิพย์พระองค์ยังทรงเป็นประธานผู้นำในโลกทิพย์
วายุร ยะโม ่กนิร วะรุณะฮ ชะชางคะฮ
พระจาพะทิส ทวัม พระพิทามะฮัช ชะฺ
นะโม นะมัส เท ่สทุ สะฮัสระ-คริทวะฮ
พุนัช ชะ บํูโย ่พิ นะโม นะมัส เทฺ
วายุฮฺ - ลม,ยะมะฮฺ - ผู้ควบคุม, อักนิฮฺ - ไฟ, วะรุณะฮฺ - น้ำ, ชะชะฺ - อังคะฮฺ - พระจันทร์, พระจาพะทิฮฺ - พระพรหม, ทวัมฺ - พระองค์, พระพิทามะฮะฮฺ - พระปัยกา, ชะฺ - เช่นกัน, นะมะฮฺ - ความเคารพของข้าพเจ้า, นะมะฮฺ - ความเคารพของข้าพเจ้าอีกครั้งหนึ่ง, เทฺ - แด่พระองค์, อัสทฺุ - ให้เป็นไป, สะฮัสระ-คริทวะฮฺ - พันครั้ง, พุนะฮ ชะฺ - และอีกครั้งหนึ่ง, บํูยะฮฺ - อีกครั้งหนึ่ง, อพิฺ - เช่นกัน, นะมะฮฺ - ถวายความเคารพของข้า, นะมะฮ เทฺ - ข้าขอถวายความเคารพแด่พระองค์
คำแปลฺ
พระองค์ทรงเป็นลม และทรงเป็นผู้ควบคุมสูงสุด ทรงเป็นไฟ ทรงเป็นน้ำ และทรงเป็นพระจันทร์ พระองค์ทรงเป็นพระพรหมผู้ทรงเป็นชีวิตแรก และทรงเป็นพระปัยกา ดังนั้น ข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพอย่างสูงแด่พระองค์หนึ่งพันครั้ง และอีกหนึ่งพันครั้ง และอีกหนึ่งพันครั้ง
คำอธิบายฺ
ณ ที่นี้ ทรงเรียกองค์ภควานว่าเป็นลม เพราะว่าลมเป็นผู้แทนที่สำคัญที่สุดของมวลเทวดาซึ่งแผ่กระจายไปทั่ว อารจุนะทรงเรียกคริชณะว่าเป็นพระปัยกา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นพระบิดาของพระพรหม ผู้ทรงเป็นชีวิตแรกในจักรวาล
นะมะฮ พุรัสทาด อทฺะ พริชทฺะทัส เท
นะโม ่สทุ เท สารวะทะ เอวะ สารวะฺ
อนันทะ-วีรยามิทะ-วิคระมัส ทวัม
สารวัม สะมาพโนชิ ทะโท ่สิ สารวะฮฺ
นะมะฮฺ - ถวายความเคารพ, พุรัสทาทฺ - จากด้านหน้า, อทฺะฺ - เช่นกัน, พริชทฺะทะฮฺ - จากด้านหลัง, เทฺ - แด่พระองค์, นะมะฮ อัสทฺุ - ข้าพเจ้าถวายความเคารพ, เทฺ - แด่พระองค์, สารวะทะฮฺ - จากทุก ๆ ด้าน, เอวะฺ - แน่นอน, สารวะฺ - เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง, อนันทะ-วีรยะฺ - พลังที่ไร้ขอบเขต, อมิทะ-วิคระมะฮฺ - และอำนาจที่ไร้ขอบเขต, ทวัมฺ - พระองค์, สารวัมฺ - ทุกสิ่งทุกอย่าง, สะมาพโนชิฺ - พระองค์ทรงปกคลุม, ทะทะฮฺ - ดังนั้น, อสิฺ - พระองค์ทรงเป็น, สารวะฮฺ - ทุกสิ่งทุกอย่าง
คำแปลฺ
ขอถวายความเคารพแด่พระองค์จากด้านหน้า จากด้านหลัง และจากทุก ๆ ด้าน!โอ้ พลังที่ไร้ขีดจำกัด พระองค์ทรงเป็นเจ้าของอำนาจที่ไร้ขอบเขต! พระองค์ทรงแผ่กระจายไปทั่ว ดังนั้น พระองค์ทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง!
คำอธิบายฺ
ด้วยความรักอันปลาบปลื้มที่มีต่อคริชณะ สหายอารจุนะทรงถวายความเคารพจากทุก ๆ ด้าน โดยยอมรับว่าคริชณะทรงเป็นเจ้าของพลังและอำนาจทั้งหมดและทรงยิ่งใหญ่กว่านักรบผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่มาชุมนุมกันที่สมรภูมิ ได้กล่าวไว้ใน วิชณุ พุราณะฺ (1.9.69) ดังนี้
โย ่ยัม ทะวากะโท เดวะ
สะมีพัม เดวะทา-กะณะฮฺ
สะ ทวัม เอวะ จะกัท-สรัชทา
ยะทะฮ สารวะ-กะโท บฺะวานฺ
“โอ้ ภควาน พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างทุกชีวิตที่มาอยู่ต่อหน้าพระองค์ แม้แต่เทวดา”
สะเคฺทิ มัทวา พระสะบัฺม ยัด อุคทัม
เฮ คริชณะ เฮ ยาดะวะ เฮ สะเคฺทิฺ
อจานะทา มะฮิมานัม ทะเวดัม
มะยา พระมาดาท พระณะเยนะ วาพิฺ
ยัช ชาวะฮาสารทัฺม อสัท-คริโท ่สิ
วิฮาระ-ชัยยาสะนะ-โบฺจะเนชฺุ
เอโค ่ทฺะ วาพิ อัชยุทะ ทัท-สะมัคชัม
ทัท คชามะเย ทวาม อฮัม อัพระเมยัมฺ
สะคฺาฺ - เพื่อน, อิทิฺ - ดังนั้น, มัทวาฺ - คิด, พระสะบัฺมฺ - ถือเอา, ยัทฺ - อะไรก็แล้วแต่, อุคทัมฺ - กล่าว, เฮ คริชณะฺ - โอ้ คริชณะ, เฮ ยาดะวะฺ - โอ้ ยาดะวะ, เฮ สะเคฺฺ - โอ้ เพื่อนรักของข้า, อิทิฺ - ดังนั้น, อจานะทาฺ - โดยไม่รู้, มะฮิมานัมฺ - พระบารมี, ทะวะฺ - ของพระองค์, อิดัมฺ - นี้, มะยาฺ - โดยข้า, พระมาดาทฺ - จากความโง่เขลา, พระณะเยนะฺ - จากความรัก, วา อพิฺ - ไม่ว่าสิ่งใด, ยัทฺ - อะไรก็แล้วแต่, ชะฺ - เช่นกัน, อวะฮาสะ-อารทัฺมฺ - เพื่อความขบขัน, อสัท- คริทะฮฺ - ไม่ให้เกียรติ, อสิฺ - พระองค์ทรงเป็น, วิฮาระฺ - ในการพักผ่อนหย่อนใจ, ชัยยาฺ - ในขณะนอนอยู่, อาสะนะฺ - ในขณะนั่งอยู่, โบฺจะเนชฺุ - หรือขณะที่รับประทานอาหารด้วยกัน, เอคะฮฺ - คนเดียว, อทฺะ วาฺ - หรือ, อพิฺ - เช่นกัน, อัชยุทะฺ - โอ้ ผู้ไม่มีความผิดพลาด, ทัท- สะมัคชัมฺ - ในระหว่างเพื่อน ๆ, ทัทฺ - ทั้งหมดนั้น, คชามะเยฺ - ขออภัยโทษ, ทวามฺ - จากพระองค์, อฮัมฺ - ข้าพเจ้า, อัพระเมยัมฺ - โดยวัดไม่ได้
คำแปลฺ
คิดว่าพระองค์ทรงเป็นพระสหาย ข้าเรียกพระองค์อย่างไม่ใคร่ครวญว่า “โอ้คริชณะ” “โอ้ ยาดะวะ” “โอ้ เพื่อนข้า” โดยไม่ทราบพระบารมีของพระองค์ได้โปรดให้อภัยโทษแก่ข้าที่กระทำต่อพระองค์ด้วยความบ้าคลั่งหรือด้วยความรักข้าพเจ้าไม่ให้เกียรติ ต่อพระองค์หลายครั้ง ได้ล้อเล่นกับพระองค์ขณะที่เราพักผ่อนหย่อนใจ นอนบนเตียงเดียวกัน นั่ง หรือรับประทานอาหารด้วยกัน บางครั้งอยู่ด้วยกันสองคน และบางครั้งอยู่ต่อหน้าเพื่อน ๆ มากมาย โอ้ ผู้ไม่มีความผิดพลาด ได้โปรดกรุณายกโทษแก่ข้าพเจ้ากับความผิดพลาดทั้งหลาย
คำอธิบายฺ
ถึงแม้ว่าคริชณะทรงปรากฏต่อหน้าอารจุนะในรูปลักษณ์จักรวาล อารจุนะทรงระลึกถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่มีต่อคริชณะ ดังนั้น จึงขออภัยโทษและทรงขอร้องคริชณะเพื่อยกโทษให้ในการที่ปฏิบัติตัวเป็นกันเองหลายครั้ง อันเนื่องจากความสนิทสนม อารจุนะทรงยอมรับว่าในอดีตไม่รู้ว่าคริชณะทรงสามารถแสดงรูปลักษณ์จักรวาลนี้ถึงแม้ว่าคริชณะทรงอธิบายในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิท อารจุนะไม่ทราบว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ไม่ให้เกียรติคริชณะด้วยการเรียกว่าพระองค์ว่า “โอ้ สหายข้า” “โอ้คริชณะ” “โอ้ ยาดะวะ” ฯลฯ โดยไม่ทราบถึงความมั่งคั่งของพระองค์ แต่คริชณะทรงมีพระเมตตากรุณามาก ถึงแม้ว่าจะมีความมั่งคั่งเช่นนี้ พระองค์ยังทรงล้อเล่นกับอารจุนะเสมือนเพื่อน นี่คือการสนองตอบในความรักทิพย์ระหว่างสาวกและองค์ภควานความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและคริชณะมีความมั่นคงนิรันดร โดยไม่มีวันที่จะลืมเลือนไปได้ ดังที่เราได้เห็นจากพฤติกรรมของอารจุนะ ถึงแม้ว่าอารจุนะทรงเห็นความมั่งคั่งในรูปลักษณ์จักรวาล ก็ยังไม่สามารถลืมความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่มีต่อคริชณะได้
พิทาสิ โลคัสยะ ชะราชะรัสยะ
ทวัม อัสยะ พูจยัช ชะ กุรุร กะรียานฺ
นะ ทวัท-สะโม ่สทิ อับฺยะดิฺคะฮ คุโท ่นโย
โลคะ-ทระเย ่พิ อพระทิมะ-พระบฺาวะฺ
พิทาฺ - พระบิดา, อสิฺ - พระองค์ทรงเป็น, โลคัสยะฺ - ของโลกทั้งหลาย, ชะระฺ - เคลื่อนที่, อชะรัสยะฺ - และไม่เคลื่อนที่, ทวัมฺ - พระองค์ทรงเป็น, อัสยะฺ - ของสิ่งนี้, พูจยะฮฺ - บูชา, ชะฺ - เช่นกัน, กุรุฮฺ - พระอาจารย์, กะรียานฺ - พระบารมี, นะฺ - ไม่เคย, ทวัท-สะมะฮฺ - เทียบเท่าพระองค์, อัสทิฺ - มี, อับฺยะดิฺคะฮฺ - ยิ่งใหญ่กว่า, คุทะฮฺ - เป็นไปได้อย่างไร, อันยะฮฺ - ผู้อื่น, โลคะฺ - ทระเยฺ - ในระบบดาวเคราะห์ทั้งสาม, อพิฺ - เช่นกัน, อพระทิมะ-พระบฺาวะฺ - โอ้ พลังที่วัดไม่ได้
คำแปลฺ
พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งปรากฏการณ์ทางจักรวาลที่สมบูรณ์ของสิ่งที่เคลื่อนไหวและไม่เคลื่อนไหวนี้ พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่ควรเคารพบูชา ทรงเป็นพระอาจารย์ทิพย์สูงสุด ไม่มีผู้ใดเทียบเท่าพระองค์ และไม่มีผู้ใดสามารถมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ แล้วจะมีผู้ใดภายในสามโลกยิ่งใหญ่ไปกว่าพระองค์ได้อย่างไร? โอ้พระผู้เป็นเจ้าแห่งพลังที่วัดไม่ได้
คำอธิบายฺ
องค์ภควานชรีคริชณะทรงเป็นที่เคารพบูชาในฐานะที่เป็นพระบิดาสำหรับบุตรพระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ทิพย์เนื่องจากเดิมทีพระองค์ทรงให้คำสอนพระเวทนี้แก่พระพรหม และมาบัดนี้ยังทรงให้คำสอน ภควัต-คีตาฺ แก่อารจุนะ ฉะนั้น พระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ทิพย์องค์แรก และพระอาจารย์ทิพย์ผู้ที่เชื่อถือได้องค์ใดในปัจจุบันนี้จะต้องสืบทอดมาจากสาย พะรัมพะราฺ ที่เริ่มมาจากคริชณะ หากผู้ใดไม่ใช่ผู้แทนของคริชณะจะไม่สามารถมาเป็นครูหรือพระอาจารย์เกี่ยวกับวิชาทิพย์เหนือโลกนี้ได้
องค์ภควานทรงได้รับการถวายความเคารพในทุก ๆ ด้าน พระองค์ทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถประมาณได้ ไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าองค์ภควานชรีคริชณะ เพราะว่าไม่มีผู้ใดเทียบเท่าหรือสูงกว่าคริชณะภายในปรากฏการณ์ ไม่ว่าในโลกทิพย์หรือโลกวัตถุ ทุก ๆ ชีวิตด้อยกว่า ไม่มีผู้ใดเกินไปกว่าพระองค์ ได้กล่าวไว้ใน ชเวทาชวะทะระ อุพะนิชัดฺ (6.8) ว่า
นะ ทัสยะ คารยัม คะระณัม ชะ วิดยะเท
นะ ทัท-สะมัช ชาบฺยะดิฺคัช ชะ ดริชยะเทฺ
องค์ภควานชรีคริชณะทรงมีประสาทสัมผัสและร่างกายเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่สำหรับพระองค์จะไม่มีข้อแตกต่างระหว่างประสาทสัมผัส ร่างกาย จิตใจ และตัวพระองค์เอง คนโง่เขลาผู้ไม่รู้จักพระองค์อย่างสมบูรณ์จะกล่าวว่า คริชณะทรงแตกต่างไปจากดวงวิญญาณของพระองค์ จิตใจ หัวใจ และทุกสิ่งทุกอย่างของพระองค์ คริชณะทรงมีความสมบูรณ์บริบูรณ์ ดังนั้น กิจกรรมและพลังอำนาจของพระองค์จึงสูงสุด ได้กล่าวไว้ว่า ถึงแม้ว่าทรงไม่มีประสาทสัมผัสเหมือนพวกเรา พระองค์ทรงสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางประสาทสัมผัสทั้งหมดได้ ดังนั้น ประสาทสัมผัสของพระองค์ทรงมิใช่ไม่สมบูรณ์ หรือมีขีดจำกัด ไม่มีผู้ใดยิ่งใหญ่ไปกว่าพระองค์ ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเท่าพระองค์ และทุก ๆ คนต่ำกว่าพระองค์
ความรู้ พละกำลัง และกิจกรรมทั้งหมดขององค์ภควานทรงเป็นทิพย์ ดังที่ได้กล่าวไว้ใน ภควัต-คีตาฺ (4.9) ดังนี้
จันมะ คารมะ ชะ เม ดิพยัม
เอวัม โย เวททิ ทัททวะทะฮฺ
ทยัคทวา เดฮัม พุนาร จันมะ
ไนทิ มาม เอทิ โส ่รจุนะฺ
ผู้ใดรู้ร่างทิพย์ กิจกรรมทิพย์ และความสมบูรณ์ทิพย์ของคริชณะ หลังจากออกจากร่างนี้ไปจะกลับไปหาพระองค์และไม่ต้องกลับมายังโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์นี้อีกต่อไป ฉะนั้น เราจึงควรรู้ว่ากิจกรรมของคริชณะทรงไม่เหมือนกับผู้ใด นโยบายที่ดีที่สุดคือเราควรปฏิบัติตามหลักธรรมของคริชณะ เพราะเช่นนี้จะทำให้เราสมบูรณ์ยังได้กล่าวไว้ว่า ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้านายของคริชณะ ทุกคนเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เชธันญะ-ชะริทามริทะฺ (อาดิฺ 5.142) ยืนยันไว้ว่า เอคะเล อีชวะระ คริชณะ, อาระ สะบะ บฺริทยะฺ คริชณะเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงเป็นองค์ภควานและทุกคนเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธคำสั่งของพระองค์ได้ ทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำของคริชณะในฐานะที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระองค์ ดังที่ได้กล่าวไว้ใน บระฮมะ-สัมฮิทาฺ ว่าพระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง
ทัสมาท พระณัมยะ พระณิดฺายะ คายัม
พระสาดะเย ทวาม อฮัม อีชัม อีดยัมฺ
พิเทวะ พุทรัสยะ สะเคฺวะ สัคฺยุฮ
พริยะฮ พริยายารฮะสิ เดวะ โสดํุมฺ
ทัสมาทฺ - ฉะนั้น, พระณัมยะฺ - ถวายความเคารพ, พระณิดฺายะฺ - นอนลง, คายัมฺ - ร่างกาย, พระสาดะเยฺ - เพื่อขอพระเมตตา, ทวามฺ - แด่พระองค์, อฮัมฺ - ข้าพเจ้า, อีชัมฺ - แด่องค์ภควาน, อีดยัมฺ - ที่เคารพบูชา, พิทา-อิวะฺ - เหมือนพระบิดา, พุทรัสยะฺ - กับบุตร, สะคฺา อิวะฺ - เหมือนกับเพื่อน, สัคฺยุฮฺ - กับเพื่อน, พริยะฮฺ - คู่รัก, พริยายาฮฺ - กับคนที่รักที่สุด, อารฮะสิฺ - พระองค์ควร, เดวะฺ - พระผู้เป็นเจ้าของข้า, โสดํุมฺ - อดทน
คำแปลฺ
พระองค์ทรงเป็นองค์ภควานที่ทุก ๆ ชีวิตเคารพบูชา ดังนั้น ข้าพเจ้าขอก้มลงกราบแสดงความเคารพอย่างสูง และขอพระเมตตาจากพระองค์ เหมือนกับบิดาอดทนต่อความอวดดีของบุตร เพื่อนอดทนต่อความทะลึ่งของเพื่อน หรือสามีอดทนต่อความสนิทสนมของภรรยา ได้โปรดกรุณาอดทนต่อความผิดพลาดที่ข้าพเจ้าอาจล่วงเกินต่อพระองค์
คำอธิบายฺ
บรรดาสาวกของคริชณะเชื่อมกับพระองค์ในความสัมพันธ์หลายรูปแบบ บางคนอาจดูแลคริชณะในฐานะที่เป็นบุตร บางคนอาจดูแลคริชณะในฐานะที่เป็นสามี ในฐานะที่เป็นเพื่อน หรือในฐานะที่เป็นอาจารย์ คริชณะและอารจุนะมีความสัมพันธ์กันฉันเพื่อน เสมือนดังบิดา สามี หรืออาจารย์ที่มีความอดทน คริชณะก็ทรงมีความอดทนในลักษณะเดียวกัน
อดริชทะ-พูรวัม ฮริชิโท ่สมิ ดริชทวา
บฺะเยนะ ชะ พรัพยะทิฺทัม มะโน เมฺ
ทัด เอวะ เม ดารชะยะ เดวะ รูพัม
พระสีดะ เดเวชะ จะกัน-นิวาสะฺ
อดริชทะ-พูรวัมฺ - ไม่เคยเห็นมาก่อน, ฮริชิทะฮฺ - ดีใจ, อัสมิฺ - ข้าพเจ้าเป็น, ดริชทวาฺ - ด้วยการเห็น, บฺะเยนะฺ - จากความกลัว, ชะฺ - เช่นกัน, พรัพยะทิฺทัมฺ - ยุ่งเหยิง, มะนะฮฺ - จิตใจ, เมฺ - ของข้าพเจ้า, ทัทฺ - นั้น, เอวะฺ - แน่นอน, เมฺ - แด่ข้าพเจ้า, ดารชะยะฺ - แสดง, เดวะฺ - โอ้องค์ภควาน, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, พระสีดะฺ - ได้โปรดกรุณา, เดวะฺ - อีชะฺ - โอ้ พระผู้เจ้าของปวงเทวดา, จะกัท-นิวาสะฺ - โอ้ ที่พักพิงของจักรวาล
คำแปลฺ
หลังจากได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาลที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจ แต่ในขณะเดียวกันจิตใจของข้าสับสนด้วยความกลัว ฉะนั้น ได้โปรดกรุณาเปิดเผยรูปลักษณ์องค์ภควานอีกครั้ง โอ้ พระเจ้าของปวงเทวดา โอ้ ที่พักพิงแห่งจักรวาล
คำอธิบายฺ
อารจุนะทรงมีความมั่นใจต่อคริชณะเสมอ เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเพื่อนที่รักมาก และในฐานะเพื่อนรักที่ดีใจกับความมั่งคั่งของเพื่อน อารจุนะทรงมีความยินดีมากที่เห็นว่าสหายคริชณะทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า และทรงสามารถแสดงรูปลักษณ์จักรวาลอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้ แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาลแล้ว รู้สึกกลัวว่าตนเองได้กระทำผิดมากมายต่อคริชณะอันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ฉันเพื่อนสนิท ดังนั้น จิตใจของอารจุนะสับสนเนื่องจากความกลัว ถึงแม้ว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัว ฉะนั้น อารจุนะทรงขอร้องให้คริชณะแสดงรูปลักษณ์พระนารายณ์ เนื่องจากคริชณะทรงสามารถแสดงรูปลักษณ์ใดก็ได้ รูปลักษณ์จักรวาลนี้เป็นวัตถุและไม่ถาวรเช่นเดียวกับโลกวัตถุที่ไม่ถาวร แต่ที่ดาวเคราะห์ไวคุณธฺะ พระองค์ทรงมีรูปลักษณ์ทิพย์พระนารายณ์สี่กร มีดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วนในท้องฟ้าทิพย์แต่ละดวงคริชณะทรงปรากฏด้วยภาคแบ่งแยกที่สมบูรณ์ของพระองค์ในพระนามต่างๆ กัน ดังนั้น อารจุนะปรารถนาจะเห็นหนึ่งในรูปลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ในดาวเคราะห์ไวคุณธฺะ แน่นอนว่าในแต่ละดาวเคราะห์ไวคุณธฺะ พระนารายณ์ทรงมีสี่กร แต่ละองค์ทรงหอยสังข์ คทา ดอกบัว และกงจักร ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากสี่สิ่งนี้อยู่ที่พระกรต่างกัน พระนารายณ์จึงทรงมีพระนามที่ไม่เหมือนกัน รูปลักษณ์ทั้งหมดเหล่านี้เป็นหนึ่งเดียวกับคริชณะ ดังนั้น อารจุนะจึงทรงขอดูรูปลักษณ์สี่กรของพระองค์
คิรีทินัม กะดินัม ชัคระ-ฮัสทัม
อิชชฺามิ ทวาม ดรัชทุม อฮัม ทะไทฺวะฺ
เทไนวะ รูเพณะ ชะทุร-บํุเจนะ
สะฮัสระ-บาโฮ บฺะวะ วิชวะ-มูรเทฺ
คิรีทินัมฺ - พร้อมทั้งมงกุฎ, กะดินัมฺ - กับคทา, ชัคระ-ฮัสทัมฺ - กงจักรในมือ, อิชชฺามิฺ - ข้าพเจ้าปรารถนา, ทวามฺ - พระองค์, ดรัชทุมฺ - เห็น, อฮัมฺ - ข้าพเจ้า, ทะทฺา เอวะฺ - ในตำแหน่งนั้น, เทนะ เอวะฺ - ในสิ่งนั้น, รูเพณะฺ - รูปลักษณ์, ชะทุฮ-บํุเจนะฺ - สี่กร, สะฮัสระ- บาโฮฺ - โอ้ ผู้ทรงมีพันกร, บฺะวะฺ - กลายมาเป็น, วิชวะ-มูรเทฺ - โอ้รูปลักษณ์จักรวาล
คำแปลฺ
โอ้ รูปลักษณ์จักรวาล โอ้ พระเจ้าพันกร ข้าพเจ้าทรงปรารถนาเห็นพระองค์ในรูปลักษณ์สี่กรที่ทรงมงกุฏ พร้อมทั้งคทา กงจักร สังข์ และดอกบัวที่พระกรข้าพเจ้าปรารถนาจะเห็นพระองค์ในรูปลักษณ์นั้น
คำอธิบายฺ
ใน บระฮมะ-สัมฮิทาฺ (5.39) กล่าวไว้ว่า รามาดิ-มูรทิชุ คะลา-นิยะเมนะ ทิชทัฺนฺ องค์ภควานสถิตชั่วกัลปวสานในรูปลักษณ์นับจำนวนเป็นร้อย ๆ พัน ๆ และรูปลักษณ์ ที่สำคัญ ๆ คือ รามะ นริสิมฮะ นารายะณะ ฯลฯ มีรูปลักษณ์ที่นับจำนวนไม่ถ้วน แต่อารจุนะทรงทราบว่า คริชณะทรงเป็นภควานองค์เดิม และทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาลชั่วคราว บัดนี้ อารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็นรูปลักษณ์ทิพย์แห่งองค์นารา-ยะณะ โศลกนี้ได้สถาปนาข้อความของ ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ โดยปราศจากความสงสัยว่า คริชณะคือบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าองค์แรกและรูปลักษณ์อื่น ๆ ทั้งหมดกำเนิดมาจากพระองค์ คริชณะทรงไม่แตกต่างจากภาคแบ่งแยกอันสมบูรณ์ของพระองค์ และทรงเป็นองค์ภควานไม่ว่าจะอยู่ในรูปลักษณ์ใด ในรูปลักษณ์ทั้งหมดเหล่านี้พระองค์ทรงมีความสดชื่นเหมือนกับเด็กหนุ่ม นี่คือลักษณะนิรันดรของบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าผู้ที่รู้จักคริชณะจะเป็นผู้มีอิสระภาพจากมลทินทั้งหมดแห่งโลกวัตถุทันที
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ
มะยา พระสันเนนะ ทะวารจุเนดัม
รูพัม พะรัม ดารชิทัม อาทมะ-โยกาทฺ
เทโจ-มะยัม วิชวัม อนันทัม อาดยัม
ยัน เม ทวัด อันเยนะ นะ ดริชทะ-พูรวัมฺ
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ - บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัส, มะยาฺ - โดยข้า, พระสันเนนะฺ - ความสุข, ทะวะฺ - แด่เธอ, อารจุนะฺ - โอ้ อารจุนะ, อิดัมฺ - นี้, รูพัมฺ - รูป, พะรัมฺ - ทิพย์, ดาร ชิทัมฺ - แสดง, อาทมะ-โยกาทฺ - ด้วยพลังเบื้องสูงของข้า, เทจะฮ-มะยัมฺ - เต็มไปด้วยรัศมี, วัชวัมฺ - ทั่วทั้งจักรวาล, อนันทัมฺ - ไม่มีที่สิ้นสุด, อาดยัมฺ - องค์แรก, ยัทฺ - ซึ่ง, เมฺ - ของข้า, ทวัทฺ - อันเยนะฺ - นอกจากเธอ, นะ ดริชทะ-พูรวัมฺ - ไม่มีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน
คำแปลฺ
บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัสว่า อารจุนะที่รัก ด้วยพลังเบื้องสูงของข้า ข้ายินดีจะแสดงให้เธอเห็นรูปลักษณ์จักรวาลที่สูงสุดภายในโลกวัตถุนี้ ไม่มีผู้ใดเคยเห็นรูปลักษณ์เดิมนี้มาก่อน ซึ่งไร้ขอบเขตและเต็มไปด้วยรัศมีที่เจิดจรัส
คำอธิบายฺ
อารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควาน ดังนั้น ด้วยพระเมตตาที่คริชณะทรงมีต่อสาวกจึงทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาลของพระองค์ที่เต็มไปด้วยรัศมีและความมั่งคั่ง รูปลักษณ์นี้ส่องแสงเหมือนกับดวงอาทิตย์ พระพักตร์มากมายเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คริชณะทรงแสดงรูปลักษณ์ที่มาจากพลังเบื้องสูงของพระองค์เพื่อสนองตอบความปรารถนาของสหายอารจุนะ การคาดคะเนของมนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ ไม่เคยมีผู้ใดเห็นรูปลักษณ์จักรวาลนี้ก่อนอารจุนะ เนื่องจากรูปลักษณ์นี้ได้แสดงให้อารจุนะทรงเห็น เหล่าสาวกบนสรวงสวรรค์และดาวเคราะห์อื่นๆ ในอวกาศไม่เคยเห็นมาก่อน อีกนัยหนึ่ง ด้วยพระเมตตาของคริชณะ สาวกทั้งหลายขององค์ภควานใน สายพะรัมพะราฺ จึงสามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลที่ได้แสดงให้อารจุนะ บางคนวิจารณ์ว่ารูปลักษณ์นี้ได้แสดงให้ดุรโยดฺะนะ แต่ด้วยความอับโชคดุรโยดฺะนะไม่ยอมรับข้อเสนอเพื่อสันติภาพ ตอนนั้นคริชณะทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาลแต่รูปลักษณ์เหล่านั้นแตกต่างไปจากรูปลักษณ์ที่ทรงแสดงให้อารจุนะขณะนี้ ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าไม่เคยมีผู้ใดเห็นรูปลักษณ์นี้มาก่อน
นะ เวดะ-ยะกยาดฺยะยะไนร นะ ดาไนร
นะ ชะ คริยาบิฺร นะ ทะโพบิฺร อุไกรฮฺ
เอวัม-รูพะฮ ชัคยะ อฮัม นริ-โลเค
ดรัชทุม ทวัด อันเยนะ คุรุ-พระวีระฺ
นะฺ - ไม่เคย, เวดะ-ยะกยะฺ - ด้วยการบูชา, อัดฺยะยะไนฮฺ - หรือการศึกษาคัมภีร์พระเวท, นะฺ - ไม่เคย, ดาไนฮฺ - ด้วยการทำบุญ, นะฺ - ไม่เคย, ชะฺ - เช่นกัน, คริยาบิฺฮฺ - ด้วยการทำบุญ, นะฺ - ไม่เคย, ทะโพบิฺฮฺ - ด้วยการบำเพ็ญเพียรอย่างจริงจัง, อุไกรฮฺ - อย่างเคร่งครัด, เอวัม -รูพะฮฺ - ในรูปลักษณ์นี้, ชัคยะฮฺ - สามารถ, อฮัมฺ - ข้า, นริ-โลเคฺ - ในโลกวัตถุนี้, ดรัชทุมฺ - ได้เห็น, ทวัทฺ - กว่าเธอ, อันเยนะฺ - โดยผู้อื่น, คุรุ-พระวีระฺ - โอ้ ผู้ยอดเยี่ยมในหมู่นักรบคุรุ
คำแปลฺ
โอ้ ผู้ยอดเยี่ยมในหมู่นักรบแห่งคุรุ ไม่เคยมีผู้ใดก่อนหน้าเธอเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของข้านี้ ไม่ว่าจากการศึกษาคัมภีร์พระเวท จากการปฏิบัติพิธีบูชาต่างๆ จากการให้ทาน จากการทำบุญ หรือจากการบำเพ็ญเพียรอย่างเคร่งครัดก็ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นรูปลักษณ์นี้ในโลกวัตถุ
คำอธิบายฺ
จักษุทิพย์ในความสัมพันธ์กับประเด็นนี้ควรทำความเข้าใจอย่างชัดเจนว่า ผู้ใดสามารถมีจักษุทิพย์? ทิพย์หมายความว่า แห่งเทพ นอกจากเราบรรลุถึงระดับทิพย์เหมือนกับเทพ เราจะไม่สามารถมีจักษุทิพย์ได้ และเทพคือใคร? ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์พระเวทว่า พวกที่เป็นสาวกของพระวิชณุคือ เทพ (วิชณุ-บัฺคธะฮ สมริโท เดวะฮฺ) พวกที่ไม่เชื่อในองค์ภควาน หรือพวกที่ไม่เชื่อในพระวิชณุ หรือพวกที่รู้เพียงส่วนที่ไร้รูปลักษณ์ของคริชณะ ไม่สามารถมีจักษุทิพย์ เป็นไปไม่ได้ที่ประณามคริชณะแล้วจะมีจักษุทิพย์ในขณะเดียวกัน เราไม่สามารถมีจักษุทิพย์หากไม่มาเป็นบุคคลทิพย์ อีกนัยหนึ่ง พวกที่มีจักษุทิพย์จะสามารถเห็นสิ่งที่อารจุนะทรงเห็น
ภควัต-คีตาฺ ได้พรรณนาถึงรูปลักษณ์จักรวาล ถึงแม้การพรรณนานี้ไม่เคยมีผู้ใดรู้มาก่อนอารจุนะ บัดนี้ เรามีแนวความคิดบางอย่างเกี่ยวกับ วิชวะ-รูพะฺ หลังจากเหตุการณ์นี้ บุคคลที่เป็นทิพย์จริง ๆ สามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควานแต่เราไม่สามารถเป็นทิพย์หากไม่มาเป็นสาวกผู้บริสุทธิ์ของคริชณะ อย่างไรก็ดีสาวกผู้ที่อยู่ในธรรมชาติทิพย์จริงและมีจักษุทิพย์ จะไม่สนใจในการเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควานเท่าใดนัก ดังที่ได้อธิบายในโศลกก่อนหน้านี้ อารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็นรูปลักษณ์สี่กรขององค์คริชณะในรูปพระวิชณุ อันที่จริงท่านทรงกลัวรูปลักษณ์จักรวาล
โศลกนี้มีคำพูดสำคัญ ๆ เช่น เวดะ-ยะกยาดฺยะยะไนฮฺ ซึ่งหมายถึง การศึกษาวรรณกรรมพระเวทและเรื่องราวกฎเกณฑ์ในพิธีบูชา พระเวทหมายถึงวรรณกรรมพระเวททั้งหมด เช่น พระเวททั้งสี่เล่ม (ริก, ยะจุร, สามะฺ และ อทฺารวะฺ) และ พุราณะฺทั้งสิบแปดเล่ม อุพะนิชัดฺ และ เวดานธะ-สูทระฺ เราสามารถศึกษาคัมภีร์เหล่านี้ที่บ้านหรือที่ใดก็ได้ ในทำนองเดียวกันมี สูทระฺ เช่น คัลพะ-สูทระฺ และ มีมามสา-สูทระฺ เพื่อศึกษาพิธีกรรมบวงสรวงบูชา ดาไนฮฺ หมายถึงการให้ทานซึ่งถวายให้แก่ผู้ที่เหมาะสมเช่นบุคคลผู้ที่ปฏิบัติรับใช้ด้วยความรักทิพย์ต่อองค์ภควาน เช่น บราฮมะณะ และ ไวช- ณะวะฺ ในทำนองเดียวกัน “การทำบุญ” หมายถึง อักนิ-โฮทระฺ และหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้สำหรับวรรณะต่าง ๆ การอาสายอมทำให้ร่างกายเจ็บปวดบ้างเรียกว่า ทะพัสยะฺ ดังนั้นเราสามารถปฏิบัติตามรายการทั้งหมดนี้ ยอมรับการบำเพ็ญเพียรทางร่างกาย การให้ทาน การศึกษาคัมภีร์พระเวท ฯลฯ แต่นอกจากมาเป็นสาวกเหมือนกับอารจุนะ มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นรูปลักษณ์จักรวาล พวกที่ไม่เชื่อในรูปลักษณ์จินตนาการว่าได้เห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควาน แต่จาก ภควัต-คีตาฺ เราเข้าใจว่าพวกไม่เชื่อในรูปลักษณ์ไม่ใช่สาวก ดังนั้น จึงไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของพระองค์ได้
มีหลายคนสร้างอวตารต่าง ๆ และอวดอ้างอย่างผิด ๆ ว่ามนุษย์ธรรมดาเป็นองค์อวตาร แต่นี่เป็นความโง่เขลาเบาปัญญาทั้งสิ้น เราควรปฏิบัติตามหลักธรรมของ ภควัต-คีตาฺ มิฉะนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุถึงความรู้ทิพย์อย่างสมบูรณ์ แม้จะถือว่า ภควัต-คีตาฺ เป็นระดับประถมศึกษาของศาสตร์แห่งองค์ภควาน ถึงกระนั้นก็มีความสมบูรณ์พอที่จะทำให้เราแยกแยะว่าอะไรคืออะไร เหล่าสาวกของอวตารจอมปลอมอาจกล่าวว่า พวกตนก็เห็นอวตารทิพย์รูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควานเช่นกัน แต่เช่นนี้ยอมรับไม่ได้ เพราะได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน ณ ที่นี้ ว่า นอกจากมาเป็นสาวกของคริชณะ มิฉะนั้น จะไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลขององค์ภควาน ดังนั้น ก่อนอื่นเขาต้องมาเป็นสาวกผู้บริสุทธิ์ของคริชณะ จากนั้น จึงอ้างได้ว่าตนสามารถแสดงรูปลักษณ์จักรวาลที่ได้เห็นมา สาวกของคริชณะไม่ยอมรับอวตารจอมปลอม หรือบรรดาสาวกของอวตารจอมปลอม
มา เท วิยะทฺา มา ชะ วิมูดฺะ-บฺาโว
ดริชทวา รูพัม โกฺรัม อีดริง มะเมดัมฺ
วิยะเพทะ-บีฺฮ พรีทะ-มะนาฮ พุนัส ทวัม
ทัด เอวะ เม รูพัม อิดัม พระพัชยะฺ
มาฺ - จงอย่าเป็นเช่นนั้น, เทฺ - แด่เธอ,วิยะทฺาฺ - ปัญหา, มาฺ - จงอย่าเป็นเช่นนั้น, ชะฺ - เช่นกัน, วิมูดฺะฺ - บฺาวะฮฺ - สับสน, ดริชทวาฺ - จากการเห็น, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, โกฺรัมฺ - น่ากลัว, อีดริคฺ - ตามความจริง, มะมะฺ - ของข้า, อิดัมฺ - นี้,วิยะเพทะ-บีฺฮฺ - ปราศจากความกลัวทั้งหมด, พรีทะ-มะนาฮฺ - ทำให้จิตใจยินดี, พุนะฮฺ - อีกครั้งหนึ่ง, ทวัมฺ - เธอ, ทัทฺ - นั้น, เอวะฺ - ดังนั้น, เมฺ - ของข้า, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, อิดัมฺ - นี้, พระพัชยะฺ - จงดู
คำแปลฺ
จากการเห็นรูปลักษณ์อันน่ากลัวของข้านี้ทำให้เธอยุ่งเหยิงและสับสน บัดนี้ขอให้จบลง สาวกของข้าเป็นอิสระจากสิ่งรบกวนทั้งหลายอีกครั้ง ด้วยจิตที่สงบ เธอจะสามารถเห็นรูปลักษณ์ที่เธอปรารถนา ณ บัดนี้
คำอธิบายฺ
ในตอนต้นของ ภควัต-คีตาฺ อารจุนะทรงรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับการสังหารบีฺชมะและโดรณะผู้เป็นเสด็จปู่และอาจารย์ที่เคารพบูชา แต่คริชณะตรัสว่าไม่จำเป็นต้องกลัวการสังหารเสด็จปู่ เพราะเมื่อตอนที่โอรสของดฺริทะราชทระพยายามเปลื้องผ้าพระนางโดรพะดีในที่ชุมนุมของเหล่าคุรุ บีฺชมะและโดรณะมิได้ปริปากเลย จากการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ทั้งคู่สมควรถูกสังหาร คริชณะทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาลแด่อารจุนะเพื่อแสดงให้เห็นว่า บุคคลเหล่านี้ถูกสังหารเรียบร้อยแล้วจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย ที่แสดงเหตุการณ์นั้นให้อารจุนะเห็นเพราะว่า สาวกมีความสงบอยู่เสมอและไม่สามารถกระทำสิ่งที่ร้ายกาจเช่นนี้ จุดมุ่งหมายในการเปิดเผยรูปลักษณ์จักรวาลแสดงให้เห็นว่า บัดนี้อารจุนะทรงปรารถนาที่จะเห็นรูปลักษณ์สี่กร และคริชณะจะทรงแสดงให้เห็น สาวกไม่สนใจกับรูปลักษณ์จักรวาลเท่าใดนัก เพราะไม่สามารถแลกเปลี่ยนความรู้สึกในความรักได้ สาวกปรารถนาจะถวายความเคารพบูชาด้วยความรู้สึก หรือปรารถนาจะเห็นรูปลักษณ์สองกรของคริชณะ ก็เพื่อที่จะสามารถแลกเปลี่ยนในการรับใช้ด้วยความรักต่อองค์ภควาน
สันจะยะ อุวาชะฺ
อิทิ อารจุนัม วาสุเดวัส ทะโทฺคทวา
สวะคัม รูพัม ดารชะยาม อาสะ บํูยะฮฺ
อาชวาสะยาม อาสะ ชะ บีฺทัม เอนัม
บูทวา พุนะฮ โสมยะ-วะพุร มะฮาทมาฺ
สันจะยะฮ อุวาชะฺ - สันจะยะกล่าว, อิทิฺ - ดังนั้น, อารจุนัมฺ - แด่อารจุนะ, วาสุเดวะฮฺ - คริชณะ, ทะทฺาฺ - เช่นนั้น, อุคทวาฺ - ตรัส, สวะคัมฺ - ด้วยพระองค์เอง, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, ดารชะยาม อาสะฺ - แสดง, บํูยะฮฺ - อีกครั้ง, อาชวาสะยาม อาสะฺ - ส่งเสริม, ชะฺ - เช่นกัน, บีฺทัมฺ - น่ากลัว, เอนัมฺ - เขา, บํูทวาฺ - มาเป็น, พุนะฮฺ - อีกครั้ง, สะอุมยะ-วะพุฮฺ - รูปลักษณ์ที่สง่างาม, มะฮา-อาทมาฺ - ผู้ยิ่งใหญ่
คำแปลฺ
สันจะยะกล่าวต่อดฺริทะราชทระว่า องค์ภควานชรีคริชณะ หลังจากตรัสกับอาร-จุนะแล้ว ทรงแสดงรูปลักษณ์สี่กรอันแท้จริงของพระองค์ และในที่สุดทรงแสดงรูปลักษณ์สองกร เพื่อเป็นการให้กำลังใจอารจุนะที่ทรงกำลังกลัวอยู่
คำอธิบายฺ
เมื่อคริชณะทรงปรากฏเป็นบุตรของวะสุเดวะและเดวะคี ตอนแรกพระองค์ทรงปรากฏในรูปนารายะณะสี่กร เมื่อพระบิดาและพระมารดาขอร้อง พระองค์ทรงเปลี่ยนร่างมาเป็นทารกน้อยธรรมดา ลักษณะเดียวกัน คริชณะทรงทราบว่าอารจุนะไม่สนใจที่จะเห็นรูปลักษณ์สี่กร แต่เนื่องจากอารจุนะขอร้องที่จะได้เห็นรูปลักษณ์สี่กรนี้ คริชณะจึงทรงแสดงรูปลักษณ์นี้อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นพระองค์ก็ทรงแสดงรูปลักษณ์สองกร คำว่า สะอุมยะ-วะพุฮฺ มีความสำคัญมาก สะอุมยะ-วะพุฮฺ เป็นรูปลักษณ์ที่สง่างามมาก รู้กันว่าสง่างามที่สุด เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ ทุกคนได้แต่หลงรักรูปลักษณ์นี้เนื่องจากคริชณะทรงเป็นผู้กำกับจักรวาลจึงทรงจำกัดความกลัวของสาวกอารจุนะ และทรงแสดงรูปลักษณ์คริชณะอันสง่างามอีกครั้งหนึ่ง ใน บระฮมะ-สัมฮิทาฺ (5.38) กล่าวไว้ว่า เพรมานจะนะ-ชชํุริทะ-บัฺคธิ-วิโลชะเนนะฺ บุคคลผู้มีดวงตาที่ชโลมไปด้วยสายใยแห่งความรักเท่านั้นจึงสามารถเห็นรูปลักษณ์อันสง่างามของชรีคริชณะได้
อารจุนะ อุวาชะฺ
ดริชทเวดัม มานุชัม รูพัม
ทะวะ สะอุมยัม จะนารดะนะฺ
อิดานีม อัสมิ สัมวริททะฮ
สะ-เชทาฮ พระคริทิม กะทะฮฺ
อารจุนะฮ อุวาชะฺ - อารจุนะตรัส, ดริชทวาฺ - เห็น, อิดัมฺ - นี้, มานุชัมฺ - มนุษย์, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, ทะวะฺ - ของพระองค์, สะอุมยัมฺ - สง่างามมาก, จะนารดะนะฺ - โอ้ ผู้กำราบศัตรู, อิดานีมฺ - บัดนี้, อัสมิฺ - ข้าเป็น, สัมวริททะฮฺ - สงบลง, สะ-เชทาฮฺ - ในจิตสำนึกของข้าพเจ้า, พระคริทิมฺ - ธรรมชาติของตัวข้าพเจ้า, กะทะฮฺ - กลับคืน
คำแปลฺ
ดังนั้น เมื่ออารจุนะทรงเห็นคริชณะในรูปลักษณ์เดิมของพระองค์แล้ว จึงตรัสว่าโอ้ จะนารดะนะ เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ที่มีความสง่างามมากนี้ บัดนี้ข้าตั้งสติได้แล้ว และได้กลับคืนมาสู่สภาพตามธรรมชาติเดิมของข้าพเจ้า
คำอธิบายฺ
ณ ที่นี้ คำว่า มานุชัม รูพัมฺ แสดงให้เห็นถึงบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า รูปเดิมที่มีสองกรอย่างชัดเจน พวกที่เยาะเย้ยคริชณะประหนึ่งว่าพระองค์ทรงเป็นบุคคลธรรมดา แสดงให้เห็นถึงความโง่เขลาเบาปัญญาของตนเกี่ยวกับธรรมชาติทิพย์ของพระองค์ ณ ที่นี้ หากคริชณะทรงเหมือนกับมนุษย์ธรรมดาแล้วเป็นไปได้อย่างไรที่ทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาล ทรงแสดงรูปลักษณ์พระนารายณ์สี่กร? ดังนั้น จึงได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนมากใน ภควัต-คีตาฺ ว่าผู้ที่คิดว่าคริชณะทรงเป็นบุคคลธรรมดาและนำพาผู้อ่านไปในทางที่ผิด โดยอ้างว่า บระฮมันฺ อันไร้รูปลักษณ์ที่อยู่ภายในคริชณะเป็นผู้ตรัส บุคคลนี้กำลังกระทำผิดอย่างมหันต์ คริชณะทรงแสดงรูปลักษณ์จักรวาล และทรงแสดงรูปลักษณ์วิชณุสี่กรจริง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพระองค์จะทรงเป็นมนุษย์ธรรมดาสามัญได้อย่างไร สาวกผู้บริสุทธิ์ไม่สับสนกับคำวิจารณ์ ภควัต-คีตาฺ ที่นำพาไปในทางที่ผิด เพราะทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร โศลกเดิมแท้ของ ภควัต-คีตาฺ นั้นสว่างไสวชัดเจนเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แสงตะเกียงจากนักตีความผู้เบาปัญญา
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ
สุ-ดุรดารชัม อิดัม รูพัม
ดริชทะวาน อสิ ยัน มะมะฺ
เดวะ อพิ อัสยะ รูพัสยะ
นิทยัม ดารชะนะ-คางคชิณะฮฺ
ชรี-บฺะกะวาน อุวาชะฺ - บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัส, สุ-ดุรดารชัมฺ - เห็นได้ยากมาก, อิดัมฺ - นี้, รูพัมฺ - รูปลักษณ์, ดริชทะวาน อสิฺ - ดังที่เธอได้เห็น, ยัทฺ - ซึ่ง, มะมะฺ - ของข้า, เดวาฮฺ - เหล่าเทวดา, อพิฺ - เช่นกัน, อัสยะฺ - นี้, รูพัสยะฺ - รูปลักษณ์, นิทยัมฺ - อมตะ, ดารชะนะ-คางคชิณะฮฺ - ปรารถนาที่จะได้เห็น
คำแปลฺ
บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าตรัสว่า อารจุนะที่รัก รูปลักษณ์ของข้าที่เธอกำลังเห็นอยู่นี้เป็นสิ่งยากมากที่จะเห็นได้ แม้แต่เหล่าเทวดายังแสวงหาโอกาสเสมอที่จะได้เห็นรูปลักษณ์อันเป็นที่รักยิ่งนี้
คำอธิบายฺ
โศลกที่สี่สิบแปดของบทนี้ คริชณะทรงสรุปการเปิดเผยรูปลักษณ์จักรวาลของพระองค์และตรัสแก่อารจุนะว่า จากการทำบุญมาก ๆ และทำพิธีบูชา ฯลฯ จะไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์นี้ได้ ณ ที่นี้ได้ใช้คำว่า สุ-ดุรดารชัมฺ แสดงให้เห็นว่ารูปลักษณ์สองกรของคริชณะเป็นความลับยิ่งขึ้นไปอีก เราอาจสามารถเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะด้วยการบวกการอุทิศตนเสียสละรับใช้เข้าไปอีกนิดหนึ่งกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการบำเพ็ญเพียร การศึกษาคัมภีร์พระเวท และการคาดคะเนทางปรัชญา ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ แต่หากปราศจากการเจือ บัฺคธิฺ เข้าไปเราจะไม่สามารถเห็น ดังที่ได้อธิบายไว้แล้ว แต่เหนือไปกว่ารูปลักษณ์จักรวาล รูปลักษณ์คริชณะสองกรยิ่งเห็นได้ยากขึ้นไปอีก แม้แต่เทวดา เช่น พระพรหม และพระศิวะ ทรงปรารถนาที่จะเห็นคริชณะ เรามีหลักฐานใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ ว่า ขณะที่คริชณะทรงประทับอยู่ในครรภ์ของพระมารดาเดวะคี เหล่าเทวดาทั้งหลายจากสรวงสวรรค์มาดูความอัศจรรย์ของคริชณะและได้ถวายบทมนต์อันไพเราะแด่องค์ภควาน ถึงแม้ว่าขณะนั้นพระองค์ยังไม่ทรงปรากฏให้เห็นแต่เหล่าเทวดาทรงรอที่จะเห็นพระองค์ คนโง่เขลาอาจเยาะเย้ยองค์ภควาน คิดว่าพระองค์ทรงเป็นบุคคลธรรมดาและอาจถวายความเคารพต่อ “บางสิ่งบางอย่าง” ที่ไร้รูปลักษณ์ภายในพระองค์ซึ่งมิใช่เป็นการเคารพพระองค์ เช่นนี้เป็นลักษณะที่ไร้สาระทั้งสิ้น เหล่าเทวดา เช่น พระพรหมและพระศิวะทรงปรารถนาจะเห็นคริชณะในรูปลักษณ์สองกรของพระองค์จริง ๆ
ใน ภควัต-คีตาฺ (9.11) ได้ยืนยันไว้ว่า อวะจานันทิ มาม มูดฺา มานุชีม ทะนุม อาชริทัมฺ พระองค์ไม่ทรงปรากฏให้คนโง่เขลาที่เยาะเย้ยพระองค์เห็น ดังที่ได้ยืนยันไว้โดย บระฮมะ-สัมฮิทาฺ และโดยคริชณะเองใน ภควัต-คีตาฺ ว่า พระวรกายของคริชณะทรงเป็นทิพย์โดยสมบูรณ์ เปี่ยมไปด้วยความสุขเกษมสำราญและเป็นอมตะนิรันดร พระวรกายของพระองค์ทรงไม่เหมือนกับร่างกายวัตถุ แต่สำหรับบางคนที่ศึกษาเกี่ยวกับคริชณะด้วยการอ่าน ภควัต-คีตาฺ หรือคัมภีร์พระเวทในทำนองเดียวกันนี้ คริชณะกลายมาเป็นปัญหาเพราะเขาใช้กรรมวิธีทางวัตถุพิจารณาว่าคริชณะทรงเป็นบุคลิกภาพผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์และเป็นนักปราชญ์ผู้มีปัญญาเลอเลิศ แต่พระองค์ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดา ถึงแม้พระองค์ทรงมีพลังอำนาจมากก็ยังต้องยอมรับร่างวัตถุ ในที่สุดพวกเขาคิดว่าสัจธรรมที่สมบูรณ์เป็นสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณ์และยึดติดอยู่กับธรรมชาติวัตถุ เช่นนี้ เป็นการคำนวณทางวัตถุเกี่ยวกับองค์ภควาน การคำนวณอีกแบบหนึ่งคือการคาดคะเน พวกที่แสวงหาความรู้จึงคาดคะเนเกี่ยวกับคริชณะ และพิจารณาว่าพระองค์ทรงมีความสำคัญน้อยกว่ารูปลักษณ์จักรวาลของพระองค์ ดังนั้น บางคนคิดว่ารูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะที่ทรงปรากฏให้อารจุนะเห็นมีความสำคัญมากกว่ารูปลักษณ์ส่วนพระองค์ ตามบุคคลเหล่านี้รูปลักษณ์ส่วนพระองค์ขององค์ภควานเป็นบางสิ่งบางอย่างที่จินตนาการขึ้นมา โดยเชื่อว่าในระดับสุดท้ายสัจธรรมที่สมบูรณ์ไม่ใช่เป็นบุคคล แต่กรรมวิธีทิพย์ได้อธิบายไว้ใน ภควัต-คีตาฺ บทที่สี่ว่า ให้สดับฟังเกี่ยวกับคริชณะจากบุคคลที่เชื่อถือได้ เช่นนี้คือกรรมวิธีของพระเวทโดยแท้จริง พวกที่อยู่ในสายพระเวทโดยแท้จริงสดับฟังเกี่ยวกับคริชณะจากผู้ที่เชื่อถือได้ ด้วยการสดับฟังเกี่ยวกับพระองค์เป็นอาจิณแล้วคริชณะจะกลายมาเป็นที่รัก ดังที่เราได้กล่าวไว้หลายครั้งว่า คริชณะทรงถูกปกคลุมด้วยพลัง โยกะ-มายาฺ ของพระองค์ ทรงไม่เปิดเผยหรือให้ผู้ใดเห็น คนที่พระองค์ทรงเปิดเผยให้เท่านั้นจึงสามารถเห็นพระองค์ ได้ยืนยันไว้เช่นนี้ในวรรณกรรมพระเวทว่า สำหรับดวงวิญญาณที่ศิโรราบจึงสามารถเข้าใจสัจธรรมโดยแท้จริง นักทิพย์นิยมผู้ปฏิบัติคริชณะจิตสำนึกอย่างต่อเนื่อง และด้วยการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อคริชณะ จึงสามารถมีจักษุทิพย์ที่สว่างไสวขึ้นและสามารถเห็นคริชณะจากการเปิดเผย การเปิดเผยเช่นนี้เป็นไปไม่ได้แม้แต่เทวดา ดังนั้น จึงเป็นการยากแม้แต่พวกเทวดาที่จะเข้าใจคริชณะ และเหล่าเทวดาที่เจริญแล้วหวังเสมอว่าจะได้เห็นคริชณะในรูปลักษณ์สองกร โดยสรุปก็คือ การเห็นรูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะเป็นสิ่งที่ยาก จึงเป็นไปไม่ได้สำหรับทุก ๆ คน และยากยิ่งขึ้นไปอีกที่จะเข้าใจรูปลักษณ์ของพระองค์ในรูป ชยามะสุนดะระฺ
นาฮัม เวไดร นะ ทะพะสา
นะ ดาเนนะ นะ เชจยะยาฺ
ชัคยะ เอวัม-วิโดฺ ดรัชทุม
ดริชทะวาน อสิ มาม ยะทฺาฺ
นะฺ - ไม่เคย, อฮัมฺ - ข้า, เวไดฮฺ - ด้วยการศึกษาคัมภีร์พระเวท, นะฺ - ไม่เคย, ทะพะสาฺ - ด้วยการบำเพ็ญเพียรอย่างเคร่งครัด, นะฺ - ไม่เคย, ดาเนนะฺ - ด้วยการให้ทาน, นะฺ - ไม่เคย, ชะฺ - เช่นกัน, อิจยะยาฺ - ด้วยการบูชา, ชัคยะฮฺ - เป็นไปได้, เอวัม-วิดฺะฮฺ - เหมือนกัน,ดรัชทุมฺ - เห็น, ดริชทะวานฺ - การเห็น, อสิฺ - เธอเป็น, มามฺ - ข้า, ยะทฺาฺ - ตามเป็นจริง
คำแปลฺ
รูปลักษณ์ที่กำลังเห็นด้วยจักษุทิพย์ของเธอ การศึกษาคัมภีร์พระเวท การปฏิบัติบำเพ็ญเพียรอย่างเคร่งครัด การให้ทาน หรือการบูชาไม่สามารถเข้าใจได้ มิใช่ว่าปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้แล้วจะสามารถเห็นข้าตามความเป็นจริง
คำอธิบายฺ
ครั้งแรกคริชณะทรงปรากฏต่อหน้าพระมารดาเดวะคีและพระบิดาวะสุเดวะในรูปลักษณ์สี่กร จากนั้นพระองค์ทรงเปลี่ยนพระวรกายมาเป็นรูปลักษณ์สองกรอิทธิฤทธิ์เช่นนี้เข้าใจได้ยากมากสำหรับพวกที่ไม่เชื่อในองค์ภควาน หรือพวกที่ปราศจากการอุทิศตนเสียสละรับใช้ สำหรับพวกนักวิชาการที่ได้แต่ศึกษาวรรณกรรมพระเวทโดยผ่านทางความรู้ไวยากรณ์ หรือมีแต่เพียงคุณสมบัติทางวิชาการเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจคริชณะ สำหรับบุคลลที่ไปวัดเพื่อถวายการบูชาแด่พระองค์ตามพิธีกรรม ได้แต่ไปเยี่ยมเยียนพระองค์เท่านั้น แต่ไม่สามารถเข้าใจคริชณะตามความเป็นจริง เราจะสามารถเข้าใจคริชณะได้ด้วยวิถีแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้เท่านั้น ดังที่คริชณะทรงอธิบายด้วยพระองค์เองในโศลกต่อไป
บัฺคธยา ทุ อนันยะยา ชัคยะ
อฮัม เอวัม-วิโดฺ ่รจุนะฺ
กยาทุม ดรัชทุม ชะ ทัททเวนะ
พระเวชทุม ชะ พะรันทะพะฺ
บัฺคธยาฺ - ด้วยการอุทิศตนเสียสละรับใช้, ทฺุ - แต่, อนันยะยาฺ - โดยไม่ผสมกับกิจกรรมเพื่อหวังผลหรือความรู้จากการคาดคะเน, ชัคยะฮฺ - เป็นไปได้, อฮัมฺ - ข้า, เอวัม-วิดฺะฮฺ - เหมือนนี้, อารจุนะฺ - โอ้ อารจุนะ, กยาทุมฺ - รู้, ดรัชทุมฺ - เห็น, ชะฺ - และ, ทัททเวนะฺ - ความจริง, พระเวชทุมฺ - เข้าไปข้างใน, ชะฺ - และ, พะรันทะพะฺ - โอ้ นักรบผู้ยอดเยี่ยม
คำแปลฺ
อารจุนะที่รัก การอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่ไม่แบ่งปันเท่านั้นจึงสามารถเข้าใจข้าตามความเป็นจริง ซึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเธอ สามารถเห็นได้โดยตรง ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เธอสามารถเข้าไปในความเร้นลับแห่งการเข้าใจข้า
คำอธิบายฺ
เราสามารถเข้าใจคริชณะด้วยกรรมวิธีแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่ไม่แบ่งปันเท่านั้น พระองค์ทรงอธิบายอย่างแจ่มแจ้งในโศลกนี้ เพื่อบรรดานักตีความที่เชื่อถือไม่ได้พยายามเข้าใจ ภควัต-คีตาฺ ด้วยวิธีการคาดคะเนจะได้รู้ว่าพวกตนได้แต่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใจคริชณะ ไม่เข้าใจว่าทรงมาจากพระบิดาพระมารดาในรูปลักษณ์สี่กรได้อย่างไร และเปลี่ยนพระวรกายมาเป็นรูปลักษณ์สองกรโดยทันทีได้อย่างไร สิ่งเหล่านี้เข้าใจได้ยากมากจากการศึกษาคัมภีร์พระเวทหรือจากการคาดคะเนทางปรัชญา ดังนั้น ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน ณ ที่นี้ว่า ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นพระองค์หรือเข้าถึงการเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ อย่างไรก็ดี พวกที่เป็นนักศึกษาวรรณกรรมพระเวทที่มีประสบการณ์มาก สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์จากวรรณกรรมพระเวทได้หลาย ๆ ทาง มีกฏเกณฑ์มากมายหากเราปรารถนาจะเข้าใจคริชณะ เราต้องปฏิบัติตามหลักกฏเกณฑ์ที่ได้ให้ไว้ในวรรณกรรมที่เชื่อถือได้ เราสามารถปฏิบัติการบำเพ็ญเพียรตามหลักธรรมเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น ปฏิบัติการบำเพ็ญเพียรอย่างเคร่งครัด เราอาจถือศีลอดอาหารในวัน จันมาชทะมีฺ วันที่คริชณะทรงปรากฏและวัน เอคาดะชีฺ เดือนละสองวัน (วันขึ้นสิบเอ็ดค่ำและวันแรมสิบเอ็ดค่ำ) สำหรับการให้ทานได้กล่าวไว้อย่างเรียบง่ายว่า ทานควรให้แก่สาวกของคริชณะผู้ปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละรับใช้แด่พระองค์เพื่อเผยแพร่ปรัชญาคริชณะ หรือคริชณะจิตสำนึกไปทั่วโลก คริชณะจิตสำนึกเป็นพรสำหรับมนุษยชาติ รูพะ โกสวามี ได้ชื่นชม องค์เชธันญะว่าทรงเป็นบุคคลผู้มีจิตใจกว้างขวางที่สุดในการให้ทาน เพราะความรักคริชณะเป็นสิ่งยากมากที่จะบรรลุถึง แต่องค์เชธันญะทรงแจกจ่ายโดยไม่คิดมูลค่าใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นหากผู้ใดให้เงินแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายคริชณะจิตสำนึก ทานนั้นให้ไปเพื่อเผยแพร่คริชณะจิตสำนึกจึงเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและหากผู้ใดปฏิบัติบูชาเหมือนที่กำหนดไว้ในวัด (วัดในประเทศอินเดียโดยทั่วไปจะมีพระปฏิมาของวิชณุหรือคริชณะเสมอ) นั่นเป็นโอกาสที่จะก้าวหน้าด้วยการถวายการบูชาและถวายความเคารพแด่พระองค์ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการอุทิศตนเสียสละรับใช้องค์ภควาน การบูชาในวัดเป็นสิ่งสำคัญ ได้ยืนยันไว้ในวรรณกรรมพระเวท (ชเวทาชวะทะระ อุพะนิชัดฺ 6.23) ว่า
ยัสยะ เดเว พะรา บัฺคธิร
ยะทฺา เดเว ทะทฺา กุโรฺ
ทัสไยเท คะทิฺทา ฮิ อารทฺาฮ
พระคาชันเท มะฮาทมะนะฮฺ
ผู้ที่มีความแน่วแน่ในการอุทิศตนเสียสละเพื่อองค์ภควานและมีพระอาจารย์ทิพย์ที่มีศรัทธาอย่างแน่วแน่เช่นเดียวกันนี้เป็นผู้ชี้นำ สามารถเห็นองค์ภควานด้วยการเปิดเผยเราไม่สามารถเข้าใจคริชณะจากการคาดคะเนทางจิตใจ สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนโดยตรงภายใต้การนำทางของพระอาจาร์ทิพย์ผู้ที่เชื่อถือได้ เป็นไปไม่ได้แม้แต่ในการที่จะเริ่มเข้าใจคริชณะ ได้ใช้คำว่า ทฺุ เป็นพิเศษ ณ ที่นี้เพื่อแสดงว่าไม่มีวิธีอื่นใดที่สามารถใช้ได้ แนะนำได้ หรือสามารถประสบผลสำเร็จในการเข้าใจคริชณะ
รูปลักษณ์ส่วนพระองค์ของคริชณะ เช่น รูปลักษณ์สองกรและสี่กรอธิบายด้วยคำว่า สุ-ดุรดารชัมฺ หมายความว่า“เห็นได้ยากมาก” ซึ่งแตกต่างจากรูปลักษณ์จักรวาลชั่วคราวที่แสดงให้อารจุนะเห็นโดยสิ้นเชิง รูปลักษณ์สี่กรของนารายะณะและรูปลักษณ์สองกรของคริชณะทรงเป็นอมตะและเป็นทิพย์ ในขณะที่รูปลักษณ์จักรวาลที่แสดงให้อารจุนะนั้นชั่วคราวไม่ถาวร คำว่า ทวัด อันเยนะ นะ ดริชทะ-พูรวัมฺ (โศลก 47)กล่าวว่า ก่อนหน้าอารจุนะไม่เคยมีผู้ใดเห็นรูปลักษณ์จักรวาลนั้นมาก่อน และยังแนะนำว่าในหมู่สาวกไม่มีความจำเป็นที่ต้องแสดงรูปลักษณ์นี้ ที่คริชณะทรงแสดงตามที่อารจุนะขอร้องเพื่อในอนาคตเมื่อมีคนอ้างว่าตนเองเป็นอวตารขององค์ภควาน ผู้คนจะได้ขอร้องให้แสดงรูปลักษณ์จักรวาลของเขาให้เห็น
คำว่า นะฺ ได้ใช้หลายครั้งในโศลกก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่าเราไม่ควรภูมิใจมากกับประกาศณียบัตร ในฐานะที่เป็นนักศึกษาทางวิชาการในวรรณกรรมพระเวทเหล่านี้ เราต้องปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ต่อคริชณะ ตรงนี้เท่านั้นจึงสามารถพยายามเขียนคำอธิบายเกี่ยวกับ ภควัต-คีตาฺ
คริชณะทรงเปลี่ยนรูปลักษณ์จักรวาลมาเป็นรูปลักษณ์สี่กร นารายะณะ จากนั้นทรงเปลี่ยนมาเป็นรูปลักษณ์ตามธรรมชาติสองกรของพระองค์ แสดงให้เห็นว่ารูปลักษณ์สี่กรและรูปลักษณ์อื่น ๆ ที่กล่าวไว้ในวรรณกรรมพระเวท ทั้งหมดออกมาจากคริชณะสองกรองค์แรกสุด คริชณะทรงเป็นองค์แรกของอวตารที่ออกมาทั้งหมดคริชณะทรงแตกต่างแม้จากรูปลักษณ์เหล่านี้ จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงแนวคิดที่ไร้รูปลักษณ์ สำหรับรูปลักษณ์สี่กรของคริชณะได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า แม้รูปลักษณ์สี่กรของคริชณะที่คล้ายพระองค์มากที่สุด (ทรงมีพระนามว่า มะฮา-วิชณฺุ ที่บรรทมอยู่ในมหาสมุทรจักรวาล และจากการหายใจของพระองค์จักรวาลมากมายจนนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาและเข้าไปในพระวรกายของพระองค์) ก็เป็นภาคที่แบ่งแยกขององค์ภควานเช่นเดียวกัน ดังที่ได้กล่าวไว้ใน บระฮมะ-สัมฮิทาฺ (5.48) ว่า
ยัสไยคะ-นิชวะสิทะ-คาลัม อทฺาวะลัมบยะ
จีวันทิ โลมะ-วิละ-จา จะกัด-อัณดะ-นาทฺาฮฺ
วิชณุร มะฮาณ สะ อิฮะ ยัสยะ คะลา-วิเชโช
โกวินดัม อาดิ-พุรุชัม ทัม อฮัม บฺะจามิฺ
“องค์ มะฮา-วิชณฺุ ที่จักรวาลอันนับไม่ถ้วนทั้งหลายได้เข้าไปและออกมาอีกครั้งจากพระวรกายของพระองค์ ด้วยวิธีการหายใจของพระองค์ มะฮา-วิชณฺุ ทรงเป็นภาคที่แบ่งแยกโดยสมบูรณ์ของคริชณะ ฉะนั้น ข้าขอบูชาโกวินดะ คริชณะ แหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง” ดังนั้น โดยสรุป เราควรบูชารูปลักษณ์ส่วนพระองค์ของคริชณะว่าเป็นองค์ภควานผู้ทรงมีความสุขเกษมสำราญนิรันดรและความรู้ พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของรูปลักษณ์วิชณุทั้งหมด ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของรูปลักษณ์อวตารทั้งหมด และทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดองค์แรก ดังที่ได้ยืนยันไว้ใน ภควัต-คีตาฺ
ในวรรณกรรมพระเวท (โกพาละ-ทาพะนี อุพะนิชัด 1.1) ข้อความนี้ปรากฏ
สัช-ชิด-อานันดะ-รูพะยะ
คริชณายาคลิชทะ-คาริเณฺ
นะโม เวดานธะ-เวดยายะ
กุระเว บุดดิฺ-สาคชิเณฺ
“ข้าขอแสดงความเคารพอย่างสูงแด่คริชณะผู้ทรงมีรูปลักษณ์ทิพย์แห่งความสุขเกษมสำราญ เป็นอมตะ และความรู้ ข้าขอแสดงความเคารพแด่พระองค์ เพราะว่าการเข้าใจพระองค์หมายถึงการเข้าใจคัมภีร์พระเวท ดังนั้น พระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ทิพย์สูงสุด” และได้กล่าวต่อไปว่า คริชโณ ไว พะระมัม ไดวะทัมฺ “คริชณะทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า” (โกพาละ-ทาพะนี อุพะนิชัดฺ 1.3) เอโค วะชี สารวะ-กะฮ คริชณะ อีดยะฮฺ “คริชณะองค์เดียวเท่านั้นทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า และทรงเป็นที่เคารพบูชา” เอโค ่พิ สัน บะฮุดฺา โย ่วะบฺาทิฺ “คริชณะทรงเป็นหนึ่ง แต่พระองค์ทรงปรากฏในรูปลักษณ์ที่ไม่จำกัด โดยอวตารที่แบ่งภาคออกไป” (โกพาละ- ทาพะนี อุพะนิชัดฺ 1.21)
บระฮมะ-สัมฮิทาฺ (5.1) กล่าวว่า
อีชวะระฮ พะระมะฮ คริชณะฮ
สัช-ชิด-อานันดะ-วิกระฮะฮฺ
อนาดิร อาดิร โกวินดะฮ
สารวะ-คาระณา-คาระณัมฺ
“บุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าคือคริชณะ ผู้ทรงมีพระวรกายแห่งความเป็นอมตะความรู้และความสุขเกษมสำราญ พระองค์ทรงไม่มีจุดเริ่มต้น เพราะทรงเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของแหล่งกำเนิดทั้งปวง”
ได้กล่าวไว้ที่อื่นว่า ยะทราวะทีรณัม คริชณาคฺยัม พะรัม บระฮมะ นะรา คริทิฺ “สัจธรรมสูงสุดทรงเป็นบุคคลมีพระนามว่าคริชณะ และบางครั้งพระองค์เสด็จมาบนโลกนี้” ทำนองเดียวกัน ใน ชรีมัด-บฺากะวะธัมฺ เราพบการพรรนาถึงอวตารต่างๆทั้งหลายของบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า และในรายพระนามนี้ พระนามคริชณะทรงปรากฏ แต่ได้กล่าวไว้ว่าคริชณะองค์นี้ไม่ใช่อวตารขององค์ภควาน แต่ทรงเป็นบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้าองค์เดิมด้วยพระองค์เอง (เอเท ชามชะ-คะลาฮ พุมสะฮ คริชณัส ทุ บฺะกะวาน สวะยัมฺ)
ทำนองเดียวกัน ใน ภควัต-คีตาฺ องค์ภควานตรัสว่า มัททะฮ พะระทะรัม นาน ยัทฺ “ไม่มีอะไรเหนือไปกว่ารูปลักษณ์ของข้าในรูปองค์ภควานชรีคริชณะ” พระองค์ตรัสใน ภควัต-คีตาฺ อีกแห่งหนึ่งว่า อฮัม อาดิร ฮิ เดวานามฺ “ข้าคือแหล่งกำเนิดของมวลเทวดา” และหลังจากเข้าใจ ภควัต-คีตาฺ จากคริชณะ อารจุนะทรงยืนยันด้วยคำพูดเหล่านี้ พะรัม บระฮมะ พะรัม ดฺามะ พะวิทรัม พะระมัม บฺะวานฺ “บัดนี้ ข้าพเจ้าเข้าใจโดยสมบูรณ์ว่า พระองค์คือบุคลิกภาพสูงสุดแห่งพระเจ้า พระองค์คือสัจธรรมที่สมบูรณ์ และพระองค์คือที่พักพิงของทุกสิ่งทุกอย่าง” ฉะนั้น รูปลักษณ์จักรวาลที่คริชณะทรงแสดงให้อารจุนะเห็นไม่ใช่รูปลักษณ์เดิมแท้ของพระองค์ รูปลักษณ์เดิมแท้คือคริชณะ รูปลักษณ์จักรวาลที่มีพระเศียรและพระกรเป็นพัน ๆ และพัน ๆ ทรงปรากฏเพื่อเรียกความสนใจของพวกที่ไม่มีความรักต่อองค์ภควานซึ่งไม่ใช่รูปลักษณ์เดิมแท้ของพระองค์
รูปลักษณ์จักรวาลไม่เป็นที่น่ารักสำหรับสาวกผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในความรักกับพระองค์ในความสัมพันธ์ทิพย์ที่แตกต่างกันไป องค์ภควานทรงแลกเปลี่ยนความรักทิพย์ในรูปลักษณ์เดิมคือคริชณะ ฉะนั้น สำหรับอารจุนะผู้มีความสัมพันธ์กับคริชณะอย่างใกล้ชิดในฐานะเพื่อน รูปลักษณ์แห่งปรากฏการณ์ทางจักรวาลนี้ไม่เป็นที่น่ายินดี แต่น่ากลัวอารจุนะทรงเป็นเพื่อนสนิทของคริชณะเสมอ จะต้องมีจักษุทิพย์ไม่ใช่บุคคลธรรมดาดังนั้นท่านจึงไม่หลงอยู่กับรูปลักษณ์จักรวาล รูปลักษณ์นี้อาจดูน่าอัศจรรย์สำหรับบุคคลที่ยุ่งอยู่กับการพัฒนาตนเองในกิจกรรมทางวัตถุ แต่สำหรับผู้ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้ รูปลักษณ์สองกรแห่งองค์ชรีคริชณะจะเป็นที่รักยิ่ง
มัท-คารมะ-คริน มัท-พะระโม
มัด-บัฺคธะฮ สังกะ-วารจิทะฮฺ
นิรไวระฮ สารวะ-บํูเทชุ
ยะฮ สะ มาม เอทิ พาณดะวะฺ
มัท-คารมะ-คริทฺ - ปฏิบัติการทำงานให้ข้า, มัท-พะระมะฮฺ - พิจารณาว่าข้าคือผู้สูงสุด, มัท-บัฺคธะฮฺ - ปฏิบัติการอุทิศตนเสียสละรับใช้แด่ข้า, สังกะ-วารจิทะฮฺ - เป็นอิสระจากมลทินแห่งกิจกรรมทางวัตถุและการคาดคะเนทางจิต, นิรไวระฮฺ - ปราศจากศัตรู, สารวะ-บํูเทชฺุ - ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย, ยะฮฺ - ผู้ซึ่ง, สะฮฺ - เขา, มามฺ - แต่ข้า, เอทิฺ - มา, พาณดะวะฺ - โอ้ โอรสพาณดุ
คำแปลฺ
อารจุนะที่รัก ผู้ปฏิบัติในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ข้าด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นอิสระจากมลทินแห่งกิจกรรมเพื่อผลทางวัตถุ และการคาดคะเนทางจิต ผู้ที่ทำงานให้แก่ข้า มีข้าเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิต และเป็นมิตรกับทุก ๆ ชีวิตแน่นอนว่าเขาจะมาหาข้า
คำอธิบายฺ
ผู้ใดปรารถนาที่จะเข้าพบบุคคลสูงสุดแห่งบุคลิกภาพของพระผู้เป็นเจ้าทั้งปวงที่คริชณะโลคะในท้องฟ้าทิพย์ และเชื่อมสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดสนิทสนมกับคริชณะองค์ภควานต้องรับเอาสูตรนี้ไปปฏิบัติดังที่พระองค์ตรัส ฉะนั้น โศลกนี้พิจารณว่าเป็นเนื้อหาสาระสำคัญของ ภควัต-คีตา, ภควัต-คีตาฺ เป็นหนังสือที่นำทางให้พันธวิญญาณผู้ปฏิบัติอยู่ในโลกวัตถุด้วยจุดมุ่งหมายที่จะเป็นเจ้าแห่งธรรมชาติ และไม่รู้ถึงชีวิตทิพย์อันแท้จริง ภควัต-คีตาฺ มีไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเข้าใจความเป็นอยู่ทิพย์ และความสัมพันธ์นิรันดรของเรากับบุคลิกภาพสูงสุดได้อย่างไร และสอนให้เรากลับคืนสู่เหย้าคืนสู่องค์ภควานได้อย่างไร โศลกนี้อธิบายอย่างชัดเจนถึงวิธีการที่เราสามารถประสบผลสำเร็จในกิจกรรมทิพย์หรือการอุทิศตนเสียสละรับใช้
สำหรับงาน เราควรถ่ายโอนพลังงานทั้งหมดไปยังกิจกรรมเพื่อคริชณะจิตสำนึกดังที่กล่าวไว้ใน บัฺคธิ-ระสามริทะ-สินดํฺุ (1.2.255)
อนาสัคทัสยะ วิชะยาน
ยะทฺารฮัม อุพะยุนจะทะฮฺ
นิรบันดฺะฮ คริชณะ-สัมบันเดฺ
ยุคทัม ไวรากยัม อุชยะเทฺ
ไม่มีผู้ใดควรทำงานอื่นใดนอกจากงานที่สัมพันธ์กับคริชณะเช่นนี้เรียกว่า คริชณะ-คาร มะ เราอาจปฏิบัติกิจกรรมมากมาย แต่ไม่ควรยึดติดกับผลงานของตน ผลของงานควรทำไปเพื่อคริชณะ ตัวอย่างเช่น เราอาจทำธุรกิจแต่ควรเปลี่ยนกิจกรรมนั้นมาเป็นคริชณะจิตสำนึก เราต้องทำธุรกิจเพื่อคริชณะ หากคริชณะทรงเป็นเจ้าของธุรกิจดังนั้น คริชณะควรได้รับความสุขกับผลกำไรของธุรกิจ หากนักธุรกิจเป็นเจ้าของเงินเป็นจำนวนแสนๆ ล้าน ๆ บาท และหากเราต้องถวายทั้งหมดนี้แด่คริชณะเราสามารถกระทำได้นี่คืองานเพื่อคริชณะ แทนที่จะก่อสร้างอาคารสูง ๆ เพื่อสนองประสาทสัมผัสของตนเอง เราสามารถก่อสร้างวัดอันวิจิตรตระการตาเพื่อคริชณะ อัญเชิญพระปฏิมาของคริชณะและบริหารจัดการเพื่อการรับใช้ต่อพระปฏิมาดังที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือแห่งการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่เชื่อถือได้ ทั้งหมดนี้คือ คริชณะ-คารมะฺ เราไม่ควรยึดติดกับผลงานของตน แต่ผลงานควรถวายให้คริชณะและควรรับเอา พระสาดัมฺ หรือส่วนที่เหลือจากการถวายให้คริชณะแล้ว หากผู้ใดก่อสร้างอาคารใหญ่ ๆ เพื่อคริชณะและอัญเชิญพระปฏิมาของคริชณะมาประทับ ผู้นั้นจะไม่ถูกห้ามให้มาอยู่ในอาคาร แต่ต้องเข้าใจว่าเจ้าของอาคารคือคริชณะ เช่นนี้เรียกว่าคริชณะจิตสำนึก อย่างไรก็ดี หากไม่สามารถสร้างวัดเพื่อคริชณะ เราสามารถทำความสะอาดวัดให้คริชณะ นั่นก็เป็นคริชณะ-คารมะ เช่นเดียวกัน หากมีที่ดินเราสามารถทำสวน ในประเทศอินเดียอย่างน้อยคนจนจะมีที่ดินหนึ่งแปลง สามารถใช้ประโยชน์ในผืนดินนั้นเพื่อคริชณะด้วยการปลูกไม้ดอกเพื่อถวายให้คริชณะ เราสามารถปลูกต้น ทุละสีฺ เพราะว่าใบ ทุละสีฺ มีความสำคัญมาก คริชณะทรงแนะนำไว้ใน ภควัต-คีตาฺ ว่า พัทรัม พุชพัม พฺะลัม โทยัมฺ คริชณะทรงปรารถนาให้เราถวายใบไม้ ดอกไม้ ผลไม้ หรือน้ำเพียงเล็กน้อยแด่พระองค์และจากการถวายเช่นนี้พระองค์จะทรงพอพระทัย ใบไม้นี้หมายถึงใบ ทุละสีฺ โดยเฉพาะ ดังนั้นเราสามารถปลูกต้น ทุละสีฺ และรดน้ำ ฉะนั้น แม้แต่คนที่ยากจนที่สุดสามารถปฏิบัติการรับใช้คริชณะ นี่คือตัวอย่างบางประการว่าเราสามารถปฏิบัติในการทำงานเพื่อคริชณะได้อย่างไร
คำว่า มัท-พะระมะฮฺ หมายถึงผู้พิจารณาว่า การได้มาอยู่ใกล้ชิดกับคริชณะที่พระตำหนักสูงสุดของพระองค์เป็นความสมบูรณ์สูงสุดของชีวิต บุคคลเช่นนี้ไม่ปรารถนาพัฒนาไปยังดาวเคราะห์ที่สูงกว่าเช่น ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ หรือโลกสวรรค์หรือแม้แต่โลกที่สูงสุดของจักรวาลนี้คือ บระฮมะโลคะฺ หรือพรหมโลก เขาไม่หลงใหลอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แต่ยึดมั่นเพียงที่จะย้ายไปยังท้องฟ้าทิพย์เท่านั้น และแม้ในท้องฟ้าทิพย์เขาก็ไม่พึงพอใจที่จะกลืนเข้าไปในรัศมี บระฮมะจโยทิฺ อันเจิดจรัส เพราะปรารถนาที่จะเข้าไปในโลกทิพย์สูงสุดชื่อว่า คริชณะโลคะ โกโลคะ วรินดาวะนะฺ ซึ่งตนเองมีความรู้ที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโลกนี้ ดังนั้น จึงไม่สนใจโลกอื่น ๆ ดังที่ได้แสดงไว้ด้วยคำว่า มัด-บัฺคธะฮฺ เขาจะปฏิบัติอย่างเต็มที่ในการอุทิศตนเสียสละรับใช้ โดยเฉพาะในเก้าวิธีแห่งการปฏิบัติอุทิศตนเสียสละเช่น การสดับฟัง การสวดภาวนา การระลึกถึง การบูชาการรับใช้พระบาทรูปดอกบัวขององค์ภควาน การถวายบทมนต์ การปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ การเป็นมิตรกับพระองค์ และการศิโรราบทุกสิ่งทุกอย่างแด่พระองค์ เขาสามารถปฏิบัติในกระบวนการอุทิศตนเสียสละทั้งเก้าวิธีนี้หรือแปด หรือเจ็ด หรืออย่างน้อยหนึ่ง วิธี เช่นนี้จะทำให้ชีวิตเขาสมบูรณ์อย่างแน่นอน
คำว่า สังกะ-วารจิทะฮฺ มีความสำคัญมาก ชีวิตไม่ควรไปคบหาสมาคมกับบุคคลผู้ต่อต้านคริชณะ ไม่เพียงแต่ผู้ที่ไม่เชื่อในองค์ภควานเท่านั้นที่ต่อต้านคริชณะแม้แต่พวกที่ยึดติดกับกิจกรรมเพื่อผลทางวัตถุ และพวกที่คาดคะเนทางจิตก็เป็นผู้ต่อต้านคริชณะเช่นกัน ดังนั้น การอุทิศตนเสียสละรับใช้ในรูปแบบที่บริสุทธิ์ได้อธิบายไว้ใน บัฺคธิ-ระสามริทะ-สินดํฺุ (1.1.11) ดังนี้
อันยาบิฺลาชิทา-ชูนยัม
กยานะ-คารมาดิ-อนาวริทัมฺ
อานุคูลเยนะ คริชณานุ-
ชีละนัม บัฺคธิร อุททะมาฺ
โศลกนี้ ชรีละ รูพะ โกสวามี กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า หากผู้ใดปรารถนาการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่บริสุทธิ์ ต้องเป็นอิสระจากมลทินทางวัตถุทั้งหมด และต้องเป็นอิสระจากการคบหาสมาคมกับบุคคลผู้ยึดติดอยู่กับกิจกรรมเพื่อผลทางวัตถุ และยึดติดอยู่กับการคาดคะเนทางจิต เมื่อเป็นอิสระจากการคบหาสมาคมที่ไม่พึงปรารถนา และจากมลทินแห่งความปรารถนาทางวัตถุเช่นนี้ เขาจะพัฒนาความรู้แห่งองค์คริชณะด้วยความชื่นชอบ เช่นนี้เรียกว่าการอุทิศตนเสียสละรับใช้ที่บริสุทธิ์ อานุคูลยัสยะ สังคัลพะฮ พราทิ คูลยัสยะ วารจะนัม (ฮะริ-บัฺคธิ-วิลาสะฺ 11.676) เขาควรคิดถึงคริชณะ และปฏิบัติเพื่อพระองค์ด้วยความชื่นชอบไม่ใช่ในเชิงลบ คัมสะเป็นศัตรูของคริชณะ จากจุดเริ่มต้นแห่งการประสูติของคริชณะ คัมสะได้วางแผนมากมายหลายวิธีที่จะสังหารพระองค์และเนื่องจากล้มเหลวทุกครั้ง เขาจึงคิดถึงคริชณะอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ขณะที่ทำงาน ขณะที่รับประทานอาหาร และขณะที่นอนอยู่ คัมสะจะมีคริชณะจิตสำนึกตลอดเวลาในทุก ๆด้าน แต่คริชณะจิตสำนึกเช่นนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบ ฉะนั้น ถึงแม้ว่าคัมสะจะคิดถึงคริชณะวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ถือว่าเป็นมารและในที่สุดก็ถูกคริชณะสังหาร แน่นอนว่าผู้ใดที่คริชณะสังหารจะบรรลุถึงความหลุดพ้นทันที แต่นั่นไม่ใช่จุดมุ่งหมายของสาวกผู้บริสุทธิ์ สาวกผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องการแม้แต่ความหลุดพ้น ท่านไม่ต้องการแม้แต่จะโอนย้ายไปยังโลกที่สูงที่สุด โกโลคะ วรินดาวะนะฺ จุดมุ่งหมายเดียวของท่านคือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ขอให้ได้รับใช้คริชณะ
สาวกของคริชณะเป็นมิตรกับทุก ๆ คน ดังนั้น ได้กล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่า ท่านไม่มีศัตรู (นิรไวระฮ)ฺ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? สาวกสถิตในคริชณะจิตสำนึกทราบว่า การอุทิศตนเสียสละรับใช้แด่คริชณะเท่านั้นที่สามารถปลดเปลื้องบุคคลจากปัญหาทั้งหลายทั้งปวงของชีวิต ท่านมีประสบการณ์โดยตรงเช่นกัน ดังนั้น จึงปรารถนาจะแนะนำระบบคริชณะจิตสำนึกนี้แด่สังคมมนุษย์ มีตัวอย่างในประวัติสาวกขององค์ภควานมากมายที่เสี่ยงชีวิตเพื่อเผยแพร่พระเจ้าจิตสำนึก ตัวอย่างที่น่าชื่นชมคือ พระเยซู คริสต์ ทรงถูกพวกที่ไม่ใช่สาวกตรึงไว้บนไม้กางเขน แต่พระองค์ทรงยอมสละชีวิตเพื่อเผยแพร่พระเจ้าจิตสำนึก แน่นอนว่าเป็นเพียงผิวเผินเท่านั้นที่เข้าใจว่าพระองค์ทรงถูกสังหารที่ประเทศอินเดียมีตัวอย่างมากมายในทำนองเดียวกันนี้ เช่น ทฺาคุระ ฮะริดาสะฺ และ พระฮลาดะ มะฮาราจะฺ ทำไมจึงเสี่ยงเช่นนี้? เพราะพวกท่านปรารถนาที่จะเผยแพร่คริชณะจิตสำนึกซึ่งเป็นงานที่ยาก บุคคลในคริชณะจิตสำนึกรู้ว่า หากมนุษย์ได้รับความทุกข์ก็เนื่องจากพวกเขาลืมความสัมพันธ์นิรันดรกับคริชณะ ดังนั้น ประโยชน์สูงสุดที่สามารถให้แก่สังคมมนุษย์คือปลดเปลื้องเพื่อนบ้านจากปัญหาทางวัตถุทั้งหลายทั้งปวงด้วยวิธีนี้ที่สาวกผู้บริสุทธิ์ปฏิบัติในการรับใช้องค์ภควาน บัดนี้เราสามารถจินตานาการได้ว่า คริชณะทรงมีพระเมตตาเพียงไรต่อพวกที่ปฏิบัติตนรับใช้พระองค์ ยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพระองค์ ดังนั้น แน่นอนว่าบุคคลเช่นนี้ต้องบรรลุถึงโลกสูงสุดหลังจากออกจากร่างนี้ไป
โดยสรุป รูปลักษณ์จักรวาลของคริชณะซึ่งเป็นปรากฏการณ์ไม่ถาวรและรูปลักษณ์แห่งกาลเวลาที่กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง และแม้แต่รูปลักษณ์แห่งพระวิชณุสี่กร คริชณะทรงเป็นผู้แสดงให้เห็นทั้งหมด ฉะนั้น คริชณะทรงเป็นแหล่งกำเนิดของปรากฏการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ คริชณะทรงมิใช่เป็นปรากฏการณ์ของ วิชวะ-รูพะฺ องค์เดิม หรือพระวิชณุเท่านั้น คริชณะทรงเป็นแหล่งกำเนิดของรูปลักษณ์ทั้งหมด มีพระวิชณุเป็นร้อย ๆ พัน ๆ องค์ แต่สำหรับสาวกไม่มีรูปลักษณ์ใดของคริชณะที่จะมีความสำคัญนอกจากรูปลักษณ์เดิมสองกร ชยามะ สุนดะระฺ ใน บระฮมะ-สัมฮิทาฺ ได้กล่าวไว้ว่า พวกที่ยึดมั่นอยู่กับรูปลักษณ์ ชยามะ สุนดะระฺ แห่งองค์คริชณะด้วยความรัก และด้วยการอุทิศตนเสียสละ จะสามารถเห็นพระองค์เสมอภายในหัวใจและสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น เราควรเข้าใจว่าคำอธิบายของบทที่สิบเอ็ดนี้คือ รูปลักษณ์แห่งองค์ชรีคริชณะเป็นเนื้อหาสาระสำคัญและสูงที่สุด
ดังนั้น ได้จบคำอธิบายโดย บัฺคธิเวดันธะ บทที่สิบเอ็ดของหนังสือฺ ชรีมัด บฺะกะวัด-กีทา ในหัวข้อเรื่องรูปลักษณ์จักรวาลฺ